Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

“ทรูมันนี่” จับมือ สถานีบริการน้ำมัน PT ร่วมสร้างสังคมไร้เงินสด เปิดรับชำระค่าน้ำมันผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet

กรุงเทพฯ, 8 ธันวาคม 2564 – ทรูมันนี่ ผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมมือกับ แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส บริษัทที่ดูแลด้านการตลาดให้กับ PTG และบริษัทในเครือเปิดบริการรับชำระเงินค่าน้ำมันผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet เป็นครั้งแรก ครอบคลุมสถานีบริการน้ำมันของ PT ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 74 แห่งที่ร่วมรายการ มอบประสบการณ์การใช้จ่ายแบบ “แทนเงินสด ลดสัมผัส” เพื่อมอบความสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ Cash Back รับเงินคืนเงิน 3% (สูงสุด 30 บาท)  เมื่อชำระค่าน้ำมันผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet เอาใจผู้ที่ต้องการเดินทางเพื่อไปพักผ่อนช่วงปลายปีตลอดเดือนธันวาคมนี้

นายกรวุฒิ ปวิตรปก ผู้อำนวยการฝ่ายทางพาณิชย์ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า “ทรูมันนี่ มุ่งมั่นขยายพันธมิตรใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้ทรูมันนี่เป็นแพลตฟอร์มการใช้จ่ายที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นด้านความบันเทิง ช็อปปิ้งตามร้านค้า หรือร้านอาหารต่าง ๆ ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงในด้านการเดินทาง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของเราในปีนี้ที่ต้องการขยายและทำแคมเปญร่วมกันกับพันธมิตรเพื่อส่งเสริมการใช้ Cashless Payment ในวงกว้างยิ่งขึ้น ทรูมันนี่มั่นใจว่าความร่วมมือกับสถานีบริการน้ำมัน PT ในครั้งนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกและสร้างความคุ้มค่าให้แก่ผู้ใช้ทรูมันนี่กว่า 20 ล้านราย รวมถึงลูกค้าของ PT ได้ใช้จ่ายปลอดภัยห่างไกลจากความเสี่ยงในการสัมผัส เมื่อต้องออกไปนอกบ้านและเดินทางสัญจรไปตามสถานที่ต่าง ๆ นอกจากนี้ PT และ ทรูมันนี่ ยังได้จัดโปรฯ พิเศษ มอบเงินคืนเข้าบัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ทสูงสุด 3% (สูงสุด 30 บาท) เมื่อชำระค่าน้ำมันผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet เพื่อให้ทุกการใช้จ่ายของลูกค้าคุ้มค่าที่สุด”

นายพร้อมศักดิ์ จรัญญากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด (บริษัทในเครือพีทีจี) กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอบริการรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้าสมาชิก PT Max Card กว่า 16 ล้านสมาชิกทั่วประเทศมาโดยตลอด ซึ่งความร่วมมือกับทรูมันนี่ครั้งนี้นับเป็นการตอกย้ำถึงความตั้งใจจริงของทั้งสองแบรนด์ในการขยายช่องทางเพย์เมนต์ใหม่ๆ ที่จะเข้ามาอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าผู้ใช้บริการให้ได้รับความสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้นต่อการลดการสัมผัส และไม่ต้องกังวลเรื่องการพกพาเงินสดไม่ว่าจะเป็นการเติมน้ำมัน หรือใช้บริการร้านกาแฟพันธุ์ไทย อีกทั้งยังเป็นการขยายฐานลูกค้ารายใหม่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นในอนาคตอีกด้วย”

พิเศษ​! สำหรับลูกค้าที่ชำระค่าน้ำมันผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet เมื่อชำระค่าน้ำมันไม่มีขั้นต่ำ

ณ ​​สถานีบริการน้ำมัน PT ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 74 แห่งที่ร่วมรายการ รับเงินคืนทันที 3% (สูงสุด 30 บาท) ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม ศกนี้ คลิกอ่านรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ https://www.truemoney.com/a/pt-promotion-111/  

*หมายเหตุ

  • สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด 
  • เฉพาะสาขาบริการน้ำมันที่ร่วมรายการ
  • ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายอื่น
  • เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด

เกี่ยวกับ TrueMoney (ทรูมันนี่)

TrueMoney คือผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มุ่งเน้นให้บริการทางการเงินแก่ผู้คนซึ่งรวมไปถึงผู้ที่เข้าไม่ถึงบริการของสถาบันทางการเงิน โดยให้บริการใน 6 ประเทศในภูมิภาคได้แก่ ประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย TrueMoney ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2556 และเข้าเป็นธุรกิจหนึ่งของบริษัท Ascend Money ในปี พ.ศ. 2557 และเป็นพันธมิตรกับบริษัท Ant Financial Services Group ใน พ.ศ. 2559 ปัจจุบัน ทรูมันนี่ ให้บริการด้านการเงินที่หลากหลายผ่าน TrueMoney Wallet แอปพลิเคชั่นอีวอลเล็ทที่ได้รับความนิยมสูงสุดที่ช่วยอำนวยความสะดวกและทำให้การใช้จ่ายเป็นเรื่องง่าย อีกทั้งตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ ทรูมันนี่ ยังมีเครือข่ายตัวแทนที่ครอบคลุมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการบริการรับชำระเงินแบบออฟไลน์ทั้งหมดนี้เพื่อมอบความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับหลายล้านคนเพื่อก้าวล้ำไปสู่ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

“ธนาคารเกียรตินาคินภัทร” ผนึกกำลัง “ทรูมันนี่” เปิดตัวสินเชื่อเงินด่วน “KKP CASH NOW” บนแอปฯ TrueMoney Wallet

กรุงเทพฯ, 1 ธันวาคม 2564 – ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ต่อยอดความร่วมมือกับ ทรูมันนี่ ผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มอบบริการสินเชื่อส่วนบุคคลอเนกประสงค์ “KKP CASH NOW” บนแอปพลิเคชั่น TrueMoney Wallet เพื่ออำนวยความสะดวกในการสมัครและยื่นเอกสารขอสินเชื่อผ่านระบบออนไลน์ให้กับผู้ที่มองหาแหล่งเงินทุนหรือเพิ่มสภาพคล่อง ทั้งนี้ ผู้สมัครสามารถรับวงเงินสินเชื่อเข้าบัญชีทรูมันนี่สูงสุดถึง 400,000 บาท ทันทีที่ได้รับอนุมัติ อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 8.99%* ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุดถึง 60 เดือน มุ่งตอบสนองความต้องการสินเชื่อภาคครัวเรือนในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ที่ ธปท. คาดว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับดีขึ้นหลังภาครัฐผ่อนคลายมาตรการ

นายฟิลิป เชียง ชอง แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การพัฒนานวัตกรรมทางการเงินเพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุด และขยายโอกาสทางการเงินให้กับลูกค้าในวงกว้าง คือเป้าหมายร่วมกันของธนาคารเกียรตินาคินภัทร และทรูมันนี่ พันธมิตรคนสำคัญของเรา ธนาคารมั่นใจว่าบริการสินเชื่อ KKP CASH NOW บนแอปฯ TrueMoney Wallet จะช่วยเปิดโอกาสทางการเงินให้กว้างขวางและรวดเร็วยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้า ผ่านการสมัคร ยื่นเอกสาร และทราบผลอนุมัติที่สะดวก ไม่เสียเวลาเดินทาง และลดความเสี่ยงจากการสัมผัสเงินสด ยิ่งในช่วงเวลานี้ที่เศรษฐกิจกำลังกลับมาเดินหน้า และหลายคนมองเห็นโอกาสสร้างรายได้เพิ่มหรือปรับธุรกิจรับความเปลี่ยนแปลง ธนาคารมั่นใจว่าสินเชื่อ KKP CASH NOW จะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง ปลดล็อคข้อจำกัด หรือหมุนเวียนเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยธนาคารจะเดินหน้าผนึกกำลังกับพาร์ตเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญและจุดแข็งเฉพาะตัวอย่าง เช่น บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด (TrueMoney) เพื่อนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ลูกค้าในมิติต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง”

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “การขยายความร่วมมือกับธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ เป็นไปตามกลยุทธ์ของเราในการมุ่งเป็น Financial Platform of Opportunities ที่มอบโอกาสทางการเงินให้กับผู้คนจำนวนมากและยังเป็นการสนับสนุนการสร้างสังคมไร้เงินสดให้เติบโตผ่านบริการทางการเงินที่เรามี โดยบริการสินเชื่อ KKP CASH NOW บนแอปฯ TrueMoney Wallet เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมทางการเงินที่เราได้จับมือกับธนาคารเกียรตินาคินภัทร มอบให้ลูกค้า นอกเหนือจากบริการเงินฝากดอกเบี้ยสูง KKP Start Saving ซึ่งต่างเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินง่าย ๆ รวดเร็ว และสะดวกสบายผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet นอกจากนี้ ในด้านภาพรวมของตลาดสินเชื่อรายย่อยในช่วงที่ผ่านมา เรามีลูกค้าที่ยื่นขออนุมัติสินเชื่อประเภทต่าง ๆ ผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว และมียอดวงเงินที่ปล่อยสินเชื่อไปแล้วเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สะท้อนให้เห็นว่านวัตกรรมอีวอลเล็ทถือเป็นช่องทางการเงินที่สำคัญและมีประสิทธิภาพ ตอบรับความต้องการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย รวมถึงผลิตภัณฑ์ประเภทสินเชื่อแบบออนไลน์ด้วย”

KKP CASH NOW คือ บริการสินเชื่อส่วนบุคคลอเนกประสงค์ที่อยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารเกียรตินาคินภัทร จํากัด (มหาชน) เสนอให้แก่บุคคลทั่วไปในรูปแบบวงเงินผ่อนชำระเป็นงวด ๆ (Term Loan) โดยไม่ต้องใช้ทรัพย์สินหรือบุคคลค้ำประกัน มีจุดเด่น คือ ขั้นตอนการสมัครที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว ผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet รวมถึงสามารถใช้วงเงินที่ได้รับอนุมัติผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet ได้เช่นกัน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกและครอบคลุมการใช้จ่ายที่หลากหลาย

คุณสมบัติผู้สมัคร เอกสารประกอบการสมัคร

(อัพโหลดผ่านแอปฯ)

  • ลูกค้าที่มีบัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ท
  • สัญชาติไทย
  • อายุ

– พนักงานประจำ: อายุ 20-60 ปี

– เจ้าของกิจการ และอาชีพอิสระ: อายุ 20-65 ปี

  • รายได้ต่อเดือนขั้นต่ำ 10,000 บาท
  • อายุงานขั้นต่ำ 4 เดือน สำหรับพนักงานประจำ
  • ผู้ที่มีรายได้ประจำ เช่น พนักงานบริษัท ข้าราชการ

– สลิปเงินเดือนที่แสดงรายได้เดือนล่าสุด

  • เจ้าของกิจการ และอาชีพอิสระ

– รายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุด

 

สำหรับเจ้าของกิจการ หากอัพโหลดทะเบียนการค้าหรือหนังสือรับรองบริษัท จะได้รับการพิจารณาวงเงินเพิ่มเติม

4 ขั้นตอนสมัครใช้บริการง่ายกว่าเดิม ดังนี้

  1. คลิกแบนเนอร์ หรือ ไอคอนสินเชื่อ KKP CASH NOW บนแอปฯ ทรูมันนี่
  2. กรอกข้อมูลใบสมัครสินเชื่อ KKP CASH NOW
  3. ยืนยันตัวตนที่เคาน์เตอร์ 7-Eleven ทั่วประเทศ หรือ ที่ตู้ทรูมันนี่*
  4. อัพโหลดเอกสารแสดงรายได้

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถคลิกอ่านรายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ๆ ในการขอสินเชื่อ KKP CASH NOW ที่ https://www.truemoney.com/cashnow-kkp/ หรือสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสินเชื่อได้ทาง KKP Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 02 165 5555 ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07:00 – 20:00 น. หรือที่ธนาคารฯ ทุกสาขาทั่วประเทศ

*หมายเหตุ

  1. สินเชื่อส่วนบุคคลKKP CASH NOW เป็นผลิตภัณฑ์ของธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และอยู่ภายใต้โครงการ Regulatory Sandbox ที่กำกับและดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
  2. การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อส่วนบุคคลKKP CASH NOW เป็นไปตามเงื่อนไขที่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นผู้กำหนด
  3. ทรูมันนี่ วอลเล็ท เป็นเพียงช่องทางเพื่อสมัครใช้ ส่งข้อมูลประกอบการสมัครใช้สินเชื่อเท่านั้น ไม่มีส่วนใด ๆ ในการพิจารณาและอนุมัติสินเชื่อ
  4. เงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ข้อมูลเพิ่มเติมคลิกhttps://bank.kkpfg.com/th/personal-banking/loan/personal-loan/kkp-cash-now

 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ทรูมันนี่เปิดแคมเปญ “ชีวิตสนุกแน่ แค่ลดหย่อนภาษี” รับโค้งสุดท้ายของปี

23 พฤศจิกายน 2564 – ทรูมันนี่ ผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จับมือพันธมิตร เปิดแคมเปญ “ชีวิตสนุกแน่ แค่ลดหย่อนภาษี” (Tax Refund to Me Fun) ชวนลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีรับโค้งสุดท้ายปี 64 แบบ Cashless ผ่านแอปพลิเคชั่น TrueMoney Wallet อาทิ บริการลงทุนกองทุนรวมทั้ง SSF หรือ RMF และแผนประกันรูปแบบต่าง ๆ พร้อมฟีเจอร์ช่วยคำนวณวางแผนลดหย่อนภาษี รวมถึงแนะนำการเลือกซื้อประกันฯ/กองทุนรวมที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับเงินในกระเป๋า ตบท้ายด้วยการมอบโปรคุ้มเพื่อให้มีเงินเหลือไปใช้ชีวิตสนุกสุด FUN ต้อนรับมาตรการคลายล็อกเปิดประเทศ

เพียงเข้าไปที่แอปฯ TrueMoney Wallet และไปที่แถบเมนู “บริการทางการเงิน” และเลือกไอคอน “ลดหย่อนภาษี” ก็สามารถเข้าถึงระบบคำนวณและวางแผนลดหย่อนภาษีได้ง่ายๆ พร้อมเลือกบริการที่จะช่วยคุณลดหย่อนภาษีแบบครบจบในที่เดียว 2 กลุ่มบริการที่จะมอบชีวิตสนุกสุด FUN ให้คุณ 5 สไตล์ ดังนี้

1.กองทุนรวม SSF หรือ RMF

ทรูมันนี่ จับมือ บลน. แอสเซนด์ เวลธ์ เปิดโอกาสให้คุณลงทุนในกองทุนรวม SFF หรือ RMF สำหรับลงทุนและลดหย่อนภาษีง่าย ๆ แถมไม่ต้องควักเงินในกระเป๋าออกมาใช้ก่อน เพราะสามารถจ่ายด้วยบัตร Mastercard ของทุกธนาคาร ผ่าน TrueMoney Wallet  เมื่อซื้อหน่วยลงทุน SSF หรือ RMF ของ บลจ. ยูโอบี, บลจ. พรินซิเพิล และ บลจ. เอ็มเอฟซี และชำระตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป

1.1 FUN แบบได้เงินก้อน กับกองทุนเพื่อการออม (Super Saving Fund หรือ SSF) ที่ไม่ต้องซื้อทุกปี แต่ถืออย่างน้อย 10 ปี ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท

1.2 FUN หลังเกษียณ กับกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund หรือ RMF) ที่มีให้ซื้อต่อเนื่อง ถือยาว ๆ ถึงอายุ 55 ปี นำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท

พิเศษ! ชำระเพื่อซื้อกองทุน SFF หรือ RMF ตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไปกับ บลน. แอสเซนด์ เวลธ์ ผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet ตั้งแต่วันนี้ – 30 ธ.ค. ศกนี้ รับหน่วยลงทุนหรือเงินคืนมูลค่า 0.2%* ของเงินลงทุน

2. ประกันฯ ที่ให้ทั้งความคุ้มครองและผลตอบแทนในอนาคต

ทรูมันนี่ วอลเล็ท จับมือพันธมิตรนำเสนอแผนประกันที่ให้ทั้งความคุ้มครองชีวิตสุด FUN และช่วยลดหย่อนภาษี พร้อมจัดเต็มโปรโมชั่นต่าง ๆ ดังนี้

2.1 FUN แบบชัวร์ไม่กลัวมะเร็ง : ประกันมะเร็งแบบ เจอ จ่าย จบ จาก MSIG เบี้ยเริ่มต้นเพียง 625 บาท/ปี จะช่วยให้การใช้ชีวิตนิวนอร์มัลได้อย่างเต็มที่ ค่าเบี้ยคงที่ตลอดชีพ ให้คุณใช้ชีวิตได้เต็มที่ พิเศษ! รับ E-Voucher จาก Starbuck สูงสุด 300 บาท เมื่อชำระเบี้ยเพื่อซื้อแผนประกันมูลค่ามากกว่า 10,000 บาท ขึ้นไป

2.2 FUN แบบไม่เป็นภาระในปีถัดไป : ประกันสะสมทรัพย์จากเมืองไทยประกันภัย จ่ายครั้งเดียวในปีแรก คุ้มครองนาน 11 ปี ลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาท สำหรับใครที่ไม่ต้องการความยุ่งยากและไม่ต้องการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายรายปี ในปีถัด ๆ ไปจะได้จัดสรรเงินไปใช้ชีวิตสุด FUN ได้ พิเศษ! ชำระเพื่อซื้อแผนประกันสะสมทรัพย์จากเมืองไทยประกันภัยผ่าน TrueMoney Wallet วันนี้ รับเงินคืนสูงสุดถึง 1,000 บาท*

2.3 FUN ได้เต็มที่เมื่อมีประกันสุขภาพ : ประกันสุขภาพ Top-up สำหรับพนักงานบริษัทเติมเต็มสุขภาพดีไม่กลัวโรคภัยจาก Generali คุ้มครองครบ OPD & IPD ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด อีก 25,000 บาท เพิ่มความคุ้มครองในการรักษาพยาบาลและเหตุฉุกเฉินตามจริง เบี้ยประหยัดถึง 13.4%* เมื่อมีประกันกลุ่ม ท่ามกลางภาวะโรคระบาดมีไว้อุ่นใจกว่า พิเศษ! ชำระเพื่อซื้อประกันสุขภาพ Top-Up จากเจนเนอราลี่ (Generali) ผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet รับเงินคืนสูงสุดถึง 900 บาท*

คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.truemoney.com/taxsaving/

หมายเหตุ*

เงื่อนไขการรับสิทธิประโยชน์เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

  • เงื่อนไขการใช้บัตรเครดิตจะเป็นไปตามที่บริษัทฯ และบริษัทบัตรเครดิตกำหนด

 

เกี่ยวกับ TrueMoney (ทรูมันนี่)

TrueMoney คือผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มุ่งเน้นให้บริการทางการเงินแก่ผู้คนซึ่งรวมไปถึงผู้ที่เข้าไม่ถึงบริการของสถาบันทางการเงิน โดยให้บริการใน 6 ประเทศในภูมิภาคได้แก่ ประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

TrueMoney ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2556 และเข้าเป็นธุรกิจหนึ่งของบริษัท Ascend Money ในปี พ.ศ. 2557 และเป็นพันธมิตรกับบริษัท Ant Financial Services Group ใน พ.ศ. 2559 ปัจจุบัน ทรูมันนี่ ให้บริการด้านการเงินที่หลากหลายผ่าน TrueMoney Wallet แอปพลิเคชั่นอีวอลเล็ทที่ได้รับความนิยมสูงสุดที่ช่วยอำนวยความสะดวกและทำให้การใช้จ่ายเป็นเรื่องง่าย อีกทั้งตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ ทรูมันนี่ ยังมีเครือข่ายตัวแทนที่ครอบคลุมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการบริการรับชำระเงินแบบออฟไลน์ทั้งหมดนี้เพื่อมอบความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับหลายล้านคนเพื่อก้าวล้ำไปสู่ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ทรูมันนี่ จับมือ ลาซาด้า ผนึกกำลังพันธมิตรระดับกลยุทธ์ ชู TrueMoney Wallet เป็นอีวอลเล็ทหลักบนแอป Lazada

เตรียมผสานฟีเจอร์ “Smart Pay” และบริการทางการเงินอื่น ๆ เพื่อมอบอิสระการช็อปให้ลูกค้าเลือกชำระเงินผ่านหลากรูปแบบที่ต้องการผ่านแพลตฟอร์ม ทรูมันนี่ วอลเล็ท พร้อมมอบส่วนลด + โค้ดส่งฟรี! มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท ต้อนรับเทศกาล 11.11 นี้

กรุงเทพฯ 8 พฤศจิกายน 2564 – ทรูมันนี่ ผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศจับมือ ลาซาด้า ผู้นำอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นพันธมิตรระดับกลยุทธ์ (Strategic Partner) พร้อมชู TrueMoney Wallet เป็นอีวอลเล็ทหลักบนแอปพลิเคชันลาซาด้าและเตรียมผสานฟีเจอร์บริการทางการเงิน รวมถึงแคมเปญและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ อีกมากมาย

นางสาวจิตติมา จันทรมโรภาส ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจออนไลน์เพย์เม้นต์และดิจิทัลเพย์เมนท์ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า “การสานต่อความร่วมมือระหว่างทรูมันนี่ และ ลาซาด้า ไปสู่พันธมิตรระดับกลยุทธ์ในครั้งนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของทั้งสองบริษัทฯ ในการผสานความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มอีวอลเล็ทและอีคอมเมิร์ซเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์ ด้วยช่องทางชำระเงินที่หลากหลายสะดวกสบาย และปลอดภัย จากนี้ เราพร้อมเดินหน้าพัฒนาบริการทางการเงินใหม่ๆ ร่วมกันเพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งรวมถึงการสร้างแคมเปญการตลาดที่มอบความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง”

คุณธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “จากการขยายตัวและเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมานั้น ได้ทำให้อีเพย์เมนต์เข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อการพัฒนาแพลตฟอร์ม รวมไปถึงช่วยยกระดับประสบการณ์ช็อปและยังเพิ่มความสะดวกให้แก่ทั้งลูกค้าและผู้ขายอีกด้วย จากความสำเร็จในการเปิดมินิแอปพลิเคชันลาซาด้า ใน TrueMoney Wallet เมื่อปีที่ผ่านมา ลาซาด้าจึงเล็งเห็นโอกาสในการต่อยอดความร่วมมือกับ ทรูมันนี่ ในการก้าวเป็นพันธมิตรระดับกลยุทธ์ และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้นักช็อปสามารถเลือกช่องทางจับจ่ายแบบออนไลน์ที่หลากหลายและตรงตามความต้องการมากที่สุด ผ่านนวัตกรรมทางการเงินของ TrueMoney Wallet ที่ผสานอยู่ในแพลตฟอร์มของลาซาด้า”

โดยภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ ทรูมันนี่ และ ลาซาด้า จะร่วมกันผลักดันนวัตกรรมการชำระเงินที่อำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่แบบนิวนอร์มัล ผ่านฟีเจอร์บริการทางการเงินต่างๆ ของ TrueMoney Wallet บนแอปลาซาด้า ที่พัฒนาร่วมกัน อาทิ ‘Smart Pay’ ฟีเจอร์ที่จะเข้ามาเพิ่มทางเลือกในการชำระเงินออนไลน์ให้แก่ลูกค้าและช่วยให้สามารถตั้งค่าจัดเรียงลำดับการชำระเงินอัตโนมัติได้ตามที่ต้องการ ซึ่งรวมถึงการเลือกชำระผ่านบัญชีธนาคาร เพื่อใช้จ่ายกับร้านค้าชั้นนำมากมายบนแพลตฟอร์ม โดยไม่ต้องเสียเวลาเติมเงิน ซึ่งจากการสำรวจของทรูมันนี่ พบว่าการเพิ่มช่องทางการชำระเงินได้อย่างอิสระ จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าที่ต้องการได้ง่ายขึ้น สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนบนแพลตฟอร์ม และสร้างโอกาสในการปิดการขายให้กับร้านค้า นอกจากนี้ ยังมีบริการทางการเงินอื่น ๆ อีกมากมายที่จะตามมาในอนาคต

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก We Are Social ระบุคนไทยช็อปออนไลน์สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก (83.6%) มากกว่าค่าเฉลี่ยของโลก (76.8%) และช็อปผ่านมือถือสูงติดอันดับ 2 ของโลก (74.2%) สอดคล้องกับผลสำรวจของ ETDA ที่คาดการณ์ว่าในปีนี้มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยจะเติบโตแตะ 4.01 ล้านล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นเทรนด์การช็อปปิ้งออนไลน์ได้กลายเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคชาวไทย และยังเป็นทางรอดของการทำธุรกิจในยุคนี้ โดยที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและอีเพย์เม้นต์ต่างมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม e-Commerce ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

โดยในช่วง ม.ค.- ต.ค. ปีนีั พบว่าปริมาณการชำระเงิน เมื่อต้องการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่าน TrueMoney Wallet เพิ่มขึ้นเกือบ x2 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และจำนวนผู้ใช้ที่ชำระเงินเพื่อช็อปผ่านแอปลาซาด้า เพิ่มขึ้นมากกว่า x3.4 เท่า

นอกเหนือจากความร่วมมือระดับกลยุทธ์ ทรูมันนี่ และ ลาซาด้า ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ ต้อนรับเทศกาล Lazada 11.11 Our Biggest One-Day Sale ถูกสุดในรอบปี วันนี้วันเดียว เพื่อเอาใจนักช็อป โดยการมอบส่วนลดและโค้ดส่งฟรีมูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท พิเศษ! นักช็อปสามารถกดรับคูปองส่วนลดมูลค่าสูงสุด 1,111 บาท เมื่อเลือกชำระเงินผ่าน TrueMoney Wallet ในแอปลาซาด้าวันที่ 11  พฤศจิกายน 64 นี้เท่านั้น คลิกอ่านรายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://tmn.co/tmnlpinlzd


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

“เพย์ โซลูชั่น” จับมือ “ทรูมันนี่” ขยายฐานร้านค้า เปิดให้บริการรับชำระเงินผ่านแอปฯ ทรูมันนี่ วอลเล็ท หนุนธุรกิจรับ Cashless สู้โควิด

กรุงเทพฯ, 10 สิงหาคม 2564 – บริษัท เพย์ โซลูชั่น จำกัด ผู้ให้บริการระบบชำระเงินออนไลน์แห่งแรกของเมืองไทย ร่วมกับ ทรูมันนี่ ผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขยายฐานร้านค้าที่เปิดให้บริการรับชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่นทรูมันนี่ วอลเล็ท เพื่อสนับสนุนธุรกิจออนไลน์ในยุคสังคมไร้เงินสด และช่วยสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายและขยายกิจการให้เข้าถึงฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่รวมถึงผู้ใช้ทรูมันนี่มากกว่า 19 ล้านราย

ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เผยว่า ‘โควิด-19’ เป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายไปสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซอย่างรวดเร็ว พร้อมระบุในอีก 12 เดือนหลังจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยจะเพิ่มการใช้จ่ายออนไลน์อีกถึง 43% นับเป็นโอกาสท่ามกลางวิกฤติสำหรับผู้ประกอบการในการเร่งมองหาและนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเสริมช่องทางการขายเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดอีคอมเมิร์ซ ซึ่งช่องทางการรับชำระเงินผ่านอีวอลเล็ทถือเป็นหัวใจสำคัญในการซื้อ-ขายสินค้าผ่านออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาด

นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพย์ โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า “การร่วมมือกับทรูมันนี่ตอกย้ำถึงความทุ่มเทของเราในการพัฒนาบริการชำระเงินใหม่ ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ซื้อพร้อมสร้างความได้เปรียบในการทำธุรกิจแก่ผู้ประกอบการและร้านค้า เนื่องจากการซื้อขายสินค้าและการชำระเงินของผู้บริโภควันนี้เปลี่ยนไปใช้จ่ายแบบอีเพย์เม้นต์มากขึ้น เราจึงเพิ่มช่องทางรับชำระผ่านแอปฯ ทรูมันนี่ วอลเล็ท เพื่อให้ร้านค้าสามารถเข้าถึงฐานลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่และคุ้นเคยกับการช้อปปิ้งแบบ Cashless ได้อย่างง่ายดาย เพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายใหม่ ๆ ผ่านช่องทางชำระเงินที่รวดเร็วในแบบที่ต้องการ”

นายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “การจับมือกับ เพย์ โซลูชั่น จะช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจและร้านค้าเชื่อมต่อธุรกิจกับแพลตฟอร์มอีเพย์เม้นต์ของทรูมันนี่ที่มอบทั้งความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ร้านค้าจึงสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ใหม่ ๆ ซึ่งรวมถึงผู้ใช้มากกว่า 19 ล้านรายของเรา อีกทั้งเพิ่มศักยภาพธุรกิจและโอกาสปิดการขายได้รวดเร็ว”

4 ขั้นตอนการ “ชำระเงิน” ด้วยแอปฯ TrueMoney Wallet กับ เพย์ โซลูชั่น

เกี่ยวกับ Pay Solution (เพย์ โซลูชั่น)

ผู้ให้บริการระบบชำระเงินออนไลน์แห่งแรกของเมืองไทย เริ่มดำเนินการครั้งแรกภายใต้ระบบชื่อ“Thaiepay.com” มีประสบการณ์ในการให้บริการมากว่า 17 ปี ต่อมาในปี 2556 ได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นบริการระบบชื่อ “Pay Solutions” ในการดำเนินงานของบริษัท เพย์ โซลูชั่น จำกัด มุ่งเน้นพัฒนาบริการระบบชำระเงินให้ตอบโจทย์ e-Commerce ได้อย่างครบวงจร ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ ได้แก่ บัตรเครดิต บัตรเดบิต พร้อมเพย์ วีแชทเพย์ อาลีเพย์ และ จุดบริการรับชำระเงิน โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนให้ทุกธุรกิจดำเนินการค้าออนไลน์ได้อย่างสมบูรณ์แบบและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

เกี่ยวกับ TrueMoney (ทรูมันนี่)

TrueMoney คือผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มุ่งเน้นให้บริการทางการเงินแก่ผู้คนซึ่งรวมไปถึงผู้ที่เข้าไม่ถึงบริการของสถาบันทางการเงิน โดยให้บริการใน 6 ประเทศในภูมิภาคได้แก่ ประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

TrueMoney ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2546 และเข้าเป็นธุรกิจหนึ่งของบริษัท Ascend Money ในปี พ.ศ. 2557 และเป็นพันธมิตรกับบริษัท Ant Financial Services Group ใน พ.ศ. 2559 ปัจจุบัน ทรูมันนี่ ให้บริการด้านการเงินที่หลากหลายผ่าน TrueMoney Wallet แอปพลิเคชั่นอีวอลเล็ทที่ได้รับความนิยมสูงสุดที่ช่วยอำนวยความสะดวกและทำให้การใช้จ่ายเป็นเรื่องง่าย อีกทั้งตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ ทรูมันนี่ ยังมีเครือข่ายตัวแทนที่ครอบคลุมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการบริการรับชำระเงินแบบออฟไลน์ทั้งหมดนี้เพื่อมอบความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับหลายล้านคนเพื่อก้าวล้ำไปสู่ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ทรูมันนี่ เปิดแคมเปญ #เติมใจ ร่วมเติม”พลังใจ” และ ”พลังกาย” ให้กันในยามวิกฤติ

กรุงเทพฯ, 3 สิงหาคม 2564 – ทรูมันนี่ ผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดแคมเปญ #เติมใจ ชวนผู้ใช้ร่วมส่งกำลังใจผ่านการสร้างสรรค์ข้อความในภาพผ่านแอปฯ และแชร์เพื่อ “เติมพลังใจ” ให้กันในยามวิกฤติ พร้อมขอเชิญร่วม “เติมพลังกาย” โดยกดรับสิทธิพิเศษ เพื่อรับสินค้าเครื่องดื่มและขนมผ่านตู้ขายสินค้าอัตโนมัติซึ่งรับชำระด้วย TrueMoney Wallet ที่ร่วมรายการ พร้อมรับเงินคืน 100%* สูงสุด 40 บาท โดยก่อนหน้านี้ ทรูมันนี่ ได้สานกิจกรรม “เติมน้ำใจ” โดยบริจาคเงิน 1 ล้านบาท เพื่อสมทบทุนซื้อเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์การแพทย์กับมูลนิธิหลักประกันสุขภาพไทยในโครงการ “ทุก(ข์)ภัยไทยช่วยกัน” ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ #เติมใจ เช่นกัน

ทั้งนี้ แคมเปญ #เติมใจ ประกอบไปด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่

1)  “เติมพลังใจ”  : เชิญชวนผู้ใช้ส่งกำลังใจดี ๆ ให้กันโดยใส่ข้อความในภาพเพื่อทำเป็นอีการ์ดแชร์ต่อให้เพื่อน ๆ ครอบครัว หรือคนรักผ่านฟีเจอร์พิเศษในแอปฯ ทรูมันนี่ วอลเล็ท ด้วยทรูมันนี่เชื่อว่าเวลานี้ “กำลังใจ” คือสิ่งสำคัญที่ช่วยเติมพลังบวกให้ทุกคนยืนหยัดต่อสู้กับวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน

2)  “เติมพลังกาย” : ทรูมันนี่ จับมือ 6 พันธมิตรผู้ผลิตและจำหน่ายตู้ขายสินค้าอัตโนมัติซึ่งรับชำระด้วยทรูมันนี่ วอลเล็ท ที่ร่วมรายการได้แก่ Bluemart, Sun Vending, Vending Plus, True Vending Machine, CP Retailink และ CP Ram รวมกว่า 10,000 ตู้ทั่วประเทศ ชวนผู้ใช้เติมพลังกายด้วยการกดรับสิทธิ์เพื่อไปรับสินค้าเครื่องดื่มและขนมจากตู้ และรับเงินคืน 100%* สูงสุด 40 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม ศกนี้ (หรือจนกว่าสิทธิ์จะเต็ม)

3)  “เติมน้ำใจ” : ทรูมันนี่ รวบรวมรายชื่อมูลนิธิและโครงการต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยโควิด-19 รวมทั้งเปิดช่องทางบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือมูลนิธิและโครงการเหล่านี้ผ่านแอปฯ ทรูมันนี่ วอลเล็ท อาทิ การระดมทุนจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจแบบไฮโฟลว์และอุปกรณ์การแพทย์เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลที่ขาดแคลนในการใช้ต่อลมหายใจผู้ป่วย ภายใต้โครงการ “ทุก(ข์)ภัยไทยช่วยกัน” โดยมูลนิธิหลักประกันสุขภาพไทย ซึ่งได้ส่งมอบเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลต่าง ๆ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดไปแล้วบางส่วน โดยทรูมันนี่ยังเปิดรับบริจาคเพื่อซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวเพิ่มเติมเนื่องจากยังคงมีโรงพยาบาลที่ขาดแคลน ทั้งนี้ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถเข้าไปในแอปฯ ทรูมันนี่ วอลเล็ท เพื่อดูรายชื่อมูลนิธิและโครงการต่าง ๆ ที่สนใจเพื่อร่วมบริจาคได้

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร.1240 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.truemoney.com/termjai/

*หมายเหตุ:  

  • สิทธิมีจำนวนจำกัด
  • 1 บัตรประชาชน (เจ้าของบัญชีที่ได้รับการยืนยันตัวตน) ต่อ 1 สิทธิ์
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไขการรับสิทธิ์เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ดูเพิ่มเติมได้ทาง https://www.truemoney.com/vending-termjai-terms-condition/

ขั้นตอนการ สร้างอีการ์ดกำลังใจ #เติมพลังใจ ในแอปฯ TrueMoney Wallet

1. log-in เข้าแอปฯ TrueMoney Wallet

2. ไปที่แบนเนอร์แคมเปญ #เติมใจ ร่วมส่งกำลังใจให้ทุกคนมีแรงสู้ต่อไปกับวิกฤติครั้งนี้

3. เลือกภาพประกอบที่ต้องการ (มี 10 ภาพ 10 สไตล์) และเขียนข้อความให้กำลังใจ พร้อมลงชื่อ

4. กดแชร์ไปที่โซเชียลมีเดีย

 

ขั้นตอนการ กดรับสิทธิ์ และใช้สิทธิ์ #เติมพลังกาย ในแอปฯ TrueMoney Wallet

1. log-in เข้าแอปฯ TrueMoney Wallet

2. ไปที่แบนเนอร์แคมเปญ #เติมใจ รับกำลังใจดี ๆ ที่นี่ ฟรี เครื่องดื่ม ขนม หรืออาหาร

3. ไปที่ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติที่ร่วมรายการฯ ใกล้คุณ และกดเลือกสินค้า

4. สแกนจ่ายด้วยแอปฯ TrueMoney Wallet

5. รับสินค้า พร้อมรับเงินคืนเข้าแอปฯ TrueMoney Wallet ทันที (สูงสุด 40 บาท)

เกี่ยวกับ TrueMoney (ทรูมันนี่)

TrueMoney คือผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มุ่งเน้นให้บริการทางการเงินแก่ผู้คนซึ่งรวมไปถึงผู้ที่เข้าไม่ถึงบริการของสถาบันทางการเงิน โดยให้บริการใน 6 ประเทศในภูมิภาคได้แก่ ประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

TrueMoney ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2546 และเข้าเป็นธุรกิจหนึ่งของบริษัท Ascend Money ในปี พ.ศ. 2557 และเป็นพันธมิตรกับบริษัท Ant Financial Services Group ใน พ.ศ. 2559 ปัจจุบัน ทรูมันนี่ ให้บริการด้านการเงินที่หลากหลายผ่าน TrueMoney Wallet แอปพลิเคชั่นอีวอลเล็ทที่ได้รับความนิยมสูงสุดที่ช่วยอำนวยความสะดวกและทำให้การใช้จ่ายเป็นเรื่องง่าย อีกทั้งตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ ทรูมันนี่ ยังมีเครือข่ายตัวแทนที่ครอบคลุมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการบริการรับชำระเงินแบบออฟไลน์ทั้งหมดนี้เพื่อมอบความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับหลายล้านคนเพื่อก้าวล้ำไปสู่ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ทำความรู้จัก “ข้อมูลส่วนบุคคล” และ “การล่อลวงแบบฟิชชิ่ง”

ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตตั้งแต่เราลืมตาตื่นจนเข้านอน หลายคนใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อติดต่อสื่อสารและทำธุรกรรมผ่าน e-Money อยู่เป็นประจำ ข้อมูลจาก ธปท. ระบุจำนวนบัญชี e-Money ณ ธันวาคม 2563 มีมากกว่า 107 ล้านบัญชี ยิ่งเทคโนโลยีดิจิทัลและกระแสการใช้จ่ายผ่านออนไลน์มีความสะดวกและเติบโตมากขึ้นเท่าไร กลโกงของมิจฉาชีพก็เพิ่มความแนบเนียนและมีความหลากหลายมากขึ้นเท่านั้น จนเกิดกรณีที่มีผู้ตกเป็นเหยื่ออยู่บ่อย ๆ ซึ่งสิ่งที่มิจฉาชีพต้องการจากเราหลัก ๆ นอกจาก “เงิน” แล้ว ก็ยังมี “ข้อมูลส่วนบุคคล” ที่มักใช้กลลวงให้ได้มาโดยวิธีที่เรียกว่า ‘ฟิชชิ่ง’ (Phishing) ซึ่งก็คือการเอาเหยื่อล่อให้เราหลงเชื่อและทำตาม โดยใช้ชั้นเชิงปลอมแปลงแม้กระทั่งชื่อผู้ส่งข้อความ SMS ไปที่เบอร์ของเหยื่อพร้อมแนบลิงค์ไปยังเว็บที่ทำขึ้นปลอมและแสร้งเป็นผู้ให้บริการต่าง ๆ เพื่อให้เหยื่อหลงกรอกข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ต้องมีสติและใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อได้รับการติดต่อในรูปแบบดังกล่าว

ข้อมูลส่วนบุคคล คืออะไร?

ข้อมูลส่วนบุคคล คือข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตนหรืออัตลักษณ์ของบุคคลนั้น ๆ ได้ ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่จะทำให้คนที่ได้ข้อมูลชุดนั้นไปสามารถเข้าถึงโปรไฟล์ของบริการต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูล อาทิ บัตรประชาชน ใบขับขี่ ทะเบียนบ้าน รูปภาพใบหน้า ลายนิ้วมือ เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิตรวมถึงเลขหลังบัตร เบอร์มือถือ ชื่อผู้ใช้ (Username) รหัสผ่าน (Password) และอาจรวมถึงรหัสผ่านแบบใช้ได้ครั้งเดียวหรือ OTP (One Time Password) ที่อาจผูกอยู่กับบริการหรือแอปฯ ทางการเงินต่าง ๆ ของเรา เป็นต้น ซึ่งมิจฉาชีพพอได้ไปแล้วก็สามารถเอาไปทำธุรกรรมในรูปแบบต่าง ๆ เสมือนเป็นเจ้าของข้อมูล โดยที่เจ้าของไม่รู้ตัว

การล่อลวงฟิชชิ่ง (Phishing) อันตรายแค่ไหน จะระวังหรือป้องกันตัวอย่างไร?

Phishing หากแปลจากเสียงอ่านก็เหมือนกับ “การตกปลา” ซึ่งการจะตกปลาให้ได้นั้นต้องใช้ “เหยื่อล่อ” ซึ่ง Phishing เป็นหนึ่งในกลโกงที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยวิธีที่มิจฉาชีพมักใช้เพื่อล่อเอาข้อมูลส่วนบุคคลของเรานั้นหลากหลายและบางครั้งก็แนบเนียนมาก ตั้งแต่การส่งอีเมล ข้อความทางแชต หรือ SMS พร้อมลิงก์ปลอมโดยแอบอ้างชื่อหรือโลโก้แบรนด์อื่น รวมถึงปลอมแปลงเอกสารทางการเกี่ยวกับบริษัทเพื่อให้ดูเหมือนน่าเชื่อถือก็มีมาแล้ว จากนั้นก็นำเสนอสินค้าหรือบริการ อาทิ เล่มเกม ลงทุน เสนอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ฯลฯ หรือแม้แต่สวมรอยเป็นหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่สถาบันทางการเงินที่น่าเชื่อถือ ติดต่อเราโดยการโทร ส่งข้อความ อีเมลสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ จนเราหลงเชื่อและลวงให้เราทำตามขั้นตอน เช่น คลิกลิงค์ บอกข้อมูลส่วนตัวสำคัญ ๆ  จนไปถึงให้ OTP แล้วก็ใช้ข้อมูลของเราล็อกอินเข้าบัญชีแอปฯ การเงินเพื่อเปลี่ยนการแจ้งเตือน รวมถึงดูดเงินออกจากบัญชี

ด้วยความห่วงใยความปลอดภัยในการทำธุรกรรมการเงินของผู้ใช้ ทรูมันนี่ ในฐานะผู้ให้บริการอีวอลเล็ทชั้นนำในประเทศไทย ได้ให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องความปลอดภัยและมี 4 มาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันความปลอดภัยและดูแลผู้ใช้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการทรูมันนี่ได้อย่างสบายใจ ได้แก่

  1. ระบบความปลอดภัยระดับโลก เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดให้สอดคล้องกับนโยบาย Digital ID ทรูมันนี่ได้นำเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า Biometric Facial Recognition (e-KYC) มาใช้ เพื่อช่วยป้องกันการฉ้อโกงทางออนไลน์และทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจในการทำธุรกรรมต่าง ๆ นอกจากนี้ การยืนยันตัวตนในระดับสูงสุด เช่น การไปเสียบบัตรประชาชนที่หน่วยให้บริการและสแกนใบหน้า ยังช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงบริการใหม่ ๆ เช่น การฝากเงินดอกเบี้ยสูงผ่านแอปฯ ซึ่งสอดคล้องกับระดับการยืนยันตัวตนที่ภาครัฐกำหนดในการใช้บริการดังกล่าว
  2. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจะถูกจัดเก็บตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยระดับสากลตามที่กฏหมายกำหนด โดยข้อมูลดังกล่าวนั้นจะนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์การให้บริการเท่านั้น
  3. ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยและจัดการความเสี่ยง ที่ได้รับใบรับรอง Professional Security Certifications ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกที่ได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล พร้อมพัฒนาแอปพลิเคชั่นและดูแลป้องกันการฉ้อโกงโดยร่วมมือกับหน่วยงานป้องกันและปราบปราม รวมถึงหน่วยงานภาครัฐฯ นอกจากนี้ยังมีศูนย์บริการ “Service Monitoring Center” เพื่อคอยตรวจสอบคุณภาพบริการและระบบเครือข่ายต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง
  4. TrueMoney Customer Care คอยดูแลอำนวยความสะดวกผู้ใช้งานให้อุ่นใจในการทำธุรกรรมการเงิน พร้อมให้คำแนะนำและช่วยเหลือเมื่อพบปัญหา หรือมีข้อสงสัยในการใช้งาน สามารถติดต่อได้ทั้งช่องทาง Live Chat บนแอปพลิเคชั่น และ Call Center 1240 ตลอด 24 ชั่วโมง

โดย ทรูมันนี่ นำเสนอแนวทางป้องกันการถูกล่อลวงโดยยึดหลัก “3ร” ดังนี้

  • ร – ระมัดระวัง… ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวใด ๆ แก่ผู้ติดต่อเข้ามาทั้งที่ไม่แน่ใจและไม่ได้ตรวจสอบก่อน ให้สังเกตความผิดปกติต่าง ๆ จากการติดต่อสื่อสารที่ได้รับ อาทิ ชื่อลิงค์เว็บไซต์ไม่ตรงกับแบรนด์ที่แอบอ้าง การขอข้อมูลที่จะทำให้ผู้ขอสามารถเข้าถึงเงินในบัญชีเราได้ เป็นต้น
  • ร – รอบคอบ… อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ ไม่ว่าข้อเสนอที่ได้จะดีแค่ไหน สามารถขอติดต่อกลับในช่องทางติดต่ออย่างเป็นทางการ หรือขอข้อมูลผู้ติดต่ออย่างละเอียด เช่น ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร และตรวจสอบโดยตรงผ่านช่องทางทางการของแบรนด์นั้น ๆ อาทิ อีเมลที่ระบุใน Official Website และ Call Center เป็นต้น
  • ร – รอบรู้… อัปเดทข่าวสารกลโกงมิจฉาชีพทั้งสำหรับความปลอดภัยของตนเอง และไว้เตือนคนรอบข้าง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และเยาวชน ให้เข้าใจถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคล และฉลาดใช้เทคโนโลยีโดยไม่เสี่ยงตกเป็นเหยื่อ

ทั้งนี้ ทรูมันนี่ ขอให้ผู้ใช้โปรดใช้ความระมัดระวังมิจฉาชีพแอบอ้าง ชื่อ และโลโก้ทรูมันนี่ หรือ บริษัทในเครือ อย่าง แอสเซนด์ นาโน และมี “สติ” ตรวจสอบก่อนทำธุรกรรมทุกครั้ง หรือหากมีข้อสงสัยโปรดติดต่อช่องทางสื่อสารทางการของทรูมันนี่ หรือ โทร 1240

เกี่ยวกับ TrueMoney (ทรูมันนี่)

TrueMoney คือผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มุ่งเน้นให้บริการทางการเงินแก่ผู้คนซึ่งรวมไปถึงผู้ที่เข้าไม่ถึงบริการของสถาบันทางการเงิน โดยให้บริการใน 6 ประเทศในภูมิภาคได้แก่ ประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

TrueMoney ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2546 และเข้าเป็นธุรกิจหนึ่งของบริษัท Ascend Money ในปี พ.ศ. 2557 และเป็นพันธมิตรกับบริษัท Ant Financial Services Group ใน พ.ศ. 2559 ปัจจุบัน ทรูมันนี่ ให้บริการด้านการเงินที่หลากหลายผ่าน TrueMoney Wallet แอปพลิเคชั่นอีวอลเล็ทที่ได้รับความนิยมสูงสุดที่ช่วยอำนวยความสะดวกและทำให้การใช้จ่ายเป็นเรื่องง่าย อีกทั้งตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ ทรูมันนี่ ยังมีเครือข่ายตัวแทนที่ครอบคลุมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการบริการรับชำระเงินแบบออฟไลน์ทั้งหมดนี้เพื่อมอบความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับหลายล้านคนเพื่อก้าวล้ำไปสู่ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

TrueMoney จับมือ SUSCO รับชำระเงินผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet ที่สถานีบริการ SUSCO กว่า 200 แห่งทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ, 1 เมษายน 2564 – ทรูมันนี่ ผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์ SUSCO ในประเทศไทย เปิดบริการชำระเงินค่าน้ำมันผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet ได้เป็นครั้งแรก ครอบคลุมสถานีบริการน้ำมันของ SUSCO กว่า 200 แห่งทั่วประเทศ เติมเต็มประสบการณ์ Cashless Payment ด้านการเดินทางสัญจรในชีวิตประจำวันให้แก่ผู้ใช้ทรูมันนี่กว่า 17 ล้านราย ตอกย้ำการเป็น Everyday Payment แอปฯ ที่เข้าใจทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในยุคนิวนอร์มัล

นายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ผู้อำนวยการฝ่ายทางพาณิชย์ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า “ปีนี้เรามุ่งขยายพันธมิตรตามกลยุทธ์ Partner of Choice เพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ทรูมันนี่กว่า 17 ล้านรายให้มากยิ่งขึ้น นอกจากจุดรับชำระทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงร้านค้า ร้านอาหารต่าง ๆ ที่เรามีเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ล่าสุดเราได้ขยายความร่วมมือไปสู่ด้านการเดินทาง โดยเชื่อมแอปฯ TrueMoney Wallet เข้ากับระบบเพย์เมนต์ของปั๊ม SUSCO ทุกสาขาเพื่ออำนวยความสะดวกการจ่ายเงินแบบไร้สัมผัส มอบประสบการณ์เติมน้ำมัน/ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่สะดวก รวดเร็ว และลดเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 พร้อมรองรับการเดินทางสัญจรไปมาในแต่ละวันที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นหลังมาตรการต่าง ๆ คลายล็อค”

นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การร่วมมือกับทรูมันนี่ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทาง E-Payment ใหม่ ๆ ที่เราเพิ่มเข้ามาเพื่อรองรับรูปแบบการใช้จ่ายแบบลดสัมผัสภายในสถานีบริการน้ำมันของซัสโก้ นอกจากช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถจ่ายค่าน้ำมันได้อย่างรวดเร็ว โดยพนักงานที่สถานีบริการจะนำเครื่องมาสแกน QR Code ผ่านแอปฯ ในมือถือลูกค้า โดยที่ลูกค้าไม่ต้องลงจากรถแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสต่าง ๆ ให้กับทั้งพนักงานและลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ที่สำคัญยังช่วยให้เราขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการใช้จ่ายผ่านระบบดิจิทัลได้มากยิ่งขึ้น และกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมแบบ Cashless ในสถานีบริการน้ำมันของ SUSCO”

พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ชำระค่าน้ำมันผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet ตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป ณ สาขาที่ร่วมรายการ รับเงินคืนทันที 10 บาท* ตั้งแต่วันนี้ – 15 พ.ค. ศกนี้ คลิกอ่านรายละเอียดและเงื่อนไขแคมเปญเพิ่มเติมได้ที่ https://www.truemoney.com/a/susco-retail/

 *หมายเหตุ

  • สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด
  • เฉพาะสาขาบริการน้ำมันที่ร่วมรายการ
  • ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายอื่น
  • เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด

เกี่ยวกับ TrueMoney (ทรูมันนี่)

TrueMoney คือผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มุ่งเน้นให้บริการทางการเงินแก่ผู้คนซึ่งรวมไปถึงผู้ที่เข้าไม่ถึงบริการของสถาบันทางการเงิน โดยให้บริการใน 6 ประเทศในภูมิภาคได้แก่ ประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

TrueMoney ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2546 และเข้าเป็นธุรกิจหนึ่งของบริษัท Ascend Money ในปี พ.ศ. 2557 และเป็นพันธมิตรกับบริษัท Ant Financial Services Group ใน พ.ศ. 2559 ปัจจุบัน ทรูมันนี่ ให้บริการด้านการเงินที่หลากหลายผ่าน TrueMoney Wallet แอปพลิเคชั่นอีวอลเล็ทที่ได้รับความนิยมสูงสุดที่ช่วยอำนวยความสะดวกและทำให้การใช้จ่ายเป็นเรื่องง่าย อีกทั้งตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ ทรูมันนี่ ยังมีเครือข่ายตัวแทนที่ครอบคลุมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการบริการรับชำระเงินแบบออฟไลน์ทั้งหมดนี้เพื่อมอบความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับหลายล้านคนเพื่อก้าวล้ำไปสู่ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ทรูมันนี่ ชวนส่งคำอวยพรและมอบอั่งเปาช่วงตรุษจีน สวัสดีปีฉลู อย่างปลอดภัยแบบ “แทนเงินสด ลดสัมผัส” แจก “อั่งเปายุคใหม่” ห่างไกลโควิด

ทรูมันนี่ ผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชิญชวนคนไทยส่งคำอวยพรช่วงตรุษจีนปี 64 ในแบบ “แทนเงินสด ลดสัมผัส” ห่างไกล COVID-19 ผ่าน “อั่งเปาออนไลน์” พร้อมเผยภาพรวมการใช้แอปฯ TrueMoney Wallet ช่วงเดือนเทศกาลตรุษจีนปี 2563 ที่ผ่านมา พบคนไทยเติมเงินเข้าแอปฯ TrueMoney Wallet มูลค่าสูงกว่า 6 พันล้านบาท และมีจำนวนครั้งในการโอนเงินแจกอั่งเปาสูงถึง 17 ล้านครั้งซึ่งมากกว่าปีก่อนหน้ากว่าเท่าตัว โดยในปีนี้หลายประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง จีน รวมถึงประเทศไทย ต่างรณรงค์ให้ประชาชนหันมาจับจ่ายซื้อของไหว้แบบ Cashless และแจกอั่งเปาออนไลน์เพื่อเลี่ยงการสัมผัสเงินสดที่อาจปนเปื้อนเชื้อไวรัส COVID-19 สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีที่ผสานรวมเข้ากับวัฒนธรรมได้อย่างน่าสนใจ

นายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ผู้อำนวยการฝ่ายทางพาณิชย์ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า “แม้เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 แต่ธรรมเนียมการให้ “แต๊ะเอีย” ยังคงมีอยู่คู่วิถีชีวิตชาวไทยเชื้อสายจีน โดยช่วงเดือนเทศกาลตรุษจีนปี 2563 ที่ผ่านมา พบคนไทยเติมเงินเข้าแอปฯ TrueMoney Wallet มูลค่าสูงกว่า 6 พันล้านบาท และมีจำนวนครั้งในการโอนเงินแจกอั่งเปาสูงถึง 17 ล้านครั้งซึ่งมากกว่าปีก่อนหน้ามากกว่าเท่าตัว และหากเจาะดูเฉพาะช่วง 7 วันเทศกาลตรุษจีนปี 63 เทียบกับปีก่อนหน้า จำนวนครั้งการโอนเงินแจกอั่งเปาระหว่างผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น x3.4 เท่า ส่วนยอดรวมการโอนเงินแจกอั่งเปาออนไลน์หากันในแอปฯ TrueMoney Wallet เพิ่มขึ้น x4.5 เท่า นอกจากนี้ ยอดเงินเฉลี่ยที่ผู้ใช้แต่ละคนมอบให้กันยังเพิ่มมากขึ้นถึง 81% การให้อั่งเปาผ่านแอปฯ จึงกลายเป็นเทรนด์ฮิตมาแรงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นิวนอร์มัล อีกทั้งยังสอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ทุกคนต้องเว้นระยะห่างและใส่ใจสุขภาพเป็นพิเศษ ตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมารณรงค์ให้คนไทยที่ต้องการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนปีนี้ให้หันมาใช้อั่งเปาออนไลน์แทนที่การให้เป็นเงินสดใส่ซอง นับเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโควิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะอั่งเปาออนไลน์นั้นสามารถส่งให้กันได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม อีกทั้งแอปฯ เราก็ได้สร้างฟีเจอร์เพิ่มเติมให้ผู้ใช้สามารถส่งคำอวยพร หรือแชร์สุ่มจำนวนเงินกันแบบสนุกๆ ไปยังกลุ่มผู้รับได้”

โดยผู้ใช้ที่สนใจสามารถสร้าง ”อั่งเปาออนไลน์” เพื่อมอบคำอวยพรและแจก “แต๊ะเอีย” วิถีใหม่ ห่างไกลโควิด ใน 4 สเต็ป” ผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet ได้ดังนี้
1. สเต็ปที่ 1 เข้าแอปฯ TrueMoney Wallet เลื่อนลงหมวด “กิจกรรมลุ้นรางวัล (Activities with Rewards)” คลิกที่ไอคอนรูปซองแดง “ส่งซองของขวัญ”
2. สเต็ปที่ 2 สร้างซองของขวัญ และใส่คำอวยพรให้ผู้รับ
• ใส่จำนวนเงินที่ต้องการ ตั้งแต่ 10-10,000 บาท
• เลือกประเภทการใส่ซองแบบ “สุ่มจำนวนเงิน” หรือ “แบ่งจำนวนเงินเท่ากัน”
• ใส่จำนวนคนที่รับซอง สามารถกรอกได้ตั้งแต่ 1-100 คน
• ใส่คำอวยพร เลือกคำอวยพรได้หลากหลาย อาทิ “เฮง ๆ รวย ๆ” “ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดใช้” หรือจะพิมพ์คำอวยพรสุดเก๋เองตามใจชอบก็ได้ และกดปุ่ม “สร้างซอง”
3. สเต็ปที่ 3 ยืนยันการสร้างซองของขวัญ พร้อมตรวจสอบความถูกต้องอีกรอบ
4. สเต็ปที่ 4 สร้างซองของขวัญสำเร็จ สามารถกดปุ่มคัดลอกลิงก์เพื่อส่งให้คนที่เราต้องการแจกอั่งเปาให้ได้เลย หรือจะคลิกส่งผ่านแอปพลิเคชั่นแชท หรือโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ก็ได้เช่นกัน (ลิงก์ซองของขวัญจะหมดอายุภายใน 72 ชม. หากเพื่อน ๆ กดรับซองไม่ครบตามเวลาที่กำหนด เงินที่เหลือจะถูกคืนเข้าบัญชี TrueMoney Wallet ของผู้สร้างซองทันที)

ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่หน้า Facebook Fanpage ของทรูมันนี่ หรือทาง https://www.truemoney.com/sendgift/


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ทรูมันนี่ รุกขยายฐานผู้ใช้ชาวต่างชาติ เปิด ‘TrueMoney Wallet for Foreigners’ ชูเวอร์ชั่นภาษาพม่า

ทรูมันนี่ ผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขยายฐานผู้ใช้งานอีวอลเล็ทชาวต่างชาติในประเทศไทย เปิด “TrueMoney Wallet for Foreigners” เพื่อสร้าง Financial Inclusion และมอบประสบการณ์ Cashless Payment ให้กับชาวต่างชาติและแรงงานต่างชาติในไทย โดยนอกเหนือจากแอปฯ เวอร์ชั่นภาษาไทยและอังกฤษ ยังได้เพิ่มเวอร์ชั่นภาษาพม่า เพื่อรุกเจาะกลุ่มผู้ใช้แรงงานชาวเมียนมาร์โดยเฉพาะกว่า 2 ล้านคนในประเทศไทย พร้อมมอบบริการ “In-App TrueMoney Transfer” โอนเงินจากประเทศไทยกลับประเทศเมียนมาร์ได้โดยตรงจากในแอปฯ แบบสะดวก ปลอดภัย ฟรี! ค่าธรรมเนียม

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “เราได้ทดลองให้บริการอีวอลเล็ทสำหรับชาวต่างชาติ (TrueMoney Wallet for Foreigners) ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา และได้เห็นว่ากระแสการปรับตัวและใช้ชีวิตดิจิทัลในยุค New Normal ไม่ได้เกิดขึ้นกับแค่คนไทย แต่ยังรวมถึงชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานและพำนักในประเทศไทย ปัจจุบัน นับตั้งแต่ทดลองให้บริการมามีชาวต่างชาติสนใจสมัครใช้บริการทรูมันนี่เพิ่มขึ้นมากกว่า 300% ซึ่งสัดส่วนผู้ใช้ที่เป็นแรงงานชาวเมียนมาร์ในไทยมีมากสุดอันดับหนึ่งคือกว่า 15% และเพิ่มจำนวนขึ้นมากกว่า 220% (ม.ค. – พ.ค. 2563) สะท้อนให้เห็นว่านวัตกรรมและบริการการเงินที่มีในแอปฯ TrueMoney Wallet ตอบโจทย์การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันกับทุก ๆ คน ดังนั้นเราจึงได้พัฒนาต่อยอดโดยเพิ่มเวอร์ชั่นภาษาพม่าใน TrueMoney Wallet for Foreigners อีกทั้งเปิดบริการ In-App TrueMoney Transfer เพื่อรองรับกลุ่มผู้ใช้ชาวเมียนมาร์ให้โอนเงินกลับไปยังบ้านเกิดได้ง่ายๆ ผ่านแอปฯ เราได้อย่างสะดวก ประหยัดทั้งเงินทั้งเวลา พร้อมมอบความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีระดับสูง”

ทั้งนี้ ทรูมันนี่ คือ ผู้ให้บริการ e-Wallet รายแรกของประเทศไทย ที่ได้รับอนุญาตให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศได้อย่างถูกต้อง โดยก่อนหน้านี้ ทรูมันนี่ ให้บริการ TrueMoney Transfer ผ่านจุดบริการ 11 สาขาในกรุงเทพฯ สมุทรสาคร และนครปฐม ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีแรงงานเมียนมาร์หนาแน่น นอกจากนี้ ยังมีจุดบริการ TrueMoney Transfer ในประเทศเมียนมาร์ จำนวน 4,000 จุด ซึ่งรวมถึงธนาคาร AGD (Asia Green Development Bank) ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์เอกชนรายใหญ่ของประเทศเมียนมาร์ ให้บริการครอบคลุมเกือบทุกเมืองในประเทศเมียนมาร์ที่ส่วนใหญ่เป็นภูมิลำเนาของผู้ใช้แรงงานชาวเมียนมาร์ในประเทศไทย อาทิ รัฐมอญ รัฐกะเหรี่ยง รัฐฉาน เขตมะกเว เขตพะโค เขตซะไกง์ เขตย่างกุ้ง ตะนาวศรี เนปยีดอ และมะกเว โดยการเปิดให้บริการ In-App TrueMoney Transfer ในครั้งนี้ จะช่วยให้แรงงานชาวเมียนมาร์ในไทยไม่ต้องเดินทางไปจุดให้บริการ แต่สามารถโอนเงินกลับภูมิลำเนาได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ ทรูมันนี่ วอลเล็ท อย่างสะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงแรงงาน ณ เดือนตุลาคม 2563 ระบุว่า มีชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานและพำนักอยู่ในประเทศไทยจำนวน 2.4 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานข้ามชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเมียนมาร์ ลาว กัมพูชา และเวียดนามราว 2.1 ล้านคน ซึ่งข้อมูลขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ระบุว่ามากกว่าครึ่ง (52%) ของแรงงานกลุ่มนี้มีการส่งเงินกลับไปยังประเทศบ้านเกิดผ่านช่องทางนอกระบบหรือนายหน้ามากกว่าช่องทางในระบบ (34%) เช่น ธนาคาร หรือผู้ให้บริการโอนเงิน (money transfer operators: MTO) ซึ่งปัจจุบันมีค่าธรรมเนียมเฉลี่ยที่ 150 บาทต่อรายการ โดยการสำรวจของกองทุนพัฒนาเงินทุนแห่งสหประชาชาติ (UNCDF) ยังพบข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าเหตุผลที่แรงงานเหล่านี้เลือกใช้ช่องทางนอกระบบหรือนายหน้าในการโอนเงินก็เนื่องจากความเชื่อใจ สะดวก ยืดหยุ่นด้านเวลา และเข้าถึงมากกว่าช่องทางในระบบ แต่อย่างไรก็ตามผู้ใช้บริการก็ยังคงต้องเผชิญปัญหาเรื่องค่านายหน้าและความเสี่ยงต่อการสูญหาย

“ด้วยปัญหาที่ชาวเมียนมาร์ต้องเจอ ทรูมันนี่จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีทางการเงิน (FINTECH) มาช่วยเติมเต็มประสบการณ์ทางการเงินแบบ Cashless ของแรงงานชาวเมียนมาร์ที่ทำงานในประเทศไทย พร้อมสร้างแพลตฟอร์มโอนเงินกลับประเทศที่ผสานกับเครือข่ายเอเย่นต์และพันธมิตรอันแข็งแกร่งของเราในประเทศเมียนมาร์ เพื่ออำนวยความสะดวกพวกเขาในการส่งเงินกลับหาครอบครัวและคนที่ห่วงใย ในแบบที่เข้าถึงง่าย ครอบคลุม ปลอดภัย และไม่มีค่าธรรมเนียมการโอน เพื่อเพิ่มโอกาสทางการเงินและมอบคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าแก่พวกเขา โดยนอกเหนือจากชาวเมียนมาร์ เรายังได้ขยายแพลตฟอร์มอีวอลเล็ทของเราเพื่อรองรับการให้บริการใช้จ่ายแก่ชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศไทย โดยเฉพาะผู้ใช้จากประเทศเพื่อนบ้านที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการทางการเงิน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อตอบรับพันธกิจของเราในการพัฒนาและมอบนวัตกรรมทางการเงินเพื่อทำให้คุณภาพการใช้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้น” นายธัญญพงศ์ กล่าวสรุป


 

Exit mobile version