“อนาคตทางดิจิทัลอยู่ใกล้แค่เอื้อม ทำให้เราต้องสร้างบุคลากรด้านดิจิทัลเป็นอย่างมากที่หัวเว่ย เราเชื่อมั่นว่า เมล็ดพันธุ์สามารถที่จะเติบโตเป็นไม้ใหญ่ เป็นดอกไม้ที่สวยงาม และเป็นอนาคตที่สดใสได้ด้วยโครงการดิจิทัลมากมาย เราจะช่วยลดช่องว่างระหว่างความรู้ในตำราและทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานจริงและการก้าวสู่การเป็นประเทศไทย 4.0 เราภูมิใจที่รู้ว่าโครงการ Seeds for The Future ของหัวเว่ยนั้น ริเริ่มขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2551 และเราจะมุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรด้านไอซีทีต่อไป และขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมไอซีทีของไทยต่อไปภายใต้พันธกิจ ‘Grow in Thailand, Contribute to Thailand’” นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร หัวเว่ย ประเทศไทย กล่าวในระหว่างพิธีเปิดงาน
หัวเว่ยริเริ่มโครงการพัฒนาบุคลากรต่าง ๆ มากมายอย่างเช่น Seeds for the Future เพื่อส่งเสริมทักษะและศักยภาพของเยาวชน เดินหน้าลดช่องว่างระหว่างความรู้ในห้องเรียนและทักษะที่จำเป็นในการทำงานจริง หัวเว่ยเดินหน้าจับมือกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อร่วมขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน
หัวเว่ยได้เปิดตัวหลักสูตร Mobile App Development Foundation ระหว่างงาน Huawei Developer Day (HDD) 2564 ที่จัดขึ้นในหัวข้อ “อนาคตของแรงงานดิจิทัลในประเทศไทย (Future of Thailand Digital Workforce)” โดยงาน HDD ในปีนี้จะมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาแอปพลิเคชันและระบบนิเวศของแอป โดย Huawei Developer Day (HDD) เป็นเวทีระดับโลกที่หัวเว่ยใช้นำเสนอนวัตกรรมและบริการล่าสุดแก่ นักพัฒนา พร้อมบอกเล่าเทรนด์ล่าสุดในโลกไอที ซึ่งงานในปีนี้ หัวเว่ยได้ประกาศถึงอัปเดตสำคัญของระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2.0, Huawei Mobile Services (HMS) 6.0 รวมถึงข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับระบบนิเวศของแอปและเครื่องมือที่มีประโยชน์มากมายที่หัวเว่ยสร้างขึ้นเพื่อช่วยเหลือชุมชนนักพัฒนาแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และด้วยนวัตกรรมและการทำงานร่วมกันกับพาร์ทเนอร์อย่างต่อเนื่อง HMS ได้กลายเป็นระบบนิเวศแอปพลิเคชันมือถือที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกด้วยเครือข่ายนักพัฒนากว่า 2.3 ล้านคน HMS ยังได้ปลดล็อกความสามารถด้านการพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของหัวเว่ย และช่วยให้นักพัฒนาทั่วโลกได้คิดค้นนวัตกรรมที่ก้าวล้ำอีกด้วย