ย้ายไปยังไฮบริดคลาวด์อย่างมีวัตถุประสงค์: เมื่อใช้ IBM’s Spectrum Virtualize และ Spectrum Virtualize for Public Cloud ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากสภาพแวดล้อมการดำเนินงานของสตอเรจของไอบีเอ็ม ที่มีชุดบริการข้อมูลและความสามารถในการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกันด้วยโมเดลการใช้งานที่เหมือนคลาวด์ ที่เอ็ดจ์ของดาต้าเซ็นเตอร์ ทั้งในระบบขององค์กรเอง และบนแพลตฟอร์มคลาวด์สาธารณะ นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถนำสตอเรจแบบเลกาซีดั้งเดิมจากเวนเดอร์รายอื่นมาใช้ใหม่ โดยเวอร์ชวลไลซ์หลัง SAN Volume Controller ของไอบีเอ็ม เพื่อขยายบริการข้อมูลและการดำเนินงานเดียวกันไปยังระบบไอทีที่ได้ลงทุนไว้แล้ว
รักษาประสิทธิภาพของดาต้าเซ็นเตอร์: ธุรกิจในวันนี้กำลังเผชิญกับแรงกดดันที่บีบให้ต้องออโตเมทส่วนงานต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยสภาพแวดล้อมการทำงานหนึ่งเดียวของ IBM Spectrum Virtualize ที่สตอเรจ IBM Flash System ใช้เป็นรากฐานนั้น สามารถช่วยทำให้การดำเนินงานง่ายขึ้น และทำให้การจัดการข้อมูลเป็นไปแบบอัตโนมัติ
การสนับสนุนทางเทคนิคที่ง่ายและเป็นมาตรฐาน
IBM Storage Expert Care นำเสนอบริการที่ยืดหยุ่นและปรับเป็นพิเศษสำหรับการบำรุงรักษาIBM Flash System โดยลูกค้าสามารถเลือกระดับ Basic, Advanced หรือ Premium ณ ตอนที่ซื้อ IBM Flash System 7300 หรือ 9500 ซึ่งจะช่วยลดปัญหาจากช่วงเวลาที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าและขณะเดียวกันก็ปรับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีให้เหมาะสม ช่วยให้เจ้าหน้าที่ไอทีหันไปมุ่งเน้นที่ภารกิจสำคัญอื่นๆ ได้แทน
อีกสาเหตุสำคัญที่จะทำให้ AI เข้ามามีบทบาทในงานดูแลลูกค้ามากขึ้น คือการที่ AI สามารถเข้าถึงข้อมูลที่มีความครอบคลุมได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากบริษัทและหน่วยงานภาครัฐเริ่มหันมาใช้สถาปัตยกรรม data fabric เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีมากขึ้น
5. การโฟกัสเรื่องซิเคียวริตี้อย่างต่อเนื่อง
ก่อนที่จะสามารถนำ AI เข้ามาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจได้ บริษัทและองค์กรต่างๆ จำเป็นต้องได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค การต่อสู้เพื่อแย่งชิงความไว้วางใจของผู้บริโภคจะเกิดขึ้นในหลายมิติ ตั้งแต่ความสามารถในการอธิบายที่มาของการตัดสินใจของ AI ได้ ไปจนถึงการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขาจะได้รับการปกป้องจากภัยไซเบอร์ต่างๆ ในขณะที่บริษัทและหน่วยงานภาครัฐยังคงเดินหน้าลงทุนในด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี้อย่างต่อเนื่อง AI เองก็จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการวิเคราะห์และตอบสนองต่อภัยคุกคาม ภายใต้ก้าวย่างสู่แนวทาง “zero trust” ที่จะเข้ามาช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น
# # #
*ข้อมูล 5 เทรนด์ AI ที่ต้องจับตาในปี 2565 โดยสุรฤทธิ์วูวงศ์รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มเทคโนโลยีบริษัทไอบีเอ็มประเทศไทยจำกัด
ความร่วมมือครั้งนี้จะรวมจุดแข็งของไอบีเอ็มในการให้บริการไฮบริดคลาวด์แบบเปิดที่ปลอดภัยสำหรับองค์กร เข้ากับเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วทั้งภูมิภาคของแอคคลิวิส นำสู่บริการคลาวด์แบบเปิดที่มีความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าในภูมิภาค ภายใต้การผนึกศักยภาพของ IBM Cloud Satellite เข้ากับเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมากของแอคคลิวิส
IBM Cloud Satellite ช่วยให้องค์กรสามารถใช้บริการ IBM Cloud ได้อย่างปลอดภัยไม่ว่าข้อมูลจะอยู่บนสภาพแวดล้อมแบบใด ทั้งที่เอ็ดจ์ ภายในองค์กร หรือกระจายอยู่บนคลาวด์สาธารณะหลายแห่ง โดยระบบได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการคลาวด์ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยในทุกสภาพแวดล้อม
แอคคลิวิสเป็นหนึ่งในพันธมิตรในอีโคซิสเต็มของไอบีเอ็ม ที่ช่วยลูกค้าบริหารจัดการและปรับปรุงเวิร์คโหลดให้ทันสมัยบนสภาพแวดล้อมไฮบริดคลาวด์ ตั้งแต่ระบบเมนเฟรมไปจนถึงเอดจ์ และทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Red Hat OpenShift ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคูเบอร์นิทีสระดับองค์กรที่เป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรม IBM Cloud Satellite ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถรันแอพพลิเคชันได้อย่างยืดหยุ่นในทุกสภาพแวดล้อมที่มีข้อมูลอยู่ พร้อมสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่างๆ บน IBM Cloud ได้ด้วย
ไอบีเอ็ม (NYSE: IBM) และ The Weather Company บริษัทในเครือ ซึ่งรวมถึง The Weather Channel ได้รับเลือกเป็น “ผู้ให้บริการพยากรณ์อากาศที่แม่นยำที่สุดในโลก” โดย ForecastWatch หน่วยงานชั้นนำที่ทำหน้าที่ประเมินความแม่นยำของการพยากรณ์อากาศ
ในการศึกษาล่าสุด Global and Regional Weather Forecast Accuracy Overview, 2017-2020เกี่ยวกับความแม่นยำด้านการพยากรณ์อากาศiiที่สนับสนุนโดยไอบีเอ็ม ForecastWatch ได้ยกให้ The Weather Company ของไอบีเอ็ม เป็นผู้ให้บริการพยากรณ์อากาศที่มีผลการพยากรณ์โดยรวมแม่นยำที่สุดทั่วโลก เมื่อสรุปรวมจากการเปรียบเทียบภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ทั้งหมดในช่วงเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่าระยะห่างเรื่องความแม่นยำระหว่าง The Weather Company (ซึ่งในรายงานระบุว่าเป็น The Weather Channel) และผู้ให้บริการที่ได้รับการจัดอันดับรองลงไป เพิ่มขึ้นในทุกปีที่ศึกษา
“ข้อมูลพยากรณ์จะเป็นประโยชน์ที่สุดก็ต่อเมื่อมาจากแหล่งที่ได้รับการยอมรับและเชื่อถือได้ และความถูกต้องแม่นยำของข้อมูลก็เป็นรากฐานที่เรามุ่งมั่นพัฒนาเพื่อช่วยให้ลูกค้า ผู้บริโภค และนักการตลาด สามารถทำการตัดสินใจที่สำคัญๆ ในแต่ละวันได้” เชรี่่ บัคสไตน์ ซีอีโอ The Weather Company และกรรมการผู้จัดการ IBM Watson Advertisingกล่าว “การศึกษาตอกย้ำให้เห็นความมุ่งมั่นของไอบีเอ็มในการช่วยพัฒนาวิทยาศาสตร์การพยากรณ์สภาพอากาศให้รุดหน้า โดยอาศัยนวัตกรรมเอไอ ข้อมูล คลาวด์คอมพิวติ้ง ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”
การพยากรณ์ของ The Weather Company ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยไอบีเอ็ม และเผยแพร่ผ่าน IBM Cloud ผ่านแอพ The Weather Channel และ weather.com, แอพ Weather Underground และ wunderground.com รวมถึงผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสภาพอากาศสำหรับลูกค้าองค์กรของไอบีเอ็ม
ไฮไลต์สำคัญและข้อค้นพบของรายงานที่เปรียบเทียบผู้ให้บริการพยากรณ์อากาศยังระบุว่า
• The Weather Company เป็นผู้ให้บริการพยากรณ์อากาศโดยรวมที่แม่นยำที่สุดทั่วโลก
• The Weather Company มีแนวโน้มที่จะมีความแม่นยำมากกว่าผู้ให้บริการรายอื่นที่ศึกษาถึง 3.5 เท่าi
• ระยะห่างเรื่องความแม่นยำระหว่าง The Weather Company และผู้ให้บริการอื่นๆ เพิ่มขึ้นในทุกปีที่ศึกษาiii
• The Weather Company เป็นผู้ให้บริการที่แม่นยำที่สุดเมื่อเปรียบเทียบในแต่ละภูมิภาค ทั้งสหรัฐอเมริกา แคนาดา อเมริกากลาง อเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และเอเชียแปซิฟิกiii
ที่สุดแห่งความแม่นยำที่พัฒนาขึ้นจากวิทยาศาสตร์ เอไอและเทคโนโลยี
ปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือที่สำคัญสูงสุด ที่ช่วยให้นักอุตุนิยมวิทยาทำความเข้าใจดาต้าพอยท์ของข้อมูลสภาพอากาศที่ไร้โครงสร้างนับพันล้านพอยท์จากดาวเทียม เซ็นเซอร์ภาคพื้นดิน เรดาร์ และอื่นๆ โดยอัลกอริธึมแมชชีนเลิร์นนิงขั้นสูงและพลังประมวลผลจากไอบีเอ็มช่วยให้นักอุตุนิยมวิทยาของ The Weather Company สามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อจำลองสภาพบรรยากาศและคาดการณ์พยากรณ์อากาศได้ดีขึ้น
การลงทุนและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องของไอบีเอ็มได้ช่วยให้ทีมนักอุตุนิยมวิทยาและผู้เชี่ยวชาญสามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำให้ The Weather Company เป็นผู้นำในด้านความแม่นยำโดยรวมได้ เช่น
• เอ็นจินการพยากรณ์ที่ใช้เอไอเพื่อรวมข้อมูลจากแบบจำลองการพยากรณ์เกือบ 100 โมเดลทั่วโลก โดยอาศัยปัจจัยที่มีน้ำหนักจากแต่ละแบบจำลองตามภูมิศาสตร์ เวลา ประเภทของสภาพอากาศ และความแม่นยำของการพยากรณ์ล่าสุด จากนั้นระบบจะผนวกความมีน้ำหนักจากปัจจัยเหล่านั้นเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ผลสังเคราะห์การพยากรณ์หนึ่งเดียวซึ่งให้ความแม่นยำมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้สำหรับสถานที่นั้นๆ โดยทำการพยากรณ์ได้แบบ on-demand
• ความก้าวหน้าของการพยากรณ์อากาศทั่วโลกครั้งสำคัญที่มาพร้อมกับการเปิดตัว IBM GRAF (Global High-Resolution Atmospheric Forecasting) เมื่อปี 2562 ซึ่งเป็นโมเดลจำลองสภาพอากาศทั่วโลกที่มีการอัพเดตรายชั่วโมงเป็นครั้งแรก สามารถทำนายสิ่งที่มีขนาดเล็กอย่างพายุฝนฟ้าคะนองได้
• ความเป็นผู้นำด้านเรดาร์ระดับโลกอันเป็นผลมาจากการผสานข้อมูลและเทคโนโลยีเรดาร์ตรวจสภาพอากาศเอไอระดับใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• การประเมินสภาพอากาศทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้แบบ on-demand ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ The Weather Company
• ความก้าวล้ำในการผสานเนื้อหาด้านสภาพอากาศเข้ากับการปฏิสัมพันธ์ระหว่างเอไอและนักพยากรณ์มนุษย์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีกรรมสิทธิ์ ที่ถูกเรียกว่าการพยากรณ์แบบ “human over the loop”
ความแม่นยำในการพยากรณ์ เป็นข้อมูลเชิงลึกให้ธุรกิจ ประชาชน และนักการตลาด
The Weather Company เป็นผู้ให้บริการด้านสภาพอากาศชั้นนำของโลกivที่ส่งมอบข้อมูลพยากรณ์มากกว่า 25,000 ล้านรายการไปยังอุปกรณ์มากกว่าสองพันล้านชิ้นในแต่ละวัน โดย The Weather Channel ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์ผู้บริโภคที่น่าเชื่อถือที่สุดห้าอันดับแรกในสหรัฐอเมริกาvขณะที่แอพ The Weather Channel ก็ได้รับรางวัลแอพสภาพอากาศนานาชาติประจำปี 2563 ขององค์กรอุตุนิยมวิทยาโลกในด้านความมีประโยชน์ ความน่าเชื่อถือ และคุณภาพของข้อมูลvi
ความถูกต้องของการพยากรณ์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านสภาพอากาศของไอบีเอ็มมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยไม่เพียงช่วยให้ผู้บริโภคได้รับทราบข้อมูลที่แม่นยำ แต่ยังเป็นเครื่องมือเอไอให้กับนักการตลาดผ่านช่องทาง IBM Watson Advertising และเป็นข้อมูลที่ช่วยให้ลูกค้าในทุกอุตสาหกรรมสามารถเตรียมพร้อมและรับมือสภาพอากาศต่างๆ ได้
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ The Weather Company ซึ่งเป็นธุรกิจของไอบีเอ็ม สามารถดูได้ที่ https://newsroom.ibm.com/the-weather-companyสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไอบีเอ็ม สามารถดูได้ที่ IBM.com
ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว จะมีการผนวกรวม IBM Digital Health Pass เข้ากับ Traveler ID for Safe Travel ซึ่งเป็นโซลูชันตรวจสอบข้อมูลความถูกต้องด้านสุขภาพดิจิทัลของอะมาดิอุส ทำให้สายการบินต่างๆ สามารถรวมเอกสารรับรองสุขภาพดิจิทัลต่างๆ เข้ากับระบบสำรองที่นั่งและจองที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้ และเปิดให้ผู้โดยสารของสายการบินมีทางเลือกในการสแกนหรืออัพโหลดเอกสารรับรองสุขภาพของตนได้
เมื่อผู้โดยสารผ่านกระบวนการออนไลน์เช็คอิน ระบบ Traveler ID for Safe Travel จะตรวจสอบคุณสมบัติที่ต้องมีตามกฎระเบียบของประเทศปลายทาง เมื่อถึงขั้นตอนนี้ ระบบจะเปิดให้ผู้โดยสารเลือกได้ว่าจะสร้างใบรับรองโควิด-19 แบบดิจิทัลที่มีความปลอดภัย โดยการสแกนจากเอกสารที่เป็นกระดาษ หรือจะเลือกอัพโหลดเอกสารดิจิทัลจากโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์
จากนั้น ใบรับรองโควิด-19 แบบดิจิทัลเหล่านี้จะได้รับการตรวจสอบความถูกต้องโดย IBM Digital Health Pass ที่ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสและบล็อกเชนในการรับรองความถูกต้องของใบรับรองโควิด-19 แบบดิจิทัล กับอีโคซิสเต็มของห้องแล็บ ศูนย์ฉีดวัคซีน และผู้ให้บริการด้านเฮลธ์แคร์ทั่วโลก เมื่อเรียบร้อยแล้ว สายการบินจะได้รับการแจ้งสถานะเพื่อยืนยันว่าผู้โดยสารดังกล่าวพร้อมขึ้นครื่องบินได้ โดยวิธีการที่มีความปลอดภัยนี้จะช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้โดยสาร เพราะเป็นการตรวจสอบว่าเงื่อนไขตามข้อกำหนดการเข้าประเทศนั้นๆ โดยที่สายการบิน ไอบีเอ็ม และอะมาดิอุส ไม่ได้จัดเก็บข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลใดๆ
“ในวันที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ข้อกำหนดการเข้าประเทศก็ยังคงแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ ยังไม่นับความจำเป็นในการตรวจสอบเอกสารด้านสุขภาพที่เกี่ยวกับโควิด-19 ที่ทำให้เกิดความล่าช้าระหว่างการเดินทาง ทั้งต่อสายการบินและผู้ให้บริการอื่นๆ” นายเกร็ก แลนด์Travel and Transportation Industry Lead ของไอบีเอ็ม กล่าว “การผนวกรวมระบบ IBM Digital Health Pass เข้ากับระบบ Traveler ID for Safe Travel ของอะมาดิอุส ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สายการบินสามารถเพิ่มเทคโนโลยีแบบเปิดเหล่านี้เข้ากับโซลูชันดิจิทัลที่มีอยู่แล้วได้ ซึ่งจะช่วยให้ระบบความปลอดภัยของสายการบินเป็นไปตามข้อกำหนดการเข้าประเทศต่างๆ ขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้โดยสารได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นไม่มีสะดุดด้วย”