โรงเรียนสาธิตสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (สาธิต พีไอเอ็ม) ฟอร์มทีมสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ ส่งเสริมนักเรียนสู่นักคิด นักนวัตกรรม นักจัดการเชิงธุรกิจ โชว์ผลงาน OpenMirai แพลตฟอร์มเพื่อการศึกษา คว้า “รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1” ในโครงการ Pitch@School Competition 2021 ( Semester 1) จัดโดย Global Entrepreneurship Network Thailand , (GEN Thailand) ร่วมกับ Global Entrepreneurship Network (GEN) ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลกที่ดำเนินการโครงการกว่า 180 ประเทศ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและโอกาสให้คนรุ่นใหม่สามารถเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เป็นนักประกอบการ และขยายธุรกิจสตาร์ทอัพได้ง่ายขึ้นอย่างไร้พรมแดน ผ่านแรงสนับสนุนของเครือข่ายทั่วมุมโลกทั้งภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ องค์กรภาครัฐและเอกชนที่เปี่ยมศักยภาพ ล่าสุดได้จัดงานสัปดาห์ผู้ประกอบการโลก Global Entrepreneurship Week 2021 (GEW 2021) ประเทศไทย งานที่จะจุดประกายนักสร้างธุรกิจไทย มุ่งหวังสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนผ่านกิจกรรมต่างๆ ได้ค้นหาศักยภาพของตนเอง ปลูกฝังการเป็นผู้ริเริ่ม สร้างสรรค์นวัตกรรม ผู้ประกอบการรุ่นใหม่
ทีม OpenMirai สาธิต พีไอเอ็ม โดยสมาชิกทั้ง 5 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แผนการเรียนวิทย์ –คณิต ( Robotics and AI) ได้แก่ นายอภิภูมิ ชื่นชมภู , นายภาวิต ลิมปสุธรรม , นางสาวภิญฐ์สิตา เนียมอินทร์ , นายปัณณ์ เภตรา และ นายณพสัญญ์ จีระวัฒนะนนท์ ได้รับเชิญร่วมงานและนำเสนอผลงานในฐานะผู้ชนะเลิศจากการแข่งขัน Pitch@School 2021
โครงการ Pitch@School คือโปรแกรมส่งเสริมความคิดผู้ประกอบการและการแข่งขันนำเสนอโครงการธุรกิจ สำหรับเยาวชนรุ่นใหม่ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ตระหนักถึงปัญหาที่แท้จริง เกิดความคิดวิเคราะห์ และการระดมความคิดกับเพื่อนร่วมทีมเพื่อหาทางออกอย่างมีตรรกะ แก้ปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยโครงการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพ และพันธมิตรระดับโลกร่วมกันเป็นโค้ชเพื่อเสนอโซลูชันที่ดีที่สุด และกระบวนการเรียนรู้ ประสบการณ์ ที่มีประสิทธิภาพแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ โดยในปี 2021 นับเป็นปีแรกของการเปิดเวทีแข่งขันในระดับมัธยมศึกษา ทีม OpenMirai นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสาธิต พีไอเอ็ม เป็นทีมที่คว้า “รางวัลชนะเลิศ ( The Winner) ” การนำเสนอผลงานเริ่มต้นด้วยแนวคิดที่สนใจอยากแก้ปัญหาด้านการศึกษา สำหรับผู้ที่ไม่รู้ว่าอยากเรียนอะไร ชอบอะไร หรือรู้แล้วว่าชอบทางไหนแต่จะทำอย่างไรเพื่อไปถึงอาชีพที่อยากทำในอนาคตได้
OpenMirai ( https://openmirai.com ) โดดเด่นด้วย Career Based Learning เป็นโมเดลการเรียนรู้ด้วยการลงมือทำจริง แพลตฟอร์มจะมีการเลือกสายงานด้วยเทคโนโลยี AI เพื่อวิเคราะห์ว่าผู้ใช้งานแมตช์กับสายงานไหน และจะจัดระบบเลือกวิชาต่างๆ ที่เหมาะสม มุ่งเน้นไปที่สายอาชีพ ไม่ใช่การเรียนแค่เนื้อหาในหนังสือเท่านั้น แต่เป็นการเพิ่มประสบการณ์ให้ผู้เรียนมั่นใจมากขึ้น โดยจะไม่มีการสอบข้อเขียน ไม่มีเกณฑ์ตัดสินผิดถูก เมื่อเรียนจบจะมี Project ให้ทำ เพื่อดูว่าผู้เรียนได้ใช้ความรู้กับสิ่งที่ตัวเองเรียนมากน้อยแค่ไหน ประยุกต์ใช้ได้ดีหรือไม่
หนึ่งในสมาชิกทีม กล่าวว่า “OpenMirai เกิดจาก Mirai แปลว่าอนาคตในภาษาญี่ปุ่น นำมารวมกับคำว่า Open ที่แปลว่าเปิดในภาษาอังกฤษ จึงแปลได้ว่า “เปิดทางสู่อนาคต ” และความตั้งใจตั้งชื่อให้มีความหมายด้านคอนเซ็ปต์ เพราะญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นชาติเเห่งความใส่ใจรายละเอียด อีกทั้งคำว่า Mirai หากเขียนจากหลังไปหน้าจะได้เป็นคอนเซ็ปต์ของโปรเจกต์ด้วยซึ่งก็คือ I ย่อมาจาก Information, A ย่อมาจาก AI Analytics, R ย่อมาจาก Routing, I ย่อมาจาก In deep to career และ M ย่อมาจาก Model ลงตัวที่ OpenMirai”
โปรเจกต์นี้ยังมี Strategic Partner หรือพันธมิตรทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือพร้อมร่วมทำงาน และมี Customer Journey ที่ชัดเจนว่าลูกค้าจะกลับมาใช้บริการซ้ำอีกได้อย่างไร สิ่งสำคัญคือมีทีมสตาร์ทอัพที่มีประสบการณ์ พร้อมจะทำแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมาใช้จริงให้กรรมการได้เห็น โดยมีนักเรียนมัธยมฯ วัยที่อยากจะค้นหาตัวเอง คนที่ตอบยังไม่ได้ว่า “โตขึ้นจะเป็นอะไร” หรือคนที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรแต่อาจจะมีความชอบอื่นๆ อีกเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก สอดคล้องกับการเรียนสาธิตพีไอเอ็ม โรงเรียนจะเน้นให้ความสำคัญกับนักเรียนเรียนเป็นหลัก เรียนตามความถนัดผ่านการลงมือทำ ทุกคนมีส่วนร่วมลงมือปฏิบัติมากกว่าการเรียนแบบท่องจำ ส่งผลให้มีความรู้ความสามารถค้นพบตัวตน และได้ทักษะที่นำไปใช้ได้จริง
OpenMirai ถือได้ว่าเป็นสตาร์ทอัพรุ่นใหม่กล้าคิดนอกกรอบ ค้นหาไอเดียใกล้ตัวปรับเข้ากับความเปลี่ยนแปลงของเทรนด์โลก เพื่อเป็นแรงบันดาลใจแก่คนรุ่นใหม่ฝันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ และให้เกิดการสนับสนุน ส่งเสริม พัฒนาสู่นวัตกรรมขับเคลื่อนของประเทศ ซึ่งจุดเด่นของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันคือมีศักยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์ หากได้รับการบ่มเพาะจากจุดเล็กๆ เช่น สถานศึกษาที่เป็นแหล่งจุดประกายและส่งเสริมองค์ความรู้ให้แก่นักเรียนได้ดีที่สุด ซึ่งสาธิตพีไอเอ็มได้เล็งเห็นความสำคัญของการเตรียมเด็กไทยสู่ศตวรรษที่ 21 โดยเน้นให้ผู้เรียนมีความสุขกับสิ่งที่ตนเองสนใจ ส่งเสริมการเรียนตามความถนัด เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกทักษะผ่านกิจกรรมหลากหลาย ด้วยรูปแบบการเรียนแบบ Active Learning นำเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการเรียนการสอน ทุกห้องเรียนเป็น Digital Classroom รองรับการใช้งานของครูและนักเรียน อำนวยความสะดวก เพิ่มพลังในการเรียนรู้ สนับสนุนให้การสอนและต่อยอดไอเดียใหม่ๆ อย่างไร้ขีดจำกัด คิดสร้างสรรค์ชิ้นงานและนวัตกรรมได้อย่างเต็มศักยภาพ จากการได้ลงมือทำจริง พร้อมด้วยสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้อย่างเต็มที่ จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จุดประกายให้นักเรียนอีกหลายคนกล้าลงมือทำ เชื่อว่าการเริ่มต้นเล็กๆ นี้จะก่อให้เกิดผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้ในอนาคต ในขณะเดียวกันยังช่วยเสริมศักยภาพให้กับระบบเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดีพร้อม รวมทั้งมีส่วนสร้างกระแสความตื่นตัวในธุรกิจสตาร์ทอัพให้เป็นความสนใจของกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ และก้าวสู่สมรภูมิทางธุรกิจระดับนานาชาติให้เป็นที่ประจักษ์ได้อย่างเต็มภาคภูมิ