Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

แชฟฟ์เลอร์ เปิดตัวศูนย์ฝึกอบรมเทคนิคเคลื่อนที่ครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แผนกอะไหล่ทดแทนของแชฟฟ์เลอร์ (Schaeffler Automotive Aftermarket) ผู้นำด้านการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อน พร้อมเปิดตัวศูนย์ฝึกอบรมเทคนิคเคลื่อนที่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ โดยจะเริ่มออกเดินสายครั้งแรกในประเทศไทย โครงการนำร่องนี้จะให้ความช่วยเหลือด้านข้อมูลและองค์ความรู้งานซ่อมระดับ (OEM) ชั้นยอดแก่อู่ซ่อมรถอิสระที่นับวันจะมีแต่ความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น

นายชัชวาล  ส้มจีน ผู้อำนวยการ แผนกอะไหล่ทดแทน แชฟฟ์เลอร์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “ศูนย์ฝึกอบรมเทคนิคเคลื่อนที่ เร็พ เอ็กซ์เพิร์ด (REPXPERT) จะเดินสายนำเอาองค์ความรู้ขั้นสูงและทักษะงานซ่อมระดับหน้างานจริงของระบบส่งกำลัง (Transmission) ของแบรนด์ ลุค (LuK) ระบบเครื่องยนต์ (Engine) ของแบรนด์ อีน่า (INA) และระบบช่วงล่าง (Chassis) ของแบรนด์เอฟเอจี (FAG) ส่งถึงหน้าประตูของอู่ซ่อมรถอิสระมากกว่า 4,000 ราย ครอบคลุม 40 เส้นทางหลักตลอดทั่วทั้งประเทศไทย”

ศูนย์ฝึกอบรมเทคนิคเคลื่อนที่ เร็พ เอ็กซ์เพิร์ด ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างประสบการณ์เรียนรู้ร่วมกันระหว่างแชฟฟ์เลอร์และช่างอู่ซ่อมรถ โดยช่างอู่ซ่อมรถที่เข้าร่วมการฝึกอบรมเทคนิคในครั้งนี้จะได้รับประสบการณ์โซลูชันซ่อมแบบครบวงจรของแชฟฟ์เลอร์ภายใต้แบรนด์ลุค  อีน่า และเอฟเอจี ได้เรียนรู้จากช่างพี่เลี้ยงที่มีคุณวุฒิ อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างชุมชนอู่ซ่อมรถเพื่อให้ไม่พลาดข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เพื่อให้สามารถก้าวไปสู่ความเป็นผู้เชี่ยวชาญและสร้างความไว้วางใจกับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

แผนกอะไหล่ทดแทนของแชฟฟ์เลอร์ (Schaeffler Automotive Aftermarket) มีความมุ่งมั่นที่จะใช้โครงการ       นำร่องนี้เพื่อเตรียมตัวช่างซ่อมให้สามารถรับมือกับพัฒนาการทางเทคโนโลยีในโลกแห่งอนาคตได้ นอกจากโครงการศูนย์ฝึกอบรมเทคนิคเคลื่อนที่เร็พ เอ็กซ์เพิร์ดแล้ว ยังมีระบบพอร์ทัล เร็พ เอ็กซ์เพิร์ดสำหรับอู่ซ่อมรถ (Garage portal REPXPERT) ที่ผ่านการออกแบบมาเพื่ออู่ซ่อมรถอิสระที่จะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางให้ข้อมูลและบริการต่าง ๆ ของแบรนด์ ลุค อีน่า และเอฟเอจี ของแชฟฟ์เลอร์ทั้งหมด ในรูปแบบเว็บไซต์และแอปพลิเคชันมือถือ เพื่อการเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็น         ได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และเป็นมิตรต่อผู้ใช้ สามารถดาวโหลดแอปพลิเคชัน REPXPERT ฟรีได้ทั้ง iOS และ แอนดรอยด์  โดยสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://aftermarket.schaeffler.co.th/th/repxpert-garage-portal

โดยในงานเปิดตัวศูนย์ฝึกอบรมเทคนิคเคลื่อนที่ เร็พ เอ็กซ์เพิร์ด อย่างเป็นทางการ ได้รับเกียรติจากผู้บริหารแชฟฟ์เลอร์เข้าร่วมงานดังนี้  นายกอราฟ มิชรา ผู้จัดการบริหารส่วนงานวางแผน พัฒนา และจัดวางกลยุทธ์ธุรกิจ        แผนกอะไหล่ทดแทนประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นายไมก้า เชฟพาร์ด ประธานบริหารแผนกอะไหล่ทดแทน ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และประธานบริหารประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นายชัชวาล  ส้มจีน ผู้อำนวยการ แผนกอะไหล่ทดแทน ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นางสาวศิลัดดา ทับปิ่นทอง ผู้จัดการบริหารส่วนงานธุรกิจออนไลน์และการตลาด แผนกอะไหล่ทดแทนประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และนางสาวมณธิญา ถนอมทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายขาย แผนกอะไหล่ทดแทนประจำประเทศไทย

แชฟฟ์เลอร์ กรุ๊ป – We pioneer motion

แชฟฟ์เลอร์ กรุ๊ป เป็นผู้สร้างแรงผลักดันในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีการขับเคลื่อน (Groundbreaking) มาตลอด 75 ปี เพียบพร้อมทั้งด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และบริการระบบยานยนต์ไฟฟ้า (Electric mobility) ระบบขับเคลื่อนปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ (COefficient drives) โซลูชันสำหรับระบบช่วงล่าง อุตสาหกรรม 4.0 การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล (Digitalization) และพลังงานสะอาด ทำให้เราเป็นหนึ่งในคู่ค้าที่มีความน่าเชื่อถือในการพัฒนาระบบการขับเคลื่อนให้มีประสิทธิภาพ      มีความชาญฉลาด และมีความยั่งยืนตลอดทั้งอายุการใช้งาน เราขับเคลื่อนเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนและระบบที่มีความแม่นยำสูงสำหรับระบบขับเคลื่อน (drive train) และระบบช่วงล่าง (แชสซี) รวมถึง ตลับลูกปืนหลายชนิด เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท ในปี พ.ศ. 2566  แชฟฟ์เลอร์ กรุ๊ป ทำยอดขายได้ 16,300 ล้านยูโร โดยมีพนักงานมากถึง 83,400 คน  แชฟฟ์เลอร์เป็นหนึ่งในบริษัทดำเนินธุรกิจแบบครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในเยอรมนี

แผนกอะไหล่ทดแทนเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนธุรกิจอะไหล่ระดับโลกของแชฟฟ์เลอร์ นอกจากนี้ ยังเป็นผู้รับผิดชอบส่งมอบชิ้นส่วนและคิดค้นโซลูชันการซ่อมที่ครอบคลุมสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถแทรกเตอร์ รวมถึงรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ (Light and heavy commercial vehicle)  แชฟฟ์เลอร์มีความเข้าใจและเชี่ยวชาญในระบบส่งกำลัง (Transmission system)  ระบบเครื่องยนต์ (Engine system) และระบบช่วงล่าง (Chassis system) ทำให้แชฟฟ์เลอร์เป็นที่รู้จักและยอมรับในงานด้านเทคนิค       โซลูชันอัจฉริยะ และงานบริการที่ไม่เป็นรองใคร ในปี พ.ศ. 2565  แผนกอะไหล่ทดแทนของแชฟฟ์เลอร์มียอดขายมากกว่า 2 พันล้านยูโร โดยมีพนักงานมากกว่า 1,700 คน มีคู่ค้าประมาณ 11,500 ราย และมีสำนักงานขายและสำนักงานตัวแทนมากกว่า 70 แห่ง ทั่วโลก ทำให้มั่นใจว่าเราจะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

แชฟฟ์เลอร์ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จัดโครงการแข่งขันด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า

บริษัท แชฟฟ์เลอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภาคธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรมร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) จัดโครงการการแข่งขันความคิดสร้างสรรค์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (the Future EV Mobility Creative Contest for Sustainability) สำหรับนิสิตนักศึกษา โดยจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ภายใต้แนวคิด “พันธมิตรเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน” ซึ่งงานดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 160 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เยอรมนี  โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้แสดงความรู้ ความสามารถ และทักษะต่าง ๆ เช่น นวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ นโยบายและผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

แหล่งรวมนวัตกรรมและการพัฒนาระบบพลังงานไฟฟ้า

การแข่งขันในครั้งนี้จัดขึ้นตามนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว   (Bio-Circular-Green Economy) ของประเทศไทยที่กำลังขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน    อีกทั้งยังเป็นการจัดการแข่งขันเพื่อยกย่องความเป็นเลิศด้านวิศวกรรมและการคมนาคมด้วยยานยนต์ไฟฟ้า (EV Mobility) ของประเทศเยอรมนี รวมถึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภายใต้กรอบความคิดริเริ่มด้านสภาพภูมิอากาศระหว่างประเทศของเยอรมนี (German International Climate Initiative) ด้วย

นายชัชวาล ส้มจีน กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย บริษัท แชฟฟ์เลอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเปลี่ยนแปลงประเทศให้กลายเป็นสังคมปลอดมลพิษ ภายใต้นโยบาย 30/30 ซึ่งหมายความว่า 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดจะเน้นไปที่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2573 และด้วยสัดส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้าในภาคส่วนยานยนต์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่คาดว่าจะมากถึง 50% จึงทำให้ประเทศไทยซึ่งมีที่ตั้งทางยุทธศาสตร์เหมาะสมและเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกยานยนต์ชั้นนำในภูมิภาคนี้สามารถสร้างโอกาสให้กับเราอย่างมากมาย ในการพัฒนาโซลูชั่นนวัตกรรมใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่กำลังเติบโตอย่างมีศักยภาพ

นายพีระดิษฐ์ โชติภาสพุทธิ ผู้จัดการหน่วยธุรกิจระบบส่งกำลัง แผนกเทคโนโลยียานยนต์ บริษัท แชฟฟ์เลอร์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า  ”ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมเป็นสิ่งสำคัญที่จะขับเคลื่อนไปสู่อีโมบิลิตี้อย่างแท้จริง ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความรู้ และประสบการณ์ที่ดีระหว่างนิสิตนักศึกษาและคณะที่ปรึกษา รวมถึงการแสดงนวัตกรรมโซลูชั่นที่หลากหลายที่มีส่วนช่วยผลักดันอุตสาหกรรมให้เติบโตเพิ่มขึ้น”    

โครงการนี้เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาส่งผลงานเข้าประกวดโดยใช้เกณฑ์การตัดสิน 3 หัวข้อหลัก คือ ความคิดสร้างสรรค์  ความเป็นไปได้ และผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน โดยผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมดจะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าล่าสุด  โดยทีมที่ได้รับคัดเลือก ทีม ทีมละ คน เข้าร่วมแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ชิงเงินรางวัลรวม 100,000 บาทเมื่อวันที่ 27 – 28 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา  ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  

บ่มเพาะบุคลากรที่มีความสามารถเหมาะสม

ปัจจุบันตลาดมีความต้องการผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขาวิชาโดยเฉพาะในสายงานวิศวกรรมต่างๆ ดังนั้นการสร้างผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรที่มีความสามารถเหมาะสมจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาภาคส่วนการคมนาคมด้วยยานยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง

นางสาวพัชมน ปัญโญสุข หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท แชฟฟ์เลอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในธุรกิจเครือข่ายยานยนต์ก่อให้เกิดความต้องการด้านทักษะและความสามารถในวงกว้างเป็นอย่างมาก และเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในโลกอุตสาหกรรมดังกล่าว แชฟฟ์เลอร์เชื่อมั่นอย่างเต็มที่ถึงความสามารถของเราในการจัดหาเครื่องมือและทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อสร้างพนักงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสม พร้อมด้วยทักษะที่เกี่ยวข้องเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมอย่างการแข่งขัน EV Hackathon ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยให้แชฟฟ์เลอร์สามารถบ่มเพาะและดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาเป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญในการบุกเบิกและสร้างสรรค์โซลูชันเพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน

โดยก่อนหน้านี้ บริษัทแชฟฟ์เลอร์ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับมหาวิทยาลัยบูรพา ขับเคลื่อนศูนย์การเรียนรู้          อีอีซี ออโตเมชั่น พาร์ค (EEC Automation Park) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทักษะและการปรับทักษะใหม่สำหรับวิศวกร คนทำงาน และผู้สำเร็จการศึกษาผ่านหลักสูตรโปรแกรมการเรียนรู้ และการฝึกอบรมทางเทคนิคที่ดำเนินการที่ศูนย์การเรียนรู้ อีอีซี ออโตเมชั่น พาร์ค ของมหาวิทยาลัยบูรพา นอกจากนี้นักศึกษายังสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการตรวจสอบสภาพตลับลูกปืนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของแชฟฟ์เลอร์ได้โดยตรง ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยี  Smartcheck  และ OPTIME

แชฟฟ์เลอร์ กรุ๊ป – We pioneer motion

ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภาคธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรมระดับโลก แชฟฟ์เลอร์ กรุ๊ป ได้ขับเคลื่อนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับภาคอุตสาหกรรมและยานยนต์มามากกว่า 75 ปี ด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์และบริการที่ทันสมัย ในด้านการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมดิจิตอล 4.0 และพลังงานหมุนเวียน  ทำให้แชฟฟ์เลอร์เป็นหุ้นส่วนธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือในด้านการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการด้านอุตสาหกรรมและยานยนต์ที่มีประสิทธิภาพ ชาญฉลาด และยั่งยืน เราผลิตชิ้นส่วนและระบบที่มีความแม่นยำสูงสำหรับระบบขับเคลื่อน (drive train) และระบบช่วงล่าง (แชสซี) รวมถึง ตลับลูกปืนหลายชนิด เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท แชฟฟ์เลอร์ กรุ๊ป  มียอดขายประมาณ 13.9 พันล้านยูโรในปี พ.ศ. 2564 โดยเป็นหนึ่งในบริษัทครอบครัวที่ใหญ่สุดในโลก ด้วยจำนวนพนักงานมากถึง 83,300 คน อีกทั้งจากข้อมูลของ DPMA (สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าเยอรมนี) แชฟฟ์เลอร์เป็นบริษัทที่มีการพัฒนานวัตกรรมมากสุดเป็นอันดับสาม โดยมีการยื่นขอจดสิทธิบัตรไปมากกว่า 1,800  รายการในปี พ.ศ. 2564


 

Exit mobile version