Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

สดช. ผนึก กสทช. CAT AIS TRUE ปั้น Smart Sign On สำเร็จ ลงทะเบียนครั้งเดียวใช้ไวไฟ @TH Wi-Fi ฟรี

สดช. ดึงความร่วมมือ กสทช. CAT AIS และ TRUE เปิดตัวบริการ Smart Sign Onเพิ่มความสะดวกประชาชน ลงทะเบียนครั้งเดียวกับ @TH Wi-Fi ใช้งาน Free Wi-Fi ได้จากผู้ให้บริการทุกรายที่เข้าร่วม

นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.)เป็นประธานในงานเปิดตัวโครงการ Smart Sign On เป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมของประเทศที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการจากภาครัฐ ดังนั้นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจึงมุ่งส่งเสริการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเทอร์เน็ตมาเป็นพื้นฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ช่วยกระจายโอกาสในการสร้างเศรษฐกิจในระดับฐานรากให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น สอดรับกับวิสัยทัศน์ที่ต้องการผลักดันการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทศไทย 4.0
“โครงการที่จัดทำขึ้นนี้ นอกจากจะก่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงแก่ประชาชนแล้ว ยังมีอีกมิติหนึ่งคือการพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการผลักดันและสร้างสิ่งดี ๆ ซึ่งจะเป็นพลังในการขับเคลื่อนสังคมและประเทศชาติไปสู่อนาคตได้อย่างเข้มแข็ง และก่อให้เกิดความภูมิใจในการสร้างประโยชน์แก่ส่วนรวมร่วมกัน”

นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.)ยังกล่าวถึงการริเริ่มจัดทำโครงการ Smart Sign On ว่าเกิดจกความต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการให้สะดวกยิ่งขึ้น โดยจัดให้มีระบบตรวจสอบสิทธิ์การเข้าใช้บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะที่เชื่อมโยงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง รวมทั้งบูรณาการร่วมกับโครงการบริการอินเทอร์เน็ตชายขอบ ซึ่งผู้ใช้บริการลงทะเบียนเพียงครั้งเดียว แต่จะสามารถใช้บริการ Free WiFI ได้จากผู้ให้บริการทุกรายที่เข้าร่วมโครงการ เช่น โครงการ Smart City จังหวัดภูเก็ต โครงการบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะสู่ชุมชนรวมทั้งการให้บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะขอผู้ให้บริการภาคเอกชน โดยประชาชนทั่วประเทศ ทั้งที่เป็นผู้ใช้งานใหม่และผู้ใช้งานรายเดิมสามารถเข้าใช้งาน Fee WiFi นี้ได้ในชื่อบริการ @TH WiFi ด้วย Username และ Password เดียวกันทั้งในรูปแบบWeb Portal และ Mobile Application

“การจัดทำโครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ และบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตชั้นนำ โดยเฉพาะ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รวมทั้ง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ที่ร่วมบูรณาการในการพัฒนาการให้บริการระบบตรวจสอบสิทธิ์การเข้าใช้งาน (Smart Sign On) ได้เป็นผลสำเร็จ โดยในขณะนี้ประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวสามารถใช้งานได้แล้วที่จุดให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรีในที่สาธารณะที่กระจายอยู่ตามสถานที่ชุมชน อาทิ สถานศึกษา สถานบริการภาครัฐ สถานีขนส่ง รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั่วประเทศ” นางวรรณพร กล่าว


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เร็ว แรง ไร้จุดอับสัญญาณ ทุกการเชื่อมต่อกับ AirEngine 6760 X1 Series

แอคเซสพอยต์ความเร็วสูง Wi-Fi 6 สำหรับใช้ภายในอาคารรุ่นใหม่ล่าสุด AirEngine 6760-X1 และ AirEngine 6760-X1E มาตรฐาน IEEE 802.11ax ตอบโจทย์ความต้องการของยุคดิจิทัลทรานสฟอร์เมชั่น การันตีคุณภาพสัญญาณที่ครอบคลุมทุกพื้นที่แบบไร้จุดอับ เหมาะสำหรับติดตั้งในพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากและมีความซับซ้อนของพื้นที่ เช่น ห้างสรรพสินค้า สำนักงาน สนามกีฬา รวมถึงทางเดินในอาคาร

คุณสมบัติเด่น:
Smart Antenna: เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของหัวเว่ยซึ่งช่วยรักษาความเสถียรของสัญญาณได้ตลอดเวลา รวมถึงในขณะที่ผู้ใช้งานเคลื่อนที่ พร้อมลดสัญญาณรบกวนโดยอัตโนมัติ และให้ระยะการครอบคลุมที่กว้างกว่า

  • IoT Slot แบบ Built-in: รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ อาทิเช่น BLE 5.0, ZigBee, RFID และ Thread
  • Triple Radio (Dual 5GHz ): รองรับการใช้งาน 3 คลื่นความถี่ ได้แก่ 2.4GHz (4×4) + 5GHz (4×4) + 5GHz (4×4) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถรองรับผู้ใช้งานได้มากขึ้น
  • Right to Use RTU: สามารถอัพเกรดจากความเร็ว 8.35Gbps ที่ 10 spatial stream ให้เป็นความเร็วสูงสุดถึง 10.75Gbps ที่ 12 spatial stream โดยการอัพเกรดความสามารถด้วย RTU license
  • บริหารจัดการได้ทุกรูปแบบ: สามารถเลือกการทำงานได้ในโหมดสแตนด์อโลน หรือจะเป็นการทำงานร่วมกับ Controller รวมถึง การทำงานร่วมกับระบบบริหารจัดการผ่าน Cloud ได้ด้วย
  • ความเร็วระดับ 10 Gbps: เพิ่มความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อด้วยความเร็ว 10 Gbps โดยรองรับได้ทั้งสาย UTP และสายไฟเบอร์ออพติค

ข้อมูลเพิ่มเติม: e.huawei.com/th, ช่องทางติดต่อ: Facebook.com/HuaweiEnterpriseThailand


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

หัวเว่ยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ AirEngine Wi-Fi 6 เร่งองค์กรให้ก้าวสู่ยุคเครือข่ายไร้สายเต็มรูปแบบ

กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร / 13 มีนาคม 2563 — หัวเว่ยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ซีรีส์ AirEngine Wi-Fi 6 รวม 10 รุ่น ในงานเปิดตัวอุปกรณ์และโซลูชัน ปี 2563 ของหัวเว่ย ณ กรุงลอนดอน ช่วยให้องค์กรก้าวเข้าสู่ยุคเครือข่ายไร้สายอย่างสมบูรณ์ เร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัลให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วผ่านการสร้างเครือข่ายองค์กรแบบไร้สายที่เชื่อมต่อกันอย่างเต็มรูปแบบ ยกระดับการทำงานในองค์กร สายการผลิต และบริการอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ซีรีส์ใหม่นี้ ผลิตภัณฑ์เรือธงรุ่น AirEngine8760 AP มีอัตราการส่งข้อมูลสูงสุดถึง 10.75 Gbps ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมถึงสองเท่า สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่ผลิตภัณฑ์ Wi-Fi 6


มร. ชิว เหิง ประธานฝ่ายการตลาด และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์

เปิดตัวอุปกรณ์ AirEngine Wi-Fi 6 ซีรีส์ใหม่

ในงาน หัวเว่ยได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ 3 ซีรีส์ ได้แก่ AirEngine 8700, AirEngine 6700 และ AirEngine 5700 ครอบคลุมการใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร ซึ่งจะช่วยพัฒนาประสบการณ์การใช้งานเครือข่ายได้อย่างมีนัยสำคัญในสถานการณ์ดังต่อไปนี้

สถานการณ์ที่มีการใช้งานเครือข่ายหนาแน่นสูง เช่น สำนักงาน ห้องประชุม สนามกีฬา อาคารผู้โดยสาร และสถานีรถโดยสารสาธารณะ
การใช้งานวิดีโอความละเอียดสูง (HD) เช่น การสอนแบบเสมือนจริงหรือเพิ่มความเสมือนจริง (VR/AR) และการประชุมผ่านทางวิดีโอ 4K/8K
การใช้งานในโรงงานที่ควบคุมด้วยเครือข่ายไร้สาย เช่น รถขนส่งอัตโนมัติ (AGV)
การใช้งานแบบผสมผสานทั้ง IoT และ Wi-Fi เช่น ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และองค์กรอัจฉริยะ
การให้บริการเครือข่ายสาธารณะสำหรับพื้นที่ภายนอกอาคาร เช่น บริเวณลานโล่ง และถนนต่าง ๆ

ปัจจุบันองค์กรจำนวนมากเริ่มใช้งานหรือกำลังพิจารณาการใช้ Wi-Fi 6 เป็นเทคโนโลยีหลักสำหรับเครือข่ายขององค์กร มร. แทม เดลล์โอโร ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารเดลล์โอโร กรุ๊ป กล่าวถึง Wi-Fi 6 ว่า “เราเห็นว่า Wi-Fi 6 เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากตลาดเริ่มเปลี่ยนจากกลุ่มผู้ใช้เทคโนโลยีใหม่รุ่นแรก ๆ ไปสู่ตลาดวงกว้างแล้วในปี 2563 นี้ ส่วนโรงงานต่าง ๆ ตอนนี้ก็เริ่มมีการใช้งานเทคโนโลยี Wi-Fi 6 ในรุ่นถัดไปที่มีฟีเจอร์ที่สมบูรณ์ในราคาที่สูงกว่า Wi-Fi5 หรือ Wi-Fi 4 ไม่มากนัก”

ในขณะที่เราเริ่มก้าวเข้าสู่ยุคเครือข่ายไร้สายอย่างเต็มรูปแบบ เครือข่าย Wi-Fi 6 จำเป็นต้องมีคุณลักษณะที่ชัดเจน 3 ประการ คือ ความเร็วสูง เชื่อมต่อได้ตลอดเวลา และความเร็วระดับ 100 Mbps ในทุกพื้นที่

หัวเว่ยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ซีรีส์ AirEngine Wi-Fi 6 รวมถึง Access Point 10 รุ่น
ความเร็วสูง: AirEngine Wi-Fi 6 ของหัวเว่ยมีอัตราการส่งข้อมูลสูงสุดถึง 10.75 Gbps สูงกว่าเครือข่ายแบบมีสาย ที่ระดับการเข้าถึงเครือข่ายองค์กรเป็นครั้งแรก

ในอนาคตจะมีจำนวนอุปกรณ์ที่ต้องเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ในองค์กรเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 10 เท่า และอุปกรณ์แต่ละชิ้นจะต้องใช้แบนด์วิดท์ (ความกว้างช่องสัญญาณ) อย่างน้อย 50 Mbps สำหรับแอปพลิเคชันวิดีโอความคมชัดสูง (HD) เช่น วิดีโอ 4K ด้วยเหตุนี้ AirEngine Wi-Fi 6 ของหัวเว่ยจึงออกแบบให้มีจำนวนเสารับส่งและ Spatial Stream มากที่สุดในอุตสาหกรรม (16 Transmit 16 Receive และ 16 Spatial Streams) ทำให้อัตราการส่งข้อมูลทำได้สูงสุดถึง 10.75Gbps สองเท่าของค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม

เชื่อมต่อตลอดเวลา: AirEngine Wi-Fi 6 ของหัวเว่ย โดดเด่นด้วยความครอบคลุมของสัญญาณที่มากกว่า, ไม่มีอัตราการสูญเสียข้อมูล และมีความหน่วงต่ำระดับ Ultra-Low ตอบโจทย์ความต้องการด้านคุณภาพเครือข่ายองค์กรเพื่อให้ระบบที่มีความสำคัญสูงสุดทำงานได้อย่างราบรื่นและไม่มีการหยุดชะงัก

ทั้งนี้เพื่อช่วยให้องค์กรเชื่อมต่อบริการสำคัญ ๆ กับเครือข่าย Wi-Fi ได้ ผลิตภัณฑ์ AirEngine Wi-Fi6 ของหัวเว่ยใช้เสาอากาศอัจฉริยะที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น เพื่อการครอบคลุมที่เสถียรยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ Wi-Fi 6 อื่น ๆ ผลิตภัณฑ์ AirEngine Wi-Fi 6 ของหัวเว่ยให้สัญญาณที่แรงกว่าเท่าตัว และครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้นร้อยละ 20 พร้อมรับประกันความแรงของสัญญาณในพื้นที่บริเวณสุดระยะครอบคลุม นอกจากนี้ เทคโนโลยี Lossless Roaming ที่ไม่มีใครเทียบเท่าของหัวเว่ยพร้อมรับประกัน Zero Packet Loss ป้องกันข้อมูลสูญหาย พร้อมอัตราความสำเร็จของการโรมมิ่งข้อมูลร้อยละ 100 ช่วยให้ปฏิบัติการและการทำงานในสำนักงานแบบไร้สายมีความเสถียรมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ AirEngine Wi-Fi 6 ของหัวเว่ยใช้เทคโนโลยี Dynamic Turbo (เทคโนโลยีเร่งความเร็วการใช้งานอัจฉริยะ) เพื่อให้มีความหน่วงข้อมูลระดับ Ultra-Low หรือเพียง 10 ms ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมครึ่งหนึ่ง โดยค่าความหน่วงต่ำระดับนี้ทำให้การใช้งาน VR, AR และวิดีโอระดับ HD มีความเสถียรยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ความเร็วคงที่ระดับ 100 Mbps ในทุกพื้นที่: ด้วยเทคโนโลยี 5G ระดับนวัตกรรมของหัวเว่ย ผลิตภัณฑ์ AirEngine Wi-Fi 6 ของหัวเว่ย สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายความเร็ว 100 Mbps ครอบคลุมทุกพื้นที่ภายในองค์กร ได้อย่างต่อเนื่องในระดับการใช้งานที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของอุปกรณ์ประเภทนี้ในอุตสาหกรรม

ในอุตสาหกรรม Wi-Fi นั้น การรับประกันแบนด์วิดท์ไม่ให้เกิดการขัดข้องและให้อุปกรณ์แต่ละชิ้นสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นความท้าทายของอุตสาหกรรมมาโดยตลอด และเพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว ผลิตภัณฑ์ AirEngine Wi-Fi 6 ของหัวเว่ย ได้ผสมผสานเทคโนโลยี 5G ที่ล้ำหน้าเข้าไปในเครือข่าย Wi-Fi ทำให้ในสถานการณ์ที่มีอุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายเป็นจำนวนมาก อุปกรณ์เชื่อมต่อแต่ละชิ้นจะสามารถรับส่งข้อมูลได้ที่ความเร็วเสถียรระดับ 100 Mbps ในทุกพื้นที่ ทุกเวลา

“เราเชื่อว่าการยกระดับเครือข่ายไร้สายไปเป็น Wi-Fi 6 จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดในกระบวนการทรานสฟอร์มด้านดิจิทัลขององค์กร ซึ่งแตกต่างจาก Wi-Fi รุ่นก่อนหน้าเป็นอย่างมาก หัวเว่ยได้นำเทคโนโลยี 5G ระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรม มาใช้กับผลิตภัณฑ์ AirEngine Wi-Fi 6 ของหัวเว่ย ทั้งเสาอากาศ อัลกอริทึม และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ก้าวหน้าที่สุดในอุตสาหกรรม AirEngine Wi-Fi 6 ของหัวเว่ยจะช่วยสร้างเครือข่ายไร้สายคุณภาพสูงให้องค์กรได้ “มร. จ้าว จื้อเผิง ประธานกลุ่มเครือข่ายองค์กร แผนกผลิตภัณฑ์ดาต้าคอม ของหัวเว่ย กล่าว “เราคาดว่าเครือข่ายองค์กร Wi-Fi 6 คุณภาพสูงนี้ จะช่วยดำเนินการปรับเปลี่ยนด้านดิจิทัลขององค์กร ทั้งการใช้งานในรูปแบบสำนักงาน โรงงาน และบริการ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยกระดับประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานให้ดีขึ้น ในอนาคต เราจะเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมร่วมกับลูกค้าต่อไปเพื่อสร้างเครือข่ายองค์กรอัจฉริยะเต็มรูปแบบที่ใช้งานง่าย โดยมี AirEngine เป็นตัวช่วยเร่งให้เกิดการเข้าสู่ยุคเครือข่ายองค์กรแบบไร้สายเต็มรูปแบบให้เร็วที่สุด”

หัวเว่ยมุ่งมั่นบูรณาการนวัตกรรม AirEngine Wi-Fi 6 เข้ากับรูปแบบใช้งานของลูกค้าแต่ละราย เพื่อเพิ่มประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ

สำหรับการใช้งานในสำนักงาน ผลิตภัณฑ์ AirEngine ของหัวเว่ยจะช่วยเร่งให้เกิดการพัฒนาสำนักงานอัจฉริยะได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พนักงานสามารถเปลี่ยนการสื่อสารผ่านเสียงและข้อความแบบเดิม ในสถานที่ทำงานแบบที่มีที่ตั้งปกติ ไปเป็นการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าด้วยวิดีโอ HD และการสื่อสารแบบหลายหน้าจอได้จากที่ใดก็ได้

ในด้านการศึกษา ผลิตภัณฑ์ AirEngine จะช่วยส่งเสริมการเรียนการสอนด้วยการใช้เทคโนโลยี AR/VR ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว รูปแบบการเรียนของนักเรียนจะเปลี่ยนไป จากการเรียนจากหนังสือแบบเดิมไปสู่การเรียนรู้เชิงปฏิสัมพันธ์ การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้จะทำให้นักเรียนมีส่วนรวมในการเรียนรู้มากขึ้น และช่วยสร้างทรัพยากรการศึกษาที่มีคุณภาพสำหรับนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล ส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมทางด้านการศึกษา

ในภาคการผลิตและโลจิสติกส์ ผลิตภัณฑ์ AirEngine ของหัวเว่ย จะช่วยให้โรงงานและการกระจายสินค้าแบบไร้คนควบคุมเป็นไปได้จริง หุ่นยนต์อัจฉริยะจะเข้ามาควบคุมงานด้านจักรกลที่ซ้ำซากและอันตราย ซึ่งจะช่วยพัฒนาโรงงานสู่ยุคการผลิตอัตโนมัติ

ในงานด้านบริการสาธารณะ AirEngine ของหัวเว่ย จะช่วยยกระดับคุณภาพของบริการ ส่งเสริมหน่วยงานด้านบริการสาธารณะ ให้สามารถให้บริการออนไลน์ที่มีความเฉพาะเจาะจงตามผู้ใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา รวมทั้งสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น

หัวเว่ยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Wi-Fi 6 เชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมในปี 2560 นับตั้งแต่นั้น ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง และถูกนำไปใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรมทั่วโลกอย่างรวดเร็ว หัวเว่ยครองตลาดเป็นอันดับหนึ่งในตลาด Wi-Fi 6 ทั่วโลก (ยกเว้นในอเมริกาเหนือ) และในประเทศจีน จากผลการสำรวจส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์กระจายสัญญาณ Wi-Fi 6 ภายในอาคาร ระหว่างไตรมาสที่ 3 ของปี 2561 ถึงไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 โดย Dell’Oro Group

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Huawei AirEngine Wi-Fi 6


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เดลล์โอโร กรุ๊ป เผย Wi-Fi 6 ของหัวเว่ยมีส่วนแบ่งการตลาด เป็นอันดับหนึ่งทั่วโลก

เซิ่นเจิ้น ประเทศจีน/ 10 มกราคม 2563 – หัวเว่ยครองส่วนแบ่งตลาด Wi-Fi 6 เป็นอันดับหนึ่งของโลก (ไม่รวมตลาดอเมริกาเหนือ) จากรายงานข้อมูลส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์กระจายสัญญาณ Access Point แบบใช้งานภายในอาคารรุ่น Wi-Fi 6 ทั่วโลก ที่จัดทำโดยเดลล์โอโร กรุ๊ป (Dell’Oro Group) ผู้นำด้านการวิเคราะห์และวิจัยตลาดระดับโลก ช่วงระหว่างไตรมาสที่ 3 ของปี 2561 ถึงไตรมาสที่ 3 ของปี 2562

เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2561กลุ่ม Wi-Fi Alliance ได้ประกาศระบบการตั้งชื่อรุ่น Wi-Fi แบบใหม่ โดยมาตรฐาน IEEE 802.11ax ได้มีชื่อเรียกที่ง่ายขึ้นเป็น Wi-Fi 6 ซึ่งเป็นรุ่นพัฒนามาจาก Wi-Fi 5 ที่มีแบนด์วิดท์ต่อผู้ใช้สูงสุดและการรองรับจำนวนผู้ใช้พร้อมกันเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า รวมถึงมีค่าความหน่วง (Latency) ลดลงมากกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับ Wi-Fi 5 ด้วยประสิทธิภาพที่ดีขึ้นมากมายหลายเท่าทำให้องค์กร โรงเรียน โรงพยาบาล และผู้นำในแวดวงต่าง ๆ จำนวนมาก เลือกใช้ Wi-Fi 6 เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งหมดบนเครือข่ายขององค์กร และรองรับการใช้งานที่ล้ำสมัย เช่น การประชุมผ่านวิดีโอความคมชัดสูงระดับ 4K/8K การเรียนการสอนแบบอินเทอร์แอ็กทีฟด้วยเทคโนโลยี VR และ AR การแพทย์ทางไกล และหุ่นยนต์อัจฉริยะ

รายงานล่าสุดของเดลล์โอโร กรุ๊ป เป็นเครื่องยืนยันความเป็นที่นิยมของ Wi-Fi 6 ที่เพิ่มขึ้นในองค์กรระดับโลก รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าผลประกอบการโดยรวมของตลาด Wi-Fi 6 ทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างมากในสามไตรมาสแรกของปี 2562 คิดเป็น 30 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 โดยในช่วงระยะเวลาเดียวกัน รายได้ของตลาด Wi-Fi 4 และ Wi-Fi 5 ปรับลดลงเล็กน้อย การเปลี่ยนแปลงของตลาดนี้ชี้ให้เห็นว่าปี 2562 เป็นปีแรกที่มีการนำ Wi-Fi 6 มาใช้ในเชิงพาณิชย์

หัวเว่ยเป็นผู้นำในตลาด Wi-Fi 6 ด้วยผลิตภัณฑ์ AirEngine Wi-Fi 6 หัวเว่ยเป็นผู้บุกเบิกในการนำเครือข่าย Wi-Fi 6 มาติดตั้งใช้งานในระดับองค์กรเป็นรายแรกของอุตสาหกรรมในนครเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่ต้นปี 2561 และตั้งแต่นั้นมา ผลิตภัณฑ์ AirEngine Wi-Fi 6 ของหัวเว่ย ซึ่งขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย ก็ได้กลายเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ของลูกค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วโลก ในการสร้างเครือข่าย Wi-Fi 6 ที่ครอบคลุมแบบไร้ช่องโหว่ รวดเร็ว ไม่มีสะดุดและปราศจากการเชื่อมต่อที่ล้มเหลวระหว่างการโรมมิ่ง ตัวอย่างลูกค้า Wi-Fi 6 ของหัวเว่ย ได้แก่ เซิ่นเจิ้น เมโทร ประเทศจีน, สนามกีฬาบาเซิล เซนต์ จาคอบ พาร์ค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, ธนาคารอากอส ประเทศอิตาลี, มหาวิทยาลัยมอนดรากอน ประเทศสเปน และมหาวิทยาลัยโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้

มร. สตีเว่น จ้าว ประธานบริหาร ฝ่าย Campus Network Domain กลุ่มผลิตภัณฑ์การสื่อสารข้อมูลของหัวเว่ย กล่าวว่า “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่า AirEngine Wi-Fi 6 ของหัวเว่ยเป็นที่นิยมและมีการใช้งานกันอย่างกว้างขวางในหลายภาคส่วน ทั้งภาคการศึกษา ภาครัฐ องค์กรขนาดใหญ่และอุตสาหกรรมการผลิต ผลิตภัณฑ์ AirEngine Wi-Fi 6 ของหัวเว่ยมีส่วนช่วยองค์กรทั้งขนาดเล็กและใหญ่ สร้างเครือข่ายที่มุ่งเน้นประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นหลัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กรและการผลิต อันจะนำไปสู่การเปิดตัวบริการด้านดิจิทัลในสเกลใหญ่ และเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล

ความไว้วางใจที่ลูกค้ามอบให้แก่ Wi-Fi 6 ของหัวเว่ย เป็นแรงขับเคลื่อนให้หัวเว่ยมุ่งมั่นวิจัยและพัฒนา Wi-Fi 6 อย่างต่อเนื่อง โดยการดำเนินงานของหัวเว่ยเพื่อพัฒนา Wi-Fi 6 มีดังต่อไปนี้

โอซามา อาโบล มาจด์ ผู้เชี่ยวชาญจากหัวเว่ย ได้รับเลือกเป็นประธานของกลุ่มการทำงาน IEEE 802.11ax เมื่อปี 2557 และได้ร่วมแบ่งปันองค์ความรู้เพื่อกำหนดมาตรฐานการพัฒนาอุตสาหกรรม Wi-Fi 6 อย่างต่อเนื่อง
หัวเว่ยเป็นเวนเดอร์ที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการนำเสนอการกำหนดมาตรฐานของ Wi-Fi 6 มากที่สุดจากบรรดาผู้ให้บริการอุปกรณ์เครือข่ายทั้งหมด
เดือนตุลาคมปี 2560 หัวเว่ยเปิดตัว Access Point Wi-Fi 6 เชิงพาณิชย์เป็นเจ้าแรก ตั้งแต่นั้นมา หัวเว่ยก็ขยายพอร์ตโฟลิโอ Wi-Fi 6 ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันล้ำสมัยที่ปรับให้เหมาะกับการใช้งานในสถานการณ์ที่หลากหลายมาโดยตลอด
หัวเว่ยและ Wireless Broadband Alliance หรือ WBA ได้ร่วมกันออกแบบระบบการเรียนการสอนและกรณีศึกษาที่ใช้ Wi-Fi 6 ที่มหาวิทยาลัยมอนดรากอน ประเทศสเปน

ในอนาคต หัวเว่ยจะมุ่งมั่นทำงานร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ มุ่งเน้นรูปแบบการใช้งานของแต่ละอุตสาหกรรม และส่งมอบโซลูชันเครือข่าย Wi-Fi 6 ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้งานดิจิทัลรูปแบบใหม่ หัวเว่ยจะยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชัน AirEngine Wi-Fi รุ่นใหม่ ๆ ที่ขับเคลื่อนโดย 5G ต่อไป เพื่อช่วยองค์กรสร้างสรรค์เครือข่ายอนาคตที่เชื่อมต่อกันโดยสมบูรณ์


 

Exit mobile version