Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค เชื่อมั่นตลาดปี 66 เดินหน้าลงทุนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค เชื่อมั่นตลาดปี 66 เดินหน้าลงทุนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เสริมความแข็งแกร่งรักษาแชมป์ตลาดเครื่องปรับอากาศ เปิดประเดิมไลน์ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศภายในบ้านกลุ่มอินเวอร์เตอร์รุ่นใหม่ พร้อมดึงนนท์  ธนนท์ นั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์ ตั้งเป้ายอดขายเติบโตกว่า 19%

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา เปิดแผนการตลาดรับศักราชใหม่ ล่าสุดเปิดตัวผลิตภัณฑ์ด้านความเย็น กลุ่ม เครื่องปรับอากาศภายในบ้าน ตู้เย็น พัดลม ดึงจุดเด่นผลิตภัณฑ์คุณภาพ เทคโนโลยีล้ำสมัย เน้นการประหยัดพลังงาน และมอบความสะดวกสบายที่เหนือกว่า พร้อมเดินหน้ายกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการขายพลิกโฉมโชว์รูม AI Gallery ใหม่ ภายใต้แนวคิด “โซลูชันเพื่อการประหยัดพลังงาน พร้อมความสะดวกสบาย” เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ นนท์ – ธนนท์ จำเริญ และหนังโฆษณาชุดล่าสุด สะท้อนภาพลักษณ์แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพอันดับหนึ่งที่ผู้บริโภคไว้วางใจมากว่า 51 ปี

นายชินจิ คามิยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด 19 ได้ผ่อนคลายลง และประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด 19 ได้ภายใต้การใช้ชีวิตวิถีปกติใหม่ จึงคาดหวังได้ว่าสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะฟื้นตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์เงินเฟ้อภายในประเทศ รวมถึงสภาวะอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ส่งผลต่อตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า และทำให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจเครื่องปรับอากาศได้รับผลกระทบและเติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่บริษัทฯ ก็ยังคงสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งไว้ได้และได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคในฐานะ No.1 Brand ในผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศและปั๊มน้ำอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา ด้านยอดขายของบริษัทฯ ในปีงบประมาณ 2565 (เมษายน 2565 – มีนาคม 2566) คาดว่าจะเติบโตได้ที่ 10%”

สำหรับปีงบประมาณ 2566 นี้ บริษัทฯ มีแผนเพิ่มความหลากหลายของรุ่นผลิตภัณฑ์ รวมทั้งตั้งงบประมาณการตลาดและสร้างแบรนด์ไว้กว่า 1,200 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นไฮไลท์ในปีนี้ คือ เครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด Happy Inverter KX Series ด้านผลิตภัณฑ์ตู้เย็น ได้เพิ่มรุ่นในกลุ่มตู้เย็น 4 ประตู ใหม่ รุ่น 4D Smart Freeze ระบบอินเวอร์เตอร์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านความจุที่เพิ่มมากขึ้นของตลาดปัจจุบัน นอกจากนี้บริษัทฯ ได้พัฒนาศักยภาพของความพร้อมในระบบโครงสร้างพื้นฐานการจัดจำหน่าย โดยได้พลิกโฉมโชว์รูม AI Gallery ซึ่งตั้งอยู่ในที่ทำการสำนักงานใหญ่ใหม่ทั้งหมด พื่อให้เป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมสมบูรณ์ต่อการนำเสนอให้ลูกค้าและผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสถึงคุณสมบัติและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถเติมเต็มทุกความต้องการได้ ภายใต้แนวคิด “โซลูชัน เพื่อการประหยัดพลังงาน พร้อมความสะดวกสบาย” (Solutions for Energy Saving with Comfort and Convenience) ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการประหยัดพลังงาน ความสะดวกสบายในการใช้งาน ที่เหมาะสมทั้งการใช้งานภายในบ้านและการใช้งานเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ด้านการขนส่งโลจิสติกส์ และการบริการหลังการขาย บริษัทฯ ได้พัฒนางานด้านการบริการ เพื่อการขนส่งผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพไปยังลูกค้าอย่างรวดเร็ว เพื่อยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา ครบรอบ 51 ปี แห่งการประกอบการ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ ยังคงยึดมั่นตามปรัชญาในการดำเนินงานที่จะมีส่วนเสริมสร้างให้ผู้บริโภคชาวไทยได้มีคุณภาพชีวิตและสังคมที่ดีผ่านกิจกรรมองค์กรและการจัดจำหน่าย รวมถึงการให้บริการในผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และอุปกรณ์เครื่องไฟฟ้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันที่บริษัทฯ นำเสนอ รวมทั้งมุ่งมั่นมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาทางสังคมและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งจะไม่หยุดนิ่งในการนำเสนอสิ่งที่ดียิ่งขึ้น และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคชาวไทยจะสามารถใช้ชีวิตได้ด้วยความมั่นคง ปลอดภัย สะดวกสบาย ได้มากยิ่งขึ้น

นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า กว่า ปี ที่เราอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 มาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภาคธุรกิจต่าง ๆ ได้รับผลกระทบรวมถึงในกลุ่มธุรกิจตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เช่นกัน บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นในมาตรการป้องกันโควิด 19 อย่างเคร่งครัดทุกครั้งในการให้บริการหลังการขาย โดยคำนึงถึงสุขอนามัยและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ อีกทั้งปัจจุบันผู้คนใช้ชีวิตอยู่บ้านมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการด้านบริการหลังการขายมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น อาทิ การดูแลรักษาและล้างเครื่องปรับอากาศ  รวมไปถึง Express Team Service หรือบริการซ่อมด่วน เสร็จไว ภายใน 24 ชม. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งได้การตอบรับเป็นอย่างดีตลอดปีที่ผ่านมา โดยสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ตามเป้าหมายที่วางไว้กว่า 92%  นอกจากนี้ เรายังคงสานต่อในเรื่องการพัฒนาบุคลากรช่างเทคนิคให้มีทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อรักษามาตรฐานและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค โดยได้ฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติอย่างเข้มข้น รวมถึงเปิดใช้พื้นที่อาคาร AI Center ให้เป็นศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก ระดับ ซึ่งได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานมาตั้งแต่ปี 2563 เรื่อยมาถึงปัจจุบัน โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเข้ารับการอบรมหรือทดสอบได้ที่บริษัทฯ

ในปีนี้ บริษัทฯ ได้ปรับองค์กรสู่ Digital Transformation นำเทคโนโลยีเข้ามายกระดับการบริการหลังการขายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเชื่อมโยงผ่านระบบออนไลน์ และปรับการทำงานในรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในการรับบริการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในระยะยาว โดยได้ยกระดับการบริการหลังการขายให้สมบูรณ์แบบ ด้วยการพัฒนาระบบ Online Service System ต่อเนื่องจากปีที่  ผ่านมาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เน้นการเชื่อมโยงระบบบริการหลังการขายของศูนย์บริการมิตซูบิชิ อีเล็คทริค สำนักงานใหญ่ และศูนย์บริการแต่งตั้งทั่วประเทศไว้บนแพลตฟอร์มเดียวกัน เพื่อให้การติดต่อประสานงานในการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว สามารถติดตามความคืบหน้าในการให้บริการแก่ลูกค้าแต่ละรายได้แบบเรียลไทม์ทุกขั้นตอน รวมถึงเดินหน้าพัฒนาระบบ Warranty Online Register เพื่อให้ลูกค้าสามารถลงทะเบียนรับประกันสินค้าแบบเรียลไทม์ออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งการนำระบบ Online Service เข้ามาใช้ในการทำงาน จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความพึงพอใจของลูกค้าทั้งกลุ่ม B2และ B2ได้มากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดการโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเสริมความได้เปรียบทางการแข่งขัน บริษัทฯ ได้ดำเนินการพัฒนาระบบขนส่งโลจิสติกส์ ตั้งแต่การสร้างคลังสินค้าขึ้นใน 2 ภูมิภาค เพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้า โดยทางภาคเหนือที่จังหวัดลำปาง และในเขตภาคอีสานที่จังหวัดขอนแก่น พร้อมพัฒนาระบบการจัดการที่ทันสมัย เชื่อมโยงเครือข่ายจากศูนย์กลางผ่าน Online Service System เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าในสภาพสมบูรณ์และรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่จะช่วยให้ระบบการจัดจำหน่ายโดยรวมมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนได้ บริษัทฯ จะยังคงเดินหน้ายกระดับมาตรฐานการบริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ภายใต้นโยบาย รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” เราไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาเพื่อขับเคลื่อนแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ให้ประสบความสำเร็จ และอยู่ในใจของผู้บริโภคชาวไทยตลอดไป

นายชิซุโอะ นาคาสึคาสะ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า แม้ว่าตลาดรวมเครื่องปรับอากาศของไทยในปี 2565 ที่ผ่านมา มีการเติบโตน้อยลง แต่ยังเชื่อว่าแนวโน้มตลาดเครื่องปรับอากาศในปีนี้จะสามารถกลับมาคึกคักอีกครั้งจากสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว รวมถึงนโยบายส่งเสริมการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยคาดว่าจะเติบโตราว 5-10%  และในปีนี้บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ต่อยอดขยายฐานผู้บริโภคให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยชูความเป็นแบรนด์เครื่องปรับ อากาศและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านคุณภาพ ที่เน้นเทคโนโลยีล้ำสมัย ตอบรับการใช้ชีวิตยุคใหม่ ช่วยให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมสุขอนามัยที่ดีและประหยัดพลังงาน ผ่านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อรองรับทุกความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศภายในบ้านที่เน้นเสริมไลน์อัพระบบอินเวอร์เตอร์เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวในปีนี้ ได้แก่

· เครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ระบบอินเวอร์เตอร์ ใหม่ รุ่น Happy Inverter KX Series ออกแบบมาเพื่อความสบายด้วยดีไซน์ที่สะดวกต่อการล้างทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมฟังก์ชันครบครัน คุ้มค่า ในระดับราคาที่จับต้องได้ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Fast Cooling เย็นเร็วทันใจ และ V- Air Filter แผ่นกรองฝุ่นที่ออกแบบพิเศษ ช่วยจัดการอากาศภายในห้องให้สะอาด ปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ กำจัดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราได้ในระดับเซลล์ พร้อมประหยัดพลังงานด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5

· ตู้เย็นรุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบรับวิถี New Normal ด้วยการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้มากยิ่งขึ้น พร้อมประหยัดพลังงานด้วยระบบ Neuro Inverter ตู้เย็น 4 ประตู รุ่น 4D Smart Freeze เก็บของได้จุใจด้วยขนาดความจุถึง 400 ลิตร โดดเด่นด้วยฟังก์ชันช่องแช่แข็ง ลิ้นชักแยกอิสระจากกัน พร้อมเทคโนโลยีถนอมอาหารด้วยช่องแช่เย็นจัด Supercool Chilling ช่วยคงความสดของเนื้อได้นาน และ Vitamin Factory คงคุณค่าวิตามินในผักใบเขียว ประหยัดไฟเบอร์ ระดับ 2 ดาว และตู้เย็น 2 ประตู รุ่น FC Series มาพร้อมกล่องจัดระเบียบของพิเศษ Extra Box ตัวช่วยจัดระเบียบทำให้มีพื้นที่จัดเก็บสิ่งของได้มากขึ้น

·  พัดลมมิตซูบิชิ อีเล็คทริค โดดเด่นด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับพรีเมียม สีขาวและสีน้ำตาลใหม่ ผลิตจากวัสดุไม่ลุกลามไฟ รวมถึงปลั๊ก 3 ขา ช่วยป้องกันไฟดูด พร้อมระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อมอเตอร์มีอุณหภูมิสูง เพิ่มความมั่นใจปลอดภัยในทุกการใช้งาน พร้อมกล่องเหล็กครอบสวิตซ์ มั่นใจ ปลอดภัยระดับพรีเมียมประหยัดไฟเบอร์ ระดับ 3 ดาว

นอกจากผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้เปิดตัวในปีนี้ บริษัทฯ เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งทางการขายผ่านกลยุทธ์การสื่อสารและกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงเดินแผนกลยุทธ์ Sport Marketing ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนสโมสรฟุตบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (BGPU) เป็นปีที่ พร้อมสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านทั้งสื่อหลักและช่องทางออนไลน์ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในยุคดิจิทัล อาทิ Social Media, VDO Content, การใช้ Influencer และ KOL เป็นต้น  รวมทั้งมีแผนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และแคมเปญการตลาด พร้อมสนับสนุนช่องทางการขายให้กับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนสื่อสารการตลาดครบวงจร ทั้งการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ การสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุดของเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม นนท์ – ธนนท์ จำเริ ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มีภาพลักษณ์เป็นมิตร เข้าถึงง่าย และมีความสามารถโดดเด่นด้านการร้องเพลง ได้แชมป์จากรายการประกวดเดอะวอยซ์ไทยแลนด์และ The Mask Singer จนเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มคนทุกวัยโดยเฉพาะวัยรุ่น ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยสร้างการรับรู้ในวงกว้างและสร้างความจดจำให้แบรนด์ได้เป็นอย่างดี โดยภาพยนตร์โฆษณาชุด “มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ไม่หยุดทำ แค่คำว่าดี”  สื่อถึงความตั้งใจ ความมุ่งมั่นของนนท์ในการฝึกฝนร้องเพลง จนกว่าจะได้โทนการร้องที่ดีที่สุด แม้ว่าจะเป็นที่หนึ่งจากเวทีประกวดร้องเพลงมาแล้ว ก็ไม่เคยหยุดพัฒนาตนเองเพื่อการร้องเพลงให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป เช่นเดียวกับที่มิตซูบิชิ อีเล็คทริค เป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศภายในบ้านอับดับ ที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นแบรนด์อันดับ ที่บริโภคให้ความเชื่อมั่น โดยในภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ ตอกย้ำถึงดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ด้านการมุ่งมั่นว่าจะต้องทำในสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีที่สุด ไม่หยุดพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้ดียิ่งขึ้นในทุก ๆ วัน เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิต และเพื่อความสุขของผู้บริโภคทุกคน โดยจะเริ่มออกอากาศกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้

จากกลยุทธ์การตลาดต่าง ๆ เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจ และเพิ่มทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ บริษัทฯมั่นใจว่าจะช่วยสานต่อความสำเร็จในการทำตลาดของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค และผลักดันยอดขายให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ นายชิซุโอะ นาคาสึคาสะ กล่าวทิ้งท้าย


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม AW Series 3D Move-eye Kiwami พัฒนาการขั้นสุดของความเย็นและความสะดวกสบายที่มากกว่า

บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด แนะนำ เครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค AW Series 3DMove-eye Kiwami ระบบอินเวอร์เตอร์ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด 3D Move-eye Kiwami ล้ำยิ่งขึ้นด้วยเซ็นเซอร์อัจฉริยะมากถึง 32 จุด ตรวจจับอุณหภูมิ และความเคลื่อนไหวได้อย่างละเอียดแม่นยำ สามารถส่งลมเย็นได้ตรงจุดทำให้เย็นขึ้นและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และ Fast Cooling A.I. เทคโนโลยีเพื่อความเย็นสบายอย่างรู้ใจ ที่ส่งลมเย็นพร้อมกันได้ 2 ทิศทางและทำความเย็นได้อย่างรวดเร็ว พร้อมมั่นใจในคุณภาพอากาศด้วย Plasma Quad Plus ระบบฟอกอากาศภายในตัวเครื่องที่ช่วยดักจับและยับยั้งสิ่งเจือปนในอากาศขนาดเล็กด้วยประจุไฟฟ้า เช่น แบคทีเรีย เชื้อรา สารก่อภูมิแพ้ ไรฝุ่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 และสามารถยับยั้งเชื้อไวรัส ได้ถึง 99.8% มอบความสดชื่นยิ่งขึ้นด้วย V-Air Filter และ Deodorizing Filter ที่ให้อากาศภายในห้องสะอาดและช่วยกำจัดสิ่งไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเทคโนโลยีเพื่อความสบายที่สมบูรณ์แบบ Dual Barrier Material และ Dual Barrier Coating ที่ช่วยลดการเกาะติดของฝุ่นและละอองน้ำมัน ลดภาระการล้างเครื่องปรับอากาศ ลิขสิทธ์เฉพาะมิตซูบิชิ อีเล็คทริค คุ้มค่ามากขึ้นด้วยมาตรฐานประหยัดไฟเบอร์ 5 ระดับ 3 ดาว

พร้อมสัมผัสที่สุดแห่งเทคโนโลยีความเย็นของเครื่องปรับอากาศ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ใหม่ล่าสุด AW Series 3D Move-eye Kiwami และเครื่องปรับอากาศในกลุ่มอินเวอร์เตอร์รุ่นอื่น ๆ อาทิ XT Series, GT Series, JW Series และ Happy Inverter ได้แล้ววันนี้ ณ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม โทร. 02-763-7000 กด 7


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

มิตซูบิชิ อิเล็คทริค ติดตั้งลิฟต์แบบห้องโดยสารคู่และบันไดเลื่อน 278 เครื่อง ที่ วัน แบงค็อก ศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่

บริษัท มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คอร์เปอร์เรชั่น ประกาศว่า บริษัท มิตซูบิชิ เอลเลเวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ได้รับความไว้วางใจจาก วัน แบงค็อก (One Bangkok)โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 1.2 แสนล้านบาท ที่พัฒนาโดยระหว่าง บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยทำสัญญาสั่งซื้อและติดตั้งลิฟต์และบันไดเลื่อนชุดใหญ่ พร้อมติดตั้ง ลิฟต์แบบห้องโดยสารคู่ ที่จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย รวมจำนวน 278 เครื่อง เพื่อเนรมิตให้กลายเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ทันสมัยในรูปแบบเมืองอัฉริยะครบครัน ประกอบด้วย ด้วยอาคารสำนักงานเกรดเอ ศูนย์การค้าชั้นนำ โรงแรมระดับลักชัวรี่ ที่พักอาศัย รวมถึงพื้นที่สำหรับกิจกรรมทางศิลปะและวัฒนธรรมที่เชื่อมต่อทั่วถึงกันทั้งโครงการ โดยมั่นใจว่าจะสามารถดึงดูดเหล่านักธุรกิจและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ให้มาเยือนได้เป็นจำนวนมหาศาล อีกทั้งช่วยยกระดับให้ประเทศไทยโดดเด่นเป็นสง่าในเวทีโลก และเติบโตในฐานะศูนย์กลางของประเทศอาเซียนต่อไป

นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด ผู้พัฒนาโครงการ “วัน แบงค็อก” (One Bangkok) กล่าวว่า “เราให้ความสำคัญกับประสบการณ์และความพีงพอใจของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการเป็นหลัก โดยผมเชื่อมั่นว่า มิตซูบิชิ เอลเลเวเตอร์ คือผู้นำระดับโลกในด้านระบบลิฟต์และบันไดเลื่อน ซึ่งจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพันธมิตรที่มีความสำคัญอย่างยิ่งของโครงการ วัน แบงค็อก ด้วยจุดเด่นและองค์ประกอบต่าง ๆ รวมถึง สินค้าและบริการที่มีคุณภาพและการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยมและได้รับยืนยันด้วยรางวัลมาตรฐานระบบการทำงานหลากหลายรางวัล ตลอดจนชื่อเสียงที่ได้รับการยอมรับมายาวนาน ด้านเทคโนโลยีอันโดดเด่นระดับโลก และการส่งมอบผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัย แข็งแรง ทนทาน และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยศักยภาพดังกล่าวนี้ เราจึงมั่นใจว่า มิตซูบิชิ เอลเลเวเตอร์ จะมีส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้ โครงการ วัน แบงค็อก เป็นแลนด์มาร์คใหม่ที่พลิกโฉมพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง”

นายมุเนะฮิซะ โอกะโมะโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ เอลเลเวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ ได้รับความไว้วางใจจาก วัน แบงค็อก (One Bangkok) โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทำสัญญาสั่งซื้อลิฟต์และบันไดเลื่อน ชุดใหญ่ ประกอบด้วย ลิฟต์ จำนวน 250 เครื่อง บันไดเลื่อน จำนวน 28 เครื่อง ยิ่งไปกว่านั้น ยังติดตั้ง ลิฟต์ 2 ชั้นหรือลิฟต์ห้องโดยสารคู่ นวัตกรรมใหม่ที่จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย จำนวน 12 เครื่อง ถือได้ว่า เป็นคำสั่งซื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ปี 2520 ที่เปิดดำเนินกิจการในประเทศไทย โดยความไว้วางใจจาก วัน แบงค็อก ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่น ทั้งในด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การติดตั้ง การบริการ และประสบการณ์ในตลาดลิฟต์และบันไดเลื่อนมาอย่างยาวนานได้เป็นอย่างดี

สำหรับ วัน แบงค็อก เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรที่พัฒนาโดยซึ่งพัฒนาโดยบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด นับเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยภาคเอกชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย ชูมาตรฐานใหม่ทั้งด้านการออกแบบ ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และการใช้ชีวิตในสมาร์ท ซิตี้ (Smart City Living) โดยตั้งเป้าเป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการพัฒนาชุมชนแวดล้อมอย่าง LEED เป็นการสร้างอาคารที่ดีต่อสุขภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ WELL ซึ่งเป็นมาตรฐานแรกของโลกที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้อาคาร พร้อมมุ่งมั่นเป็นแลนด์มาร์คครบวงจรระดับโลกแห่งใหม่ เปี่ยมไปด้วยศักยภาพในการดึงดูดบริษัทชั้นนำ นักท่องเที่ยว และคนไทย โดยประกอบไปด้วย อาคารสำนักงานแบบพรีเมี่ยมเกรดเอ จำนวน 5 อาคาร, ศูนย์การค้าระดับชั้นนำ, โรงแรมระดับลักชัวรี่ จำนวน 5 แห่ง, คอนโดมิเนียมหรูอีก จำนวน 3 โครงการ อีกทั้ง ยังมีพื้นที่ทางวัฒนธรรม ขนาด 104 ไร่ บนถนนวิทยุและพระราม 4 ใกล้ย่านการค้า 4 ย่านหลัก เมื่อ วัน แบงค็อก พร้อมเปิดเฟสแรก ในปี 2566 จะกลายเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ทันสมัยและมีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย

บริษัท มิตซูบิชิ เอลเลเวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ดำเนินธุรกิจการจัดจำหน่าย ติดตั้งและให้บริการหลังการขายผลิตภัณฑ์ ลิฟต์ บันไดเลื่อนและทางลาดเลื่อนภายใต้ แบรนด์ “มิตซูบิชิ อิเล็คทริค” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยและเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ระดับแนวหน้าในด้านนี้ มาตั้งแต่ปี 2520 งานบริการที่มีคุณภาพและการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยมที่ได้รับยืนยันด้วยรางวัลมาตรฐานระบบการทำงานหลายรางวัล ความทุ่มเทของเราส่งผลให้เราเป็นผู้นำในธุรกิจลิฟต์และบันไดเลื่อนอย่างต่อเนื่องด้วยส่วนแบ่งการตลาดเป็นที่หนึ่งมาตลอดหลายสิบปี ปณิธานของเราคือการส่งต่อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและความปลอดภัยให้กับอาคารต่างๆ ทั่วประเทศ เราพร้อมให้บริการด้วยทีมงานวิศวกรที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญ ทั้งระบบการติดตั้งและการซ่อมบำรุง อีกทั้งยังใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานอีกด้วย
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ โทร 02-312-0707 หรือ www.MitsubishiElevtor.co.th


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค เดินหน้าส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพ เปิดตัวเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ใหม่ล่าสุด ECO EYE INVERTER XT Series

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค เดินหน้าส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพ เปิดตัวเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ใหม่ล่าสุด ECO EYE INVERTER XT Series ชูเทคโนโลยีอัจฉริยะ ECO EYE Senser มอบความสะดวกสบายเหนือระดับ พร้อมประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น สมบูรณ์แบบด้วยฟังก์ชั่นครบครัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุค New Normal

บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เดินหน้าส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพให้กับผู้บริโภค ล่าสุดเปิดตัวเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม อินเวอร์เตอร์ ซีรีย์ใหม่ ECO EYE INVERTER XT Series โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ECO EYE Senser เซ็นเซอร์อัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต พร้อมการประหยัดพลังงานได้มากยิ่งขึ้น รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุค New Normal ได้อย่างสมาร์ทลงตัว
โดย ECO EYE Senser สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวภายในห้อง เพื่อลดการใช้พลังงานเกินความจำเป็น ในกรณีที่ผู้ใช้งานไม่อยู่ในห้องเป็นระยะเวลานาน ๆ เช่น เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจพบว่าไม่มีการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งานภายในระยะเวลา 20 นาที เครื่องปรับอากาศจะปรับเป็นโหมดประหยัดพลังงานโดยอัตโนมัติ (Auto Save) และเมื่อยังตรวจพบว่ายังไม่มีการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เครื่องปรับอากาศจะปิดตัวลง (Auto Off) และจะเปิดการทำงานอัตโนมัติอีกครั้ง เมื่อพบว่ามีใครกลับเข้ามาในห้อง (Auto On) โดยไม่ต้องใช้รีโมทคอนโทรล จึงช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและประหยัดค่าไฟมากยิ่งขึ้น
XT Series ยังมาพร้อมฟังก์ชั่นครบครันเพื่อรองรับความต้องการในทุกมิติ อาทิ เทคโนโลยี Fast Cooling เพื่อความเย็นเร็วทันใจภายในปุ่มเดียว พร้อมมอบอากาศสะอาดทุกลมหายใจด้วย PM 2.5 Filter ที่สามารถกรองและตรวจจับสิ่งเจือปนอนุภาคขนาดเล็ก 2.5 ไมครอนในอากาศด้วยประจุไฟฟ้าได้มากถึง 99% และเทคโนโลยี Dual Barrier Coating ลดการเกาะติดของฝุ่น ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดภาระการล้างเครื่องปรับอากาศ รวมทั้ง Sleep Mode ที่ช่วยให้คุณนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม กลุ่มอินเวอร์เตอร์ อีกหลายไลน์อัพเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค มาพร้อมเทคโนโลยีที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีกับ Fast Cooling เย็นเร็วทันใจในปุ่มเดียว พร้อมประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ
รุ่น LN Series ดีไซน์เรียบหรู เหนือระดับด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ 3D Move-eye Human Sensor สามารถตรวจจับอุณหภูมิและการเคลื่อนไหวได้อย่างละเอียดและแม่นยำ ผสานระบบ Variable air flow & Wide air flow ที่กระจายลมเย็นได้อย่างอิสระ ส่งลมเย็นได้พร้อมๆ กัน ช่วยลดการใช้พลังงานเกินความจำเป็น พร้อมมอบความสะดวกสบายอีกขั้นด้วยเทคโนโลยี Dual Barrier Coating ลดการเกาะติดของฝุ่นและละอองน้ำมัน ลดภาระการล้างเครื่องปรับอากาศ

รุ่น GT Series เย็นเร็วทันใจด้วยเทคโนโลยี Fast Cooling พร้อม PM 2.5 Filter ที่ช่วยดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กระดับ 2.5 ไมครอน และ Sleep Mode เทคโนโลยีเพื่อการนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ ช่วยควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมภายในห้องเพื่อให้คุณหลับสบายตลอดคืน พร้อมประหยัดพลังงาน การันตีด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 (2 ดาว )
รุ่น JS Series เพิ่มความเย็นเร็วในปุ่มเดียวด้วย Fast Cooling พร้อมเทคโนโลยี Dual Barrier Coating ลดการเกาะติดของฝุ่น ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดพลังงาน พร้อมรีโมทคอนโทรล ที่แสดงผล Error Code เพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบอาการผิดปกติของเครื่องปรับอากาศได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
รุ่น KT Series สดชื่นกับความเย็นเร็วในปุ่มเดียวด้วย Fast Cooling สบายใจกับคุณภาพ ในราคาที่จับต้องได้ มีหลายขนาดให้เลือกตั้งแต่ 9,000 – 24,000 BTU


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ย้ำจุดยืนแบรนด์อันดับ 1 เปิดตัวเครื่องปรับอากาศใหม่ ECO EYE INVERTER XT Series

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ย้ำจุดยืนแบรนด์อันดับ 1 ที่ผู้บริโภคไว้วางใจ เปิดตัวเครื่องปรับอากาศใหม่ ECO EYE INVERTER XT Series ครั้งแรกกับเทคโนโลยีอัจฉริยะ “ECO EYE Sensor” เซ็นเซอร์ใหม่ที่ช่วยสร้างช่วงเวลาที่ชาญฉลาด เหนือกว่าและประหยัดพลังงานมากกว่า

50 ปี มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ยืนหยัดคู่ผู้บริโภคไทย ล่าสุดเปิดตัวเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ECO EYE INVERTER XT Series ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์อัจฉริยะ “ECO EYE Sensor” มอบความสะดวกสบายและประหยัดพลังงานมากกว่า พร้อมตู้เย็น 2 ประตู FC Series รุ่นใหม่ ระบบ Neuro Inverter ด้วยขนาดความจุที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งเดินหน้าเสริมแกร่งด้านบริการด้วยระบบไอทีเชื่อมโยงศูนย์บริการทั่วประเทศ เพื่อรองรับการบริการหลังการขายที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

นายชินจิ คามิยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ที่ผ่านมา ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคม รวมทั้งส่งผลกระทบในวงกว้างต่อทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจ และภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ทำให้การขยายตัวในธุรกิจเครื่องปรับอากาศลดลง รวมถึงส่งผลต่อผลประกอบการรวมของบริษัทฯ ในปีงบประมาณ 2563 นี้ มีแนวโน้มลดลงประมาณ 4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามเรายังสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด อันดับ 1 และแบรนด์ยอดนิยมที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจในสินค้าประเภทเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน และปั๊มน้ำได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับปี 2564 การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงต่อเนื่อง ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของผู้คนในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal ชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้ทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปีนี้ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคในยุค New Normal โดยเราได้พัฒนาเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม รุ่นใหม่ ECO EYE INVERTER XT Series ที่โดดเด่นด้วย “ECO EYE Sensor” เซ็นเซอร์อัจฉริยะ สามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในห้อง ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายไปอีกขั้นและประหยัดพลังงานได้ยิ่งขึ้น พร้อมด้วยเทคโนโลยี Fast Cooling เย็นเร็วทันใจในปุ่มเดียว และ PM2.5 Filter เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญด้านบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน ยกระดับการบริการที่รวดเร็ว เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าทั่วประเทศ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ โดยตั้งเป้ายอดขายภายในปีงบประมาณ 2564 โตขึ้นกว่า 19% จากปีที่ผ่านมา”

“นอกจากนี้ ในปี 2564 ถือเป็นปีที่ดี ที่บริษัทฯ ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 แห่งการประกอบการ เราจึงมุ่งเดินหน้าสร้างการเติบโตและสร้างยอดขายในส่วนของเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์มากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโต ในอนาคต ทั้งนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายศูนย์บริการสาขา “สำนักงานสนับสนุนลูกค้าโครงการระบบปรับอากาศซิตี้มัลติ” จากปัจจุบัน 6 สาขา เพิ่มเป็น 9 สาขา และเพิ่มสัดส่วนการขายธุรกิจ B2B จากปัจจุบัน 15% เป็น 30% ภายในปี 2568 อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์ต่าง ๆ ยังไม่แน่นอน บริษัทฯ จะยังคงมุ่งมั่นพร้อมที่จะส่งมอบความสุข ความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคเพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยในการใช้ชีวิต ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ของเราอย่างต่อเนื่องตลอดไป”

นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2563 ที่ผ่านมา เป็นอีกปีหนึ่งที่สร้างความท้าทายให้กับงานบริการหลังการขายของเราเป็นอย่างมาก สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงปัญหา รวมทั้งตระหนักถึงการสร้างความเชื่อมั่นในการเพิ่มระดับความปลอดภัยและความมั่นใจในการบริการลูกค้าทุกรายด้วยมาตรการตรวจคัดกรองทีมช่างก่อนให้บริการตามแนวปฏิบัติการป้องกันของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนเดินหน้าเพิ่มศักยภาพด้านงานบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง และในปี 2564 นี้ บริษัทฯ ได้เสริมความแข็งแกร่งด้านบริการหลังการขายให้กับลูกค้าทั่วประเทศ ด้วยการพัฒนาระบบไอที เชื่อมโยงศูนย์บริการทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าทั้งในกทม.และต่างจังหวัด ให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันได้ยกระดับศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก ระดับ 1 ที่ได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการสนับสนุน และพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานช่างเทคนิคไทยให้ก้าวไกลต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ยังได้ยกระดับการอบรม และเปิดทดสอบช่างบริการ ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้ามั่นใจในการบริการของบริษัทฯ อีกด้วย”

นายทาคาชิ ฟูจิกิ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า “จากวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา หลายภาคส่วนได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ รวมถึงตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทย และด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในยุค New Normal ผู้คนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้นเพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม ช่องทางการขายทางอีคอมเมอร์สเติบโตขึ้นมากถึง 150% รวมถึงอัตราการใช้เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ที่เพิ่มมากขึ้นในปีที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็น 73% และในปี 2564 นี้ คาดการณ์ว่าจะมากถึง 80% ซึ่งจากแนวโน้มต่าง ๆ เหล่านี้ บริษัทฯ จึงพัฒนากลยุทธ์การขาย ช่องทางการจัดจำหน่าย การสื่อสารทางการตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น โดยมุ่งผลักดันสินค้าหลัก ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และพัดลม พร้อมฟังก์ชั่นใหม่ที่ตอบโจทย์ชีวิตวิถีใหม่ของผู้บริโภคให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย และประหยัดพลังงานไปพร้อม ๆ กัน โดยล่าสุดในปี 2564 ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่

•เครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ECO EYE INVERTER XT Series โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี ECO EYE Sensor เซ็นเซอร์อัจฉริยะที่สามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในห้อง เมื่อตรวจพบว่าไม่มีการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งานภายในระยะเวลา 20 นาที เครื่องปรับอากาศจะปรับเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน(Auto Save) และหากยังตรวจพบว่าไม่มีการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เครื่องปรับอากาศจะปิดโดยอัตโนมัติ (Auto Off) แต่เมื่อผู้ใช้งานกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง เครื่องปรับอากาศจะเปิดทำงานอัตโนมัติโดยไม่จำเป็นต้องใช้รีโมทคอนโทล (Auto On) นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ อาทิ เย็นเร็วทันใจในปุ่มเดียวด้วย Fast Cooling, เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ มอบอากาศสะอาดทุกลมหายใจด้วย PM 2.5 Filter และ Dual Barrier Coating ที่ช่วยลดการเกาะติดของฝุ่นและละอองน้ำมัน ลดภาระการล้างเครื่องปรับอากาศ และฟังก์ชั่น Error Code ที่จะช่วยให้ทุกท่านสามารถเข้าถึงเหตุปัญหาเมื่อเครื่องปรับอากาศขัดข้องได้ในทันที เป็นต้น

•ตู้เย็น 2 ประตู รุ่น MR-FC35ER ขนาด 314 ลิตร เพิ่มพื้นที่การจัดเก็บได้มากขึ้น มาพร้อมช่องเก็บของอเนกประสงค์ที่ฝาประตู (Capsule door pocket) ทำให้เก็บของได้เป็นสัดส่วน ทั้งยังประหยัดพลังงานด้วยระบบ Neuro Inverter

“นอกจากนี้บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพ และสนับสนุนการขายให้กับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและโมเดิร์นเทรดให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ด้วยการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ ๆ ทั้งกลุ่มธุรกิจ B2C และ B2B มากยิ่งขึ้น สำหรับการสื่อสารทางการตลาดในปีนี้นั้น มุ่งเน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบออนไลน์มากขึ้น โดยสื่อสารผ่านช่องทาง Social Media ต่าง ๆ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ พร้อมสร้างการรับรู้แบรนด์อย่างครบวงจร นอกจากนี้บริษัทฯ ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ภายใต้แนวคิด “เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน เพื่อชีวิตวิถีใหม่” นำเสนอนวัตกรรมล้ำสมัย ECO EYE Sensor เซ็นเซอร์อัจฉริยะที่ตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในห้อง สร้างช่วงเวลาที่ชาญฉลาด เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน ลดการสิ้นเปลืองไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค สะท้อนถึงความเป็นแบรนด์พรีเมี่ยมและทันสมัย ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวผ่าน โป๊ป – ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ พาร์ทเนอร์ พรีเซ็นเตอร์ ปีที่ 7” โดยจะเริ่มออกอากาศปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมกิจกรรมส่งเสริมการขาย พร้อมแคมเปญยิ่งใหญ่ในวาระครบรอบ 50 ปี เพื่อขอบคุณผู้บริโภคที่มอบความไว้วางใจเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ามิตซูบิชิ อีเล็คทริค ทั้งนี้จากกลยุทธ์การตลาดต่าง ๆ นับว่าเป็นกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจและเพิ่มทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งจะช่วยสานต่อความสำเร็จในการทำตลาดของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค และผลักดันยอดขายให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายทาคาชิ ฟูจิกิ กล่าวทิ้งท้าย


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ปักธงยืน 1 ครองแชมป์ผู้นำเครื่องปรับอากาศอันดับ 1

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 กลุ่ม เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น พัดลม โชว์นวัตกรรมสุดล้ำ ชูจุดเด่นผลิตภัณฑ์คุณภาพ ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอากาศสะอาดด้วย PM 2.5 Filter ช่วยกรองและตรวจจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน พร้อมลุยขยายฐานลูกค้า ผุดศูนย์กระจายสินค้าจังหวัดลำปาง ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการกว่า 12 จังหวัด ทั่วภาคเหนือให้มีประสิทธิภาพรวดเร็วขึ้นเพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด เดินหน้ายกระดับบริการหลังการขายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย ตอกย้ำการรับรู้แบรนด์ด้วยภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ผ่าน โป๊ป – ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ พาร์ทเนอร์ พรีเซ็นเตอร์ ปีที่ 6 ตั้งเป้ายอดขายโตกว่า 8% หรือคิดเป็นมูลค่า 16,700 ล้านบาท

นายยาซุชิ โมริยามะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจภายใต้เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน “SDGs หรือ Sustainable Development Goals” ขององค์การสหประชาชาติ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพ รวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ควบคู่กับความปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สามารถเข้าถึงและตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจด้วยความตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมไทยให้ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจ “Changes for the Better” หรือ “การเปลี่ยนแปลง เพื่อสิ่งที่ดีกว่า”

“ในปี 2563 นี้ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์เปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) ได้ก้าวเข้าสู่วาระครบรอบ 100 ปีแห่งการประกอบการ เรายังคงมุ่งมั่นเดินหน้าประกอบธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม เสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมุ่งสู่ความสำเร็จของการสร้างความเติบโตทางธุรกิจ ให้บรรลุยอดขายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านล้านเยน รวมถึงการยกระดับภาพลักษณ์จากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าสู่แบรนด์ด้านเทคโนโลยีเพื่อชีวิตที่ดีในอนาคต”

“แม้สภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ที่ผ่านมาจะมีการชะลอตัว อันมีผลมาจากภาวะการลดต่ำลงของธุรกิจภาคส่งออกและการลดต่ำลงของอัตราการบริโภคภายในประเทศ แต่ภาพรวมของตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศในประเทศไทยยังคงมีมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท มีการขยายตัวไม่ต่ำกว่า 6 % ทั้งในกลุ่มของเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ และกลุ่มที่พักอาศัย สำหรับมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ในปีที่ผ่านมา เครื่องปรับอากาศภายในบ้านและปั๊มน้ำ ถือเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศใหม่พร้อมฟังก์ชันพิเศษ “Fast Cooling” เย็นเร็วทันใจในปุ่มเดียว และฟิลเตอร์กรองอากาศ PM 2.5 Filter ประสิทธิภาพสูงที่ช่วยกรองและตรวจจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอนด้วยประจุไฟฟ้า และจากข้อมูลสำรวจแนวโน้มการซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศเครื่องใหม่พบว่า ผู้บริโภคกว่า 50% ยังคงเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ผลประกอบการในปีงบประมาณ 2562 ของบริษัทฯ ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค.นี้ จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้กว่า 15,500 ล้านบาท ซึ่งเติบโตหรือทำได้สูงกว่ายอดขายรวมที่ทำได้ในปีก่อนหน้านี้ เพิ่มขึ้นกว่า 7%”

นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เดินหน้ายกระดับการบริการหลังการขาย รวมถึงพัฒนาช่องทางการติดต่อ ผ่าน Hot Line 1325 เพื่อสร้างมาตรฐานและประสบการณ์ระดับพรีเมี่ยมแก่ผู้บริโภค ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในปี 2563 บริษัทฯ จึงทุ่มงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาศักยภาพศูนย์บริการมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ด้วยการขยายสาขาศูนย์บริการแต่งตั้งมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ให้ครอบคลุมพื้นที่ใหม่ๆ ทั่วประเทศ รวมไปถึงศูนย์บริการสำหรับกลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์ “สำนักงานสนับสนุนลูกค้าโครงการระบบปรับอากาศซิตี้มัลติ” ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการในหัวเมืองใหญ่ๆ ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ อุดรธานี ชลบุรี และนครศรีธรรมราช และมีแผนขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้ เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงการบริการอย่างทั่วถึง และสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งขยายเวลาการให้คำปรึกษาด้านเทคนิคและปัญหาการใช้งานผลิตภัณฑ์ผ่าน Hot Line 1325 โดยเปิดให้คำปรึกษาในเวลา 08.30 -19.00 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ พร้อมเปิดให้บริการซ่อมเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน ประเภทด่วนพิเศษ “Express Team Service” ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากได้รับการแจ้งซ่อมจากลูกค้าในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยทีมช่างเทคนิคพร้อมอุปกรณ์และอะไหล่ที่ได้มาตรฐานจาก มิตซูบิชิ อีเล็คทริค พร้อมกันนี้ยังได้คิดค้นระบบ Smart Service Tool เครื่องมือพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อตรวจเช็คอาการผิดปกติของเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ระบบอินเวอร์เตอร์โดยเฉพาะ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาความผิดปกติของเครื่องปรับอากาศได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่าน Mobile Application

นอกจากนี้ เราได้การรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานให้จัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพช่างเครื่องปรับอากาศและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ระดับ 1 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ด้านเครื่องปรับอากาศ ให้มีความรู้ความสามารถและทักษะฝีมือ เพื่อลดการสูญเสีย เกิดความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดความมั่นคงในอาชีพ ส่งผลให้บริษัทฯ มีส่วนช่วยให้ความรู้ในการสร้างบุคลากรช่างเทคนิคไทยที่มีคุณภาพและบริการที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะเริ่มดำเนินการทดสอบให้กับช่างของศูนย์บริการแต่งตั้ง ช่างตัวแทนจำหน่ายและช่างอิสระ ได้ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเสริมศักยภาพพนักงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดอบรมให้ความรู้ทักษะความชำนาญเกี่ยวกับการบริการในด้านต่าง ๆ โดยเน้นการปฏิบัติงานตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายของลูกค้าไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญสู่การบริการอย่างมืออาชีพมากยิ่งขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกขั้นตอน ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ที่ผู้บริโภคชาวไทยให้ความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน

นายทาคาชิ ฟูจิกิ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า “ปัจจุบันตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน สะท้อนความต้องการของผู้บริโภคที่ “ใส่ใจ” ในทุกองค์ประกอบมากขึ้น พฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน จึงทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในตลาดมากขึ้น บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นการทำตลาดแบบ Business-to-Consumer หรือ B2C ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และพัดลมระบายอากาศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง นำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีซึ่งสอดรับกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคในปัจจุบัน สำหรับธุรกิจในแบบ Business-to-Business หรือ B2B นั้น บริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายไปยังหัวเมืองใหญ่ รวมไปถึงต่างจังหวัดตามการเจริญเติบโตของระบบสาธารณูปโภค อาทิ ร้านค้า โรงแรม และได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนขนาดใหญ่ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ระบบอินเวอร์เตอร์รุ่นใหม่ (Mr.Slim R32 INV Series) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีประหยัดพลังงานระดับสูง รวมถึงการเตรียมรับมือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในอนาคตซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คำนึงถึง และถือเป็นกลยุทธ์หลักในปีนี้ที่จะมุ่งสร้างประสบการณ์และรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ขยายฐานลูกค้า ทั่วประเทศ เปิดศูนย์กระจายสินค้า “Mitsubishi Electric Smart Hub” จังหวัดลำปาง ด้วยพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร เพื่อพัฒนาระบบขนส่งโลจิสติกส์ ครอบคลุมการให้บริการ 12 จังหวัด ในเขตภาคเหนือ โดยหวังผลให้ผู้บริโภคได้รับสินค้ารวดเร็วยิ่งขึ้นและมุ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุก ๆ ด้าน รวมถึงบริหารช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทั้งร้านค้าผู้แทนจำหน่าย โมเดิร์นเทรด ไฮเปอร์มาร์เก็ต โครงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่และยกระดับการบริการหลังการขายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย”

ในปี 2563 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าการขายรวมกว่า 16,700 ล้านบาท โดยสินค้าใหม่ 3 กลุ่ม ที่เปิดตัวในปีนี้ได้ตอกย้ำแนวคิด “Changes for the Better” มุ่งมั่นในการมอบวิถีชีวิตที่เรียบง่าย สะดวกสบายแก่ผู้บริโภคแล้ว เรายังให้ความสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่

• เครื่องปรับอากาศ อินเวอร์เตอร์ รุ่น JS Series และ รุ่น KS Series (Happy Inverter) เพิ่มความเย็นเร็วทันใจกับระบบ Fast Cooling เทคโนโลยีเพื่อความเย็นเร็วภายในปุ่มเดียว ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดีในปีที่ผ่านมา พร้อมด้วยรีโมทคอนโทรลที่สามารถแสดง Error Code เพื่อช่วยในการตรวจสอบอาการผิดปกติเบื้องต้นของเครื่องปรับอากาศได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีฟิลเตอร์กรองอากาศ PM 2.5 Filter เทคโนโลยีประสิทธิภาพสูง ช่วยกรองและตรวจจับฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน ด้วยประจุไฟฟ้า ทำให้ได้รับอากาศที่สะอาดและบริสุทธิ์ (เฉพาะรุ่น GR Series และเป็นอุปกรณ์เสริมในรุ่น JS Series, KS Series)

• เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนขนาดใหญ่ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม รุ่นใหม่ ใช้สารทำความเย็น R32 พร้อมเพิ่มขนาดใหม่ 13,000 BTU ในรุ่น PLY, PCY และ PEY Series พร้อมเทคโนโลยีประหยัดพลังงานระดับสูง

• ตู้เย็น 3 ประตู รุ่น Smart Freeze Glass Edition ระบบ Neuro Inverter สวยหรูด้วยบานกระจกนิรภัย พร้อมเทคโนโลยี Supercool Chilling เก็บรักษาความสดของอาหารโดยไม่เป็นน้ำแข็ง สะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมปรุงอาหารได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาทำละลาย ประหยัดพลังงานด้วยระบบ Neuro Inverter, ตู้เย็น 2 ประตู รุ่น FC Series ระบบ Neuro Inverter ดีไซน์ใหม่ เพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บอาหารได้มากกว่าเดิม ด้วยขนาด ความจุเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 ลิตร และ ตู้เย็น 1 ประตู รุ่น J Smart Defrost มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ พร้อมแผงควบคุมการทำงานด้านนอกตัวเครื่อง ทำให้สะดวกในการใช้งาน

• พัดลม เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยระดับพรีเมี่ยม กับปลั๊ก 3 ขาใหม่ที่มีสายดินป้องกันไฟดูดหากเกิดไฟรั่ว พร้อมกล่องเหล็กครอบสวิตซ์ ป้องกันการลุกลามไฟ มั่นใจ ปลอดภัยระดับพรีเมี่ยม

สำหรับการสื่อสารทางการตลาดในปีนี้ บริษัทฯ มุ่งเน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น เพิ่มความเข้มข้นและเข้าถึงสื่อออนไลน์ รวมถึงการใช้ BIG DATA มาวิเคราะห์ และประยุกต์ใช้กับ Digital Marketing เพื่อสื่อสารให้ตรงกับความต้องการและสอดรับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน และเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ “The Cooling Master” รวมถึงสร้างการรับรู้แบรนด์มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ผ่าน Sport Marketing ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น สำหรับแคมเปญในปีนี้ ได้หยิบยกเรื่องราวความเชื่อมั่นที่มีต่อคุณภาพของเครื่องปรับอากาศ และตู้เย็นมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ที่คนไทยให้การยอมรับและไว้วางใจ มานำเสนอเป็นภาพยนตร์โฆษณา ผ่านผู้ใช้จริงหลากหลายช่วงอายุ ที่ยืนยันว่าคุณภาพของสินค้ามิตซูบิชิ อีเล็คทริค ดีจริง ด้วยท่ายืนยันที่น่ารักประกอบกับเพลงทำนองคุ้นหู เติมเต็มทุกความต้องการด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบาย ซึ่งภาพยนตร์โฆษณาทั้ง 2 เรื่อง ถูกบอกเล่าผ่าน โป๊ป – ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ พาร์ทเนอร์พรีเซ็นเตอร์ ปีที่ 6 ที่มาร่วมการันตี และเป็นอีกหนึ่งตัวแทนผู้ใช้จริง ผ่านแนวคิดที่ว่า “ชัดเลยว่าดี การันตีเลยว่าใช่ เชื่อในสิ่งที่ใช่” ซึ่งจากกลยุทธ์การตลาดดังกล่าว นับว่าเป็นกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจและเพิ่มทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งจะช่วยสานต่อความสำเร็จในการทำตลาดของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค และผลักดันยอดขายให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมกิจกรรมส่งเสริมการขาย พร้อมโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี และเชื่อมั่นว่าจะช่วยสานต่อความสำเร็จในการทำตลาดของ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา และสามารถผลักดันยอดขายโดยรวมให้เติบโตได้กว่า 16,700 ล้านบาท” นายทาคาชิ ฟูจิกิ กล่าวทิ้งท้าย


 

Exit mobile version