Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เอ็นที จับมือ เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ร่วมมือให้บริการระบบสื่อสารโทรคมนาคมภายในอาคาร EnCo Terminal

พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT และ นายศิรศักดิ์ จันเทรมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด หรือ EnCo  ร่วมลงนามใน บันทึกความเข้าใจโครงการความร่วมมือเพื่อให้บริการระบบสื่อสารโทรคมนาคมและบริการอื่น ๆ ภายในอาคาร EnCo Terminal หรือ EnTer  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับอาคาร EnTer ให้กลายเป็นอาคารต้นแบบโดยการเพิ่มประสิทธิภาพระบบสื่อสารโทรคมนาคมให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของไลฟ์สไตล์การทำงานคนทำงานรุ่นใหม่ โดยพิธีลงนามดังกล่าวได้ถูกจัดขึ้น ณ ห้องประชุม 9 (Theater) ชั้น 8 อาคาร 3 บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) สำนักงานแจ้งวัฒนะ

  พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT กล่าวว่าความร่วมมือกับบริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. นั้น เกิดขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะช่วยยกระดับ และเพิ่มศักยภาพในการบริการระบบสื่อสารโทรคมนาคมและบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องภายในอาคาร EnCo Terminal หรือ EnTer ให้มีศักยภาพรองรับการใช้งานเทคโนโลยีสื่อสารแก่ลูกค้าและผู้เช่าพื้นที่สำนักงาน โดยมุ่งตอบสนองความต้องการอันเป็นการยกระดับไลฟ์สไตล์การทำงานในโลกอนาคต โดยระบบเทคโนโลยีสื่อสารที่ NT จะนำไปติดตั้งและให้บริการ อาทิ  ระบบโทรคมนาคมทางสาย IP Phone, SIP Trunk, Cloud PBX, NT Mobile (4G/5G) เป็นต้น  ยิ่งไปกว่านั้นยังจะนำบริการประเภทดิจิทัลอื่น ๆ  ไม่ว่าจะเป็นบริการกล้องวงจรปิด CCTV, บริการ E-Logistic  รวมไปถึงระบบเคเบิลใยแก้ว, ระบบท่อร้อยสาย, ระบบเสาโทรคมนาคม เพื่อเป็นเครื่องมือให้สามารถมุ่งเน้นการพัฒนา Application ต่อยอดและการให้บริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

นายศิรศักดิ์ จันเทรมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo)

กล่าวว่า EnCo เป็นบริษัทพัฒนา และบริหารจัดการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจร ซึ่งดำเนินธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจได้แก่ 1.ธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Property Management) 2.ธุรกิจบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลาง (Facility Management) และ 3.ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Property Development) และเมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา EnCo ได้เข้าดำเนินการปรับปรุงอาคารศูนย์ฝึกอบรมหลักสี่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และเปลี่ยนชื่อเป็น EnCo Terminal  หรือ EnTer เพื่อพัฒนาเป็นอาคารสำนักงานล้ำสมัยที่ตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจนวัตกรรมกลุ่ม New S-curve ทั้งด้านธุรกิจ Life science  ธุรกิจ EV หรือ Future-Tech  Startup ต่าง ๆ และในส่วนของการจับมือร่วมกับ เอ็นที (NT) ในครั้งนี้นั้น EnCo มีความมั่นใจว่า ด้วยศักยภาพ องค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญ ตลอดจนทรัพยากรด้านเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมที่ทันสมัยของ NT จะช่วยยกระดับอาคาร EnCo Terminal หรือ EnTer ให้กลายเป็นอาคารสำนักงานที่พร้อมไปด้วยนวัตกรรมสำนักงานที่ทันสมัยซึ่งจะสามารถรองรับไลฟ์สไตล์การทำงานในยุคดิจิตอลได้อย่างสมบูรณ์แบบ


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

NT – AIS ผนึกกำลังครั้งสำคัญ เสริมขีดความสามารถ 4G/5G บนคลื่น 700 MHz มุ่งยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ

ภายหลังจากที่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลผู้ให้บริการโทรคมนาคม ได้อนุญาตให้บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT สามารถโอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 700 MHz จำนวน 5 MHz  ให้กับบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AWN ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS นั้น ล่าสุด NT และ AWN ได้ลงนามสัญญาในโครงการเช่าใช้บริการอุปกรณ์โครงข่ายเพื่อให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4G/5G บนคลื่น 700 MHz และสัญญาการใช้บริการข้ามโครงข่ายโทรคมนาคมภายในประเทศ (Roaming) เพื่อเดินหน้าเสริมขีดความสามารถในการให้บริการ 4G/5G ของ NT และ AIS

โดยภายใต้สัญญาฯ ดังกล่าว AIS โดย AWN จะจัดทำโครงข่าย 4G/5G บนคลื่นความถี่ 700 MHz จำนวน 13,500 สถานีฐาน ภายในระยะเวลา 2 ปี เพื่อให้ NT ใช้ในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 4G/5G แก่ลูกค้าผู้ใช้บริการตลอดอายุใบอนุญาตใช้งานคลื่นความถี่ 700 MHz ซึ่งจะสิ้นสุดในปี 2579

นับเป็นความร่วมมือระหว่างองค์กรภาครัฐและเอกชน บนแนวคิด Infrastructure Sharing ซึ่งลดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 5G ที่ซ้ำซ้อน ในภาพรวมของประเทศ และสามารถใช้คลื่นความถี่ที่มีอย่างเต็มประสิทธิภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนไทย  รองรับการเติบโตของผู้ใช้บริการทั้งในปัจจุบันและอนาคต อีกทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพโครงข่าย 5G ของประเทศไทยให้ครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้นตามความตั้งใจของทั้งสององค์กร

พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT กล่าวว่าการทำสัญญา Network Sharing ร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง AIS ส่งผลประโยชน์หลายด้านโดย NT สามารถประหยัดงบประมาณการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องในระยะยาวบนคลื่น 700 MHz  และเป็นแนวทางที่ดำเนินการได้อย่างรวดเร็วเพื่อเพิ่มโอกาสของ NT ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5G ตามแผนธุรกิจ 5G ของ NT ที่ ครม.อนุมัติ

ทั้งนี้ โครงข่ายที่จะจัดสร้างบนคลื่น 700 MHz สามารถรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าในปัจจุบันกว่า 2 ล้านราย และรองรับการขยายตลาดในอนาคตได้ถึง 4 ล้านราย ครอบคลุมบริการสำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไปและลูกค้าหน่วยงานภาครัฐ นอกจากนี้ NT ยังมีข้อตกลงกับ AIS ในการให้บริการข้ามโครงข่ายบนโครงข่ายของ AISได้ในทุกคลื่นความถี่ อันจะส่งผลทำให้ลูกค้า NT ได้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4G/5G อย่างมีคุณภาพ ครอบคลุมทุกพื้นที่ อีกทั้งยังเสริมความแข็งแกร่งของ NT ให้มีขีดความสามารถแข่งขันในตลาดได้ สอดคล้องกับแนวนโยบายภาครัฐที่เน้นให้บูรณาการเพื่อลดความซ้ำซ้อนการลงทุนด้านโครงข่ายสื่อสารของประเทศ

ด้าน นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่าเรามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้รับโอกาสจาก NT ในการเข้าเป็นพันธมิตรร่วมทำงานยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดย AIS พร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนเป้าหมายของ NT ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีระดับสากล และ ทีมงานวิศวกรที่จะดูแลคุณภาพของโครงข่ายอย่างเต็มที่ รวมไปถึงภารกิจของ AIS เองที่มุ่งมั่นส่งมอบบริการ 5G คุณภาพให้แก่ลูกค้าจากคลื่นความถี่ทุกย่าน ตั้งแต่ 700 MHz จากความร่วมมือในครั้งนี้ที่จะทำให้มีปริมาณรวม 2×20 MHz  ที่จะสามารถขยายบริการ 5G ให้ครอบคลุมไปยังพื้นที่ห่างไกลในต่างจังหวัดและพื้นที่เมืองในเขตอาคารสูงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมผนึกพลังกับคลื่นความถี่ซึ่งได้รับการจัดสรรมาก่อนหน้านี้ ในย่าน 900 MHz, 1800 MHz,  2100 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz รวมเป็น 1460 MHz มากที่สุดในไทย ที่จะทำให้ครอบคลุมการใช้งานลูกค้าและองค์กรธุรกิจทุกรูปแบบ และต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศสู่ความเป็นเครือข่ายอัจฉริยะอย่างเป็นรูปธรรม


Exit mobile version