ประเทศไทย, 27 กันยายน พ.ศ. 2564 – ผลการศึกษาของ VMware, Inc. (NYSE: VMW) ระบุว่า การบริการและประสบการณ์ผู้ป่
- มากกว่าครึ่ง (54%) กล่าวว่าพวกเขาสบายใจและตื่นเต้นที่มีแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิดำเนินการผ่าตัดพวกเขาผ่านระยะทางไกลด้วยหุ่นยนต์มากกว่าแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ที่ทำการผ่าตัดด้วยตนเอง
- ซึ่งสูงกว่าประเทศอื่น ๆ ที่ทำการสำรวจ: สหรัฐอเมริกา (42%) ฝรั่งเศส (43%) เยอรมนี (35%) และสหราชอาณาจักร (46%)
- มากกว่าครึ่ง (55%) ยังรู้สึกสบายใจและตื่นเต้นที่ได้รับการวินิจฉัยด้วยระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถเรียนรู้ที่จะตรวจหาความผิดปกติ เช่น เซลล์มะเร็ง แทนที่จะไปพบแพทย์
- 61% ยังเชื่อว่าบริการดิจิทัลเฮลธ์แคร์ช่วยให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังหรือโรคที่ต้องใช้เวลารักษาระยะยาวเข้าถึงระบบการรักษาได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากพวกเขาไม่จำเป็นต้องเดินทางหรือเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล อาศัยเพียงเซ็นเซอร์และสามารถตรวจสอบข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อวิเคราะห์อาการป่วยเมื่อพวกเขาต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์
อย่างไรก็ดีผลการศึกษาเดียวกันยังเผยให้เห็นว่า มีเพียง 36% ของผู้ตอบแบบสอบถามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น ที่ยินดีจะพูดคุยกับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพในรูปแบบดิจิทัล เพื่อลดช่องว่างและผลักดันให้เกิดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ทางการแพทย์ให้มากขึ้น ผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพและผู้ให้บริการหน้าใหม่สามารถใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น คลาวด์ โมเดิร์นแอปพลิเคชัน และบิ๊กดาต้า เพื่อเปิดใช้งานและให้บริการด้านเฮลธ์แคร์ที่ดีขึ้นและแม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมรองรับอนาคตของ “Connected Healthcare” ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เทคโนโลยีแห่งอนาคตกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์
การเปิดรับการใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาด้านสุขภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงสูงอยู่ เนื่องจากผู้บริโภคเชื่อว่าเทคโนโลยีที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตจะเป็นกุญแจสำคัญในการนำเสนอแนวทางแก้ไขในทศวรรษหน้า:
- 82% เชื่อว่าเราสามารถหาวิธีแก้ปัญหาเพื่อลดการแพร่กระจายของ Covid-19 ซึ่งสูงกว่าประเทศที่ทำการสำรวจอื่น ๆ : สหรัฐอเมริกา (59%) ฝรั่งเศส (60%) เยอรมนี (58%) และสหราชอาณาจักร (58%) ) ขณะที่ 80% เชื่อว่าเทคโนโลยีสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและผู้พิการได้
- 76% เชื่อว่าเทคโนโลยีสามารถช่วยปรับปรุงการดูแลสุขภาพจิตได้ เช่น การเปิดใช้งานการบำบัดเสมือนจริง
- 74% เชื่อว่าเราสามารถลดความเสี่ยงของการผ่าตัดแบบสอดเครื่องมือในร่างกายได้อย่างมาก
โอกาสของเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับธุรกิจเฮลธ์แคร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผู้บริโภคเปิดรับเทคโนโลยีแห่งอนาคต ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (70%), 5G (78%) และการจดจำใบหน้า (75%) โดยมากกว่าหนึ่งในสามของผู้ตอบแบบสอบถาม (37%) กล่าวว่า 5G จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้อุปกรณ์สวมใส่สามารถตรวจสอบสุขภาพของผู้สวมใส่ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ได้รับการแจ้งเตือนและตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้ทันที
ในประเทศไทยนวัตกรรมที่ยืดหยุ่นและการลงทุนในเทคโนโลยี รวมทั้งบริการทางการแพทย์มีส่วนสนับสนุนการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ได้มีการยื่นคำขอลงทุนมากกว่า 50 รายการในโครงการมูลค่ารวม 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สิ่งนี้มีส่วนทำให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการดูแลสุขภาพเพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคชาวไทยที่มีแนวโน้มจะหันมารับบริการด้านการดูแลสุขภาพเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต:
- กว่าครึ่ง (60%) รู้สึกสบายใจและปลอดภัยกับระบบการผ่าตัดแบบส่องกล้องด้วยหุ่นยนต์ในรูปแบบรีโมทมากกว่าแพทย์ลงมือผ่าตัดด้วยตนเอง
- 72% รู้สึกสบายใจและตื่นเต้นที่ได้รับการวินิจฉัยจากคอมพิวเตอร์ที่สามารถตรวจหาความผิดปกติ เช่น เซลล์มะเร็ง โดยไม่ต้องเดินทางไปพบแพทย์ จัดว่าสูงที่สุดในประเทศที่ทำการสำรวจ ขณะที่ 68% เชื่อว่าบริการดิจิทัลเฮลธ์แคร์ช่วยให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังหรือโรคที่ต้องใช้เวลารักษาระยะยาวเข้าถึงระบบการรักษาได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากพวกเขาไม่จำเป็นต้องเดินทางหรือเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล อาศัยเพียงเซ็นเซอร์และสามารถตรวจสอบข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อวิเคราะห์อาการป่วยเมื่อพวกเขาต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์
สร้างและรักษาความไว้วางใจทางดิจิทัลพร้อมรองรับอนาคตเฮลธ์แคร์
มีความเป็นไปได้ว่าเทคโนโลยีสามารถเปลี่ยนแปลงโลกของการดูแลสุขภาพได้ ดังนั้นสิ่งที่องค์กรด้านสุขภาพต้องคำนึงถึง นอกจากการสร้างความไว้วางใจในเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการดูแลสุขภาพสำหรับอนาคตแล้ว ยังรวมถึงความกังวลด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคอีกด้วย
โดยรายงานยังระบุว่า มีเพียง 31% เท่านั้นที่มั่นใจว่าผู้ให้บริการด้านเฮลธ์แคร์จะดูแลข้อมูลของพวกเขาให้ปลอดภัยได้ องค์กรด้านสุขภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถรักษาประสบการณ์ด้านสุขภาพในรูปแบบดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย และสร้างความไว้วางใจในหมู่ผู้บริโภคเพื่อเร่งสร้างการยอมรับและเชื่อมั่นในนวัตกรรมใหม่เหล่านี้
เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตในอุตสาหกรรม
เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงของบริการดิจิทัลเพื่อการดูแลสุขภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ VMware ได้จัดลำดับความสำคัญที่องกรค์ต่าง ๆ ควรทราบดังนี้:
- เสริมสร้างขีดความสามารถให้แก่ผู้ให้บริการด้านเฮลธ์แคร์เพื่อสร้างมัลติคลาวด์และแอปพลิเคชันที่พร้อมรองรับการใช้งานในอนาคต: ปลดล็อกมัลติคลาวด์สำหรับอนาคตด้วยนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนผ่านแอป เพิ่มความคล่องตัวและปลอดภัยให้สภาพแวดล้อม อันช่วยสร้างนวัตกรรมได้อย่างต่อเนื่องสำหรับการดูแลสุขภาพในยุคถัดไป
- ใช้นวัตกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบุคลากรที่ทำงานแบบรีโมท: โซลูชั่นที่รองรับรูปแบบการทำงานของพนักงานในอนาคตจะช่วยให้พนักงานดิจิทัลได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้น และเร่งให้เกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดียิ่งขึ้น
- มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแท้จริงที่พร้อมรับมือนวัตกรรมที่เกิดใหม่อยู่เสมอ: แนวทางการรักษาความปลอดภัยที่แท้จริงสำหรับองค์กร ที่จะเป็นเกราะอีกชั้นช่วยป้องกันระบบปฏิบัติการที่สำคัญ และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับนวัตกรรมด้านเฮลธ์แคร์และความยืดหยุ่นที่รวดเร็ว
- Software-defined, เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการวิเคราะห์และการตรวจสอบแบบเรียลไทม์: ย้ายข้อมูลที่มีความแม่นยำสูงและความหน่วงแฝงไปยังคลาวด์และระหว่าง edge location เพื่อนำเสนอโซลูชันการดูแลเสมือนจริงที่รวดเร็ว ปลอดภัย และเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
เกี่ยวกับวีเอ็มแวร์
วีเอ็มแวร์เป็นผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีความซับซ้อน บริการคลาวด์, เน็ตเวิร์กกิ้ง, ระบบซีเคียวริตี้และดิจิทัลเวิร์คเพลสของวีเอ็มแวร์พร้อมมอบรากฐานดิจิทัลแบบไดนามิกและมีประสิทธิภาพให้กับลูกค้าทั่วโลก ภายใต้ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์มากมาย โดยสำนักงานใหญ่วีเอ็มแวร์ตั้งอยู่ที่เมืองพาโล อัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย วีเอ็มแวร์ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นพลังสนับสนุนที่ดี จากแนวโน้มและผลกระทบการจัดการนวัตกรรมเชิงพื้นที่ในระดับโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ https://www.vmware.com/company