Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

IBM และ SAP ช่วยสถาบันการเงินเร่งเครื่องสู่คลาวด์ เพื่อพลิกโฉมการดำเนินงานให้ทันสมัย ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย

กรุงเทพฯ​ ประเทศไทย – 3 สิงหาคม 2564: IBM (NYSE: IBM) และ SAP SE (NYSE: SAP) ประกาศถึงแผนที่ SAP เตรียมจะเปิดให้บริการโซลูชันการเงินและการจัดการข้อมูลสองรายการบน IBM Cloud for Financial Services เพื่อเร่งการใช้คลาวด์ภายในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน ความร่วมมือดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆ รับมือกับข้อกำหนดของอุตสาหกรรมที่มีความเข้มงวด ทั้งในด้านการกำกับดูแล การรักษาความปลอดภัย รวมถึงความยืดหยุ่นฟื้นตัวได้เร็ว รวมถึงช่วยสนับสนุนองค์กรด้านบริการทางการเงินในการขับเคลื่อนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันและนวัตกรรม

การที่ธนาคารและบริษัทประกันภัยจำเป็นต้องรักษาความสมดุลระหว่างการมอบบริการที่ก้าวล้ำ กับการดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านการรักษาความปลอดภัยและการกำกับดูแลอันเข้มงวดของอุตสาหกรรม ทำให้สภาพแวดล้อมแบบไฮบริดคลาวด์ทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ IBM ได้เปิดตัว IBM Cloud for Financial Services ที่มาพร้อมระบบซิเคียวริตี้และการควบคุมการปฏิบัติตามกฎระเบียบแบบบิลด์อินในตัว เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมในอุตสาหกรรมการเงิน พร้อมกับช่วยให้บริษัทลดความเสี่ยงและอุปสรรคด้านการกำกับดูแลที่ทำให้การทำ modernization ทรานส์ฟอร์เมชัน และการสร้างนวัตกรรม ไม่สามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่

IBM Cloud for Financial Services ช่วยให้หน่วยงานด้านการบริการทางการเงินสามารถทำธุรกรรมกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีและฟินเทค ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ออกแบบมาเฉพาะและมีความปลอดภัยสูง การใช้งาน IBM Cloud for Financial Services จะทำให้ลูกค้าสามารถใช้งานโซลูชันของ SAP โดยมั่นใจได้ว่าการดำเนินการเป็นไปตามกฎข้อบังคับและมาตรฐานที่กำกับดูแลอยู่ โดยแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอีโคซิสเต็มของและฟินเทคมากกว่า 100 รายนี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยรับมือกับความเสี่ยงในซัพพลายเชนของสถาบันการเงิน และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่ๆ เพื่อช่วยติดสปีดทรานส์ฟอร์เมชันให้กับองค์กรต่างๆ

“การก้าวสู่คลาวด์อย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล อย่างอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน นำสู่ความจำเป็นในการจัดการกับความท้าทายด้านการดำเนินงานและการปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ” บ็อบ คัมมิงส์ Head of SAP Financial Services Sector กล่าว “การผนวกความสามารถของ IBM Cloud และ SAP จะช่วยให้ธนาคารและบริษัทประกันภัยทั่วโลกสามารถเร่งเดินหน้าสู่เส้นทางดิจิทัล และสเกลธุรกิจได้ทั่วโลก”

“การเพิ่มพันธมิตรใหม่ๆ อย่างเช่น SAP เข้าสู่อีโคซิสเต็มที่กำลังเติบโต ถือเป็นก้าวย่างที่ช่วยผลักดันให้เกิดการใช้คลาวด์ในอุตสาหกรรมมากขึ้น เพื่อช่วยลดความเสี่ยงตลอดทั้งซัพพลายเชน” โจเอล สปีธ กรรมการผู้จัดการ IBM Cloud for Industries กล่าว “เรากำลังช่วยสถาบันการเงินปรับเปลี่ยนการดำเนินงานให้ทันสมัยด้วยโซลูชัน SAP บน IBM Cloud for Financial Services ซึ่งจะเป็นการผลักดันนวัตกรรมและสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน”

SAP วางแผนให้บริการโซลูชันต่างๆ บน IBM Cloud for Financial Services ดังนี้

  • SAP’s intelligent suite รวมถึงโซลูชัน SAP S/4HANA®: SAP ให้บริการแอพพลิเคชันแบบบูรณาการ เทคโนโลยีอัจฉริยะ และแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธนาคารสามารถให้บริการลูกค้าปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น ภายใต้เฟรมเวิร์คองค์กรอัจฉริยะ
  • โซลูชันของ SAP สำหรับการจัดการข้อมูลเชิงกลยุทธ์ รวมถึงซอฟต์แวร์ SAP® Adaptive Server Enterprise และ SAP IQ: การรวมจุดเด่นของเทคโนโลยี in-memory กับโซลูชันเหล่านี้ จะช่วยให้ SAP สามารถนำเสนอแพลตฟอร์มข้อมูลที่แข็งแกร่งเพื่อช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้ธุรกิจ

SAP และ IBM มีลูกค้าหลายร้อยรายและผลิตภัณฑ์กว่า 5,500 รายการร่วมกัน โดยทั้งสองบริษัทมุ่งเน้นที่การช่วยให้องค์กรปรับธุรกิจของตนให้ทันสมัย และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีก้าวล้ำให้มากที่สุด

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IBM Cloud for Financial Services สามารถดูได้ที่ www.ibm.com/cloud/financial-services

ข้อความใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับทิศทางในอนาคตและเจตจำนงค์ของ IBM อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิกถอนได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และแสดงถึงเป้าหมายและวัตถุประสงค์เท่านั้น

เกี่ยวกับ SAP

กลยุทธ์ของ SAP คือการช่วยให้ทุกธุรกิจดำเนินงานในรูปแบบองค์กรอัจฉริยะ ในฐานะผู้นำตลาดในด้านแอพพลิเคชันซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร เราช่วยบริษัททุกขนาดในอุตสาหกรรมให้ทำงานได้เต็มศักยภาพที่สุด โดย 77% ของรายได้จากธุรกรรมทั่วโลกมีการใช้งานผ่านระบบ SAP® เทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิง อินเตอร์เน็ตอ็อฟธิงส์ (IoT) และการวิเคราะห์ขั้นสูงช่วยเปลี่ยนธุรกิจของลูกค้าให้เป็นองค์กรอัจฉริยะ SAP ช่วยให้บุคคลและองค์กรมีข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจ และส่งเสริมการทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้องค์กรก้าวนำในตลาด เราพัฒนาเทคโนโลยีให้ง่ายขึ้น เพื่อให้บริษัทต่างๆ สามารถใช้ซอฟต์แวร์ในแบบที่พวกเขาต้องการได้อย่างไม่มีสะดุด ชุดแอพพลิเคชันและบริการครบวงจรของเราช่วยให้ลูกค้าธุรกิจและลูกค้าทั่วไปใน 25 อุตสาหกรรมทั่วโลกสามารถดำเนินการได้อย่างมีผลกำไร ปรับตัวอย่างต่อเนื่อง และสร้างความแตกต่าง ด้วยเครือข่ายระดับโลกของลูกค้า พันธมิตร พนักงาน และผู้นำทางความคิด SAP ช่วยให้โลกทำงานได้ดีขึ้นและปรับปรุงชีวิตของคนให้ดียิ่งขึ้นสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ www.sap.com

ข้อมูลใดๆ ในข่าวนี้ที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงเชิงประวัติศาสตร์คือข้อความคาดการณ์อนาคตตามที่นิยามไว้ในกฎหมาย Private Securities Litigation Reform Act ปี 1995 ของสหรัฐอเมริกา ข้อความคาดการณ์อนาคตจะมีความเสี่ยงต่างๆ และความไม่แน่นอนที่หลากหลาย ตามที่ได้อธิบายไว้ในข้อมูลของ SAP ที่ให้ไว้ต่อ Securities and Exchange Commission (SEC) สหรัฐอเมริกา รวมถึงรายงานประจำปีล่าสุดในแบบฟอร์ม 20-F ซึ่งอาจทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างจากความคาดหมาย SAP ขอเตือนผู้อ่านว่าไม่ควรเชื่อถือข้อความคาดการณ์อนาคตเหล่านี้มากเกินไป ซึ่ง SAP ไม่มีข้อผูกมัดในการอัพเดต และข้อมูลนี้เป็นข้อมูลของวันนี้เท่านั้น ชื่อผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

SAP และผลิตภัณฑ์และบริการ SAP อื่นๆ ที่กล่าวถึงในที่นี้ รวมถึงตราสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องคือเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ SAP SE ในเยอรมนีและประเทศอื่นๆ โปรดดูที่ https://www.sap.com/copyright สำหรับข้อมูลและคำประกาศเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้าเพิ่มเติม


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เดอะ สตีล เสริมศักยภาพกระบวนการทำงาน ด้วยโซลูชั่น SAP® S4/HANA® และ โซลูชั่น SAP Intelligent Robotic Process Automation

บริษัท เดอะ สตีล จำกัด (มหาชน) หนึ่งในศูนย์บริการเหล็กที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ ประกาศเลือกใช้งานโซลูชั่น SAP® S4/HANA ระบบ ERP สำหรับองค์กรธุรกิจชุดล่าสุดของ เอสเอพี และ SAP Intelligent Robotic Process Automation ในโรงงานผลิต 2 แห่งและคลังสินค้า 3 แห่งทั่วประเทศ เพื่อปรับกระบวนการทางธุรกิจสู่วิถีดิจิทัล ทำงานผสานกันบนแพลตฟอร์มแบบครบวงจรที่คล่องตัวและยืดหยุ่น เตรียมความพร้อมรองรับการเติบโตในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในฐานะผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์เหล็กและบริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร เดอะ สตีล เล็งเห็นว่าควรต้องเร่งปรับเปลี่ยนองค์กรในเชิงดิจิทัล (digital transformation) เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเหล็กซึ่งมีสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายรุจิระ จิระพงษ์ตระกูล กรรมการบริหาร บริษัท เดอะสตีล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้บริษัทของเราจำเป็นต้องเร่งดำเนินการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานสู่รูปแบบดิจิทัล โจทย์ทางธุรกิจของ เดอะสตีล คือการใช้งานระบบ ERP และ ปรับใช้โซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพ ทดแทนระบบแบบเดิมของเรา เพื่อเพิ่มความคล่องตัว ตลอดจนเปลี่ยนผ่านกระบวนการทางธุรกิจที่ซับซ้อนให้กลายเป็นรูปแบบอัตโนมัติ ด้วยเหตุนี้ เราจึงตัดสินใจติดตั้งโซลูชั่น SAP S/4 HANA และ SAP Intelligent Robotic Process Automation พร้อมวางใจให้ บริษัท ราวด์ ทู โซลูชั่นส์ เป็นที่ปรึกษาและดำเนินการวางระบบ”

“นอกจากนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าผู้นำองค์กรของเราจะสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยใช้ประโยชน์จากข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่วิเคราะห์และประมวลผลด้วย SAP S/4HANA ประกอบกับการเพิ่มความสามารถในการจัดการและวางแผนใช้งานข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนการทำงานผ่านโซลูชั่นที่ล้ำสมัย จะทำให้บริษัทสามารถก้าวนำคู่แข่งได้ ขณะเดียวกัน โซลูชั่น SAP Intelligent Robotic Process Automation จะช่วยลดความซ้ำซ้อนในการทำงานโดยระบบอัตโนมัติ ทำให้พนักงานสามารถผันหน้าที่ไปทำงานด้านอื่นที่เกิดคุณค่าต่อองค์กร” นายรุจิรา กล่าวเสริม

นางสาวเวเรน่า เซียว ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการของ SAP เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “ปี 2563 เป็นปีที่ท้าทายสำหรับทุกกลุ่มธุรกิจ แนวโน้มของปีที่ผ่านมาชี้ชัดว่า ธุรกิจที่ปรับตัวอย่างรวดเร็วโดยใช้เทคโนโลยีอันชาญฉลาดนั้น จะนำมาซึ่งความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ การรักษาความสามารถด้านการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า รวมถึงการสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ด้วยระบบ ERP สำหรับองค์กรธุรกิจชุดล่าสุดของ เอสเอพี ได้แก่ โซลูชั่น SAP S/4HANA และ โซลูชั่น SAP Intelligent Robotic Process Automation จะสามารถเสริมศักยภาพให้ เดอะ สตีล จัดการกระบวนการทำงานด้วยระบบอัตโนมัติปูทางสู่การเป็น อินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ เตรียมความพร้อมสำหรับความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและก้าวนำทุกการแข่งขันทางธุรกิจ”

โครงการนี้ดำเนินการโดย บริษัท ราวด์ ทู โซลูชั่นส์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาด้านการใช้งานโซลูชั่นไอที และด้วยประสบการณ์ที่แข็งแกร่งในการให้บริการและอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการติดตั้งโซลูชั่นไอทีให้แก่ลูกค้ามากมาย จึงได้รับเลือกให้ทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินโครงการติดตั้งระบบดังกล่าว

“ทางบริษัทรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มีโอกาสติดตั้งระบบและให้คำปรึกษาด้านการใช้งานโซลูชั่น SAP เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของลูกค้า ทำให้สามารถมองภาพกว้างของธุรกิจได้แบบเรียลไทม์บนแพลตฟอร์มที่เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการตัดสินใจทางธุรกิจอย่างฉับไวและเต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบบริการที่ดีที่สุดและตั้งเป้าดำเนินการวางระบบให้เสร็จสิ้นภายใน 9 เดือน เรามีความยินดีที่ เดอะ สตีล เชื่อมั่นและไว้วางใจเลือกบริษัทของเรา เพื่อสนับสนุนเส้นทางการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานสู่ดิจิทัล”

ปัจจุบัน บริษัท เดอะสตีล จำกัด (มหาชน) ดำเนินงานโดยมีสำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ที่จังหวัด สมุทรสาคร มีโรงงานผลิต 2 แห่งและ คลังสินค้า 3 แห่ง ทั่วประเทศ บริษัทยังวางแผนขยายกำลังการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจรและเสริมความแข็งแกร่งด้านโลจิสติกส์ผ่านการใช้งานโซลูชั่น เอสเอพี

“เพื่อตอกย้ำจุดมุ่งหมายของบริษัทด้วยสโลแกน เหล็กครบ จบที่เดอะสตีล บริษัทจะไม่หยุดพัฒนาขีดความสามารถในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เหล็กที่มีคุณภาพสูงสุดให้กับลูกค้าด้วยความว่องไวและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ เราให้ความสำคัญกับการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่แข็งแกร่ง เพราะโซลูชั่นดิจิทัลเป็นรากฐานสำหรับผลักดันความก้าวหน้าในอนาคต การปรับใช้โซลูชั่น SAP จะช่วยให้เราทำงานได้เต็มศักยภาพและรองรับการขยายธุรกิจต่อไป” นายรุจิระ กล่าวปิดท้าย


 

Exit mobile version