Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

สแกนเนีย 2022 มุ่งมั่นขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงสู่ระบบการขนส่งที่ยั่งยืน

นายโจฮัน คลาสัน ผู้อำนวยการฝ่ายขาย และการตลาด และหัวหน้างานด้านความยั่งยืน บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2565 สแกนเนียยังคงมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงระบบการขนส่งที่ยั่งยืน พร้อมกับการขับเคลื่อนผลกำไรให้กับลูกค้าของเราด้วย โดยภายในปี 2564 ที่ผ่านมา สแกนเนียเป็นบริษัทผู้ผลิตรถบรรทุกและรถโดยสารเพียงรายเดียวที่เข้าร่วมรับรองในบันทึกความเข้าใจระดับโลกที่ร่วมกันให้คำมั่นสัญญาที่จะทำให้ยานยนต์ในประเทศของตนปลอดมลภาวะภายในปี 2583 เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นและความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมรถเพื่อการพาณิชย์

นอกจากนี้ สแกนเนีย ได้เตรียมผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองทั้งการสร้างระบบการขนส่งที่ยั่งยืนพร้อมสร้างผลกำไรให้ลูกค้าไปพร้อมกัน ด้วยการนำหลักการขนส่งที่ยั่งยืน 3 ประการ ได้แก่

1. ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (Fuel Efficiencyซึ่งหมายถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเชื้อเพลิง ช่วยทำให้ใช้พลังงานน้ำมันสำหรับการเผาไหม้น้อยลง ปล่อยมลพิษน้อยลง และแน่นอนว่าต้นทุนขนส่งก็ลดลงไปด้วย เป็นการช่วยเพิ่มผลกำไรให้ธุรกิจไปพร้อมกัน

2. เชื้อเพลิงทางเลือกและพลังงานไฟฟ้า (Alternative Fuels and Electrificationสแกนเนียส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล โดยไม่จำเป็นต้องทำการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ และสร้างผลลัพธ์ที่ดีในการลดการปล่อยคาร์บอนโดยตรง และการนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในภาคธุรกิจการขนส่ง

3.การขนส่งที่ชาญฉลาดและปลอดภัย (Smart and Safe Transport ) ปัจจุบันรถสแกนเนียมีการติดตั้งระบบที่จะช่วยดูแล แจ้งสถานะการทำงาน และตำแหน่งของรถได้แบบเรียลไทม์  เพื่อประเมินช่วงเวลาในการบำรุงรักษารวมทั้งแจ้งเตือนความผิดปกติของรถก่อนที่ขัดข้อง ทำให้ลูกค้าวางแผนการทำงานได้ดียิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดเหตุขัดข้องระหว่างการทำงาน ซึ่งส่งผลให้มีผลกำไรสูงขึ้นและมีปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์น้อยลง

นายโจฮัน กล่าวว่า “ พลังงานไฟฟ้า และ eMobility จะเป็นส่วนหนึ่งในอนาคตอย่างแน่นอน สแกนเนียให้ความสำคัญในการลงทุนและเปลี่ยนแปลงสู่เทคโนโลยีใหม่ โดยในปีที่ผ่านมา เรามีการเปิดตัวรถทั้งไฮบริด และปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสู่การผลิตรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ และถือเป็นแบรนด์แรกของรถบรรทุก โดยสแกนเนียได้ทดสอบเปรียบเทียบรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่กับรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์สันดาปเพื่อดูถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มีผลดีต่อโลกมากกว่า นอกจากนั้นเรายังได้ส่งมอบรถบรรทุกไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ กับลูกค้า เช่น  SCA, Jula Logistics และ Wibax สิ่งนี้แสดงให้ทั้งลูกค้า และเราเห็นว่ารถบรรทุกไฟฟ้าสามารถขนส่งทางไกล และขนส่งของที่หนักมาก เช่น ไม้ซุง ได้เช่นกัน สำหรับรถบรรทุกไฟฟ้าในประเทศไทยยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น ซึ่งต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกับข้อกำหนดเบื้องต้นของตลาด ความต้องการของลูกค้า ตลอดจนรูปแบบธุรกิจเสียก่อน ”

“ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าปี 2565 จะเป็นอีกปีที่ท้าทาย แม้ว่าเราเชื่อว่าจะมีการฟื้นตัวในตลาด แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก เรามุ่งเน้นที่จะสนับสนุนลูกค้าของเราให้มีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและร่วมกันกำหนดทิศทางสำหรับอนาคต ด้วยโซลูชั่นที่ขับเคลื่อนผลกำไรของลูกค้าของเราอย่างแท้จริง ทั้งความสามารถในการปรับแต่งข้อเสนอผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้า รวมถึงบริการที่เป็นเลิศ เช่น การเงิน สัญญาบริการ และการฝึกอบรมผู้ขับขี่ เราสร้างทางเลือกที่ง่ายสำหรับลูกค้า และทำให้ลูกค้าเข้าใจว่าเราสามารถสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจของพวกเขาได้อย่างไร  โดยเป้าหมายของเราในปี 2565 คือรักษาความเป็นผู้นำ และสร้างความแข่งแกร่ง ด้วยการทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อปรับปรุงและพัฒนา Solution Sales ของเราให้ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ”นายโจฮัน กล่าวทิ้งท้าย


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ครบรอบ 35 ปี สแกนเนียส่งมอบรถรุ่นพิเศษ “Yak Edition”

เมื่อเร็วๆ นี้ เนื่องในโอกาสครบรอบ  35 ปี สแกนเนีย สยาม ก้าวสู่การบริการเพื่อลูกค้าอย่างยั่งยืน บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด ได้ทำการส่งมอบรถรุ่นพิเศษที่มีชื่อว่า Yak Edition ซึ่งเป็นความลงตัวจากการผสมผสานงานศิลปวัฒนธรรมไทย กับสุดยอดงานวิศวกรรมของสแกนเนีย ให้กับห้างหุ้นส่วนจำกัดสักทอง ทรานสปอร์ต โดยมีนายสมเอก น้อยสมมิตร กรรมการผู้จัดการ หจก.สักทอง ทรานสปอร์ต เป็นผู้รับมอบ

สำหรับรถรุ่น Yak Edition หรือ R410A6x2NA  เป็นหัวเก๋งขนาดใหญ่ (R-series) ที่มีเครื่องยนต์ขุมกำลังขนาด 410 แรงม้า ขับเคลื่อน 6×2 เกียร์ออพติครูส ระบบช่วงล่างถุงลมหน้าหลังให้สัมผัสนุ่มสบายแต่มั่นใจ มาพร้อมระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม กับถุงลมนิรภัยผู้ขับขี่ ดิสก์เบรกพร้อมเบรกเสริม สำหรับทางลาดชันรีทาร์เดอร์ ระบบรักษาเสถียรภาพ (ESP) เบรกอัตโนมัติ (AEB) ระบบเตือนออกนอกเลน (LDW) และพิเศษสุดกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันตามความเร็วคันหน้า (ACC) เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ ความปลอดภัย และเทคโนโลยีอัจฉริยะนี้ ยังทำให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นด้วย มั่นใจได้กับทุกงานในการขนส่ง และเมื่อสั่งจองรถรุ่นพิเศษ Yak Edition รับเงื่อนไขสุดพิเศษที่สอดคล้องไปกับเลข 35 ปี สแกนเนียในประเทศไทย โดยฟรีค่าซ่อม 3 ปีและฟรีค่าบำรุงรักษา 5 ปีลูกค้ามั่นใจได้ในการใช้รถขับเคลื่อนธุรกิจ สร้างงาน สร้างกำไร สร้างชื่อเสียงได้อย่างคุ้มค่าแน่นอน


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เปิดตัวครบรอบ 35 ปี สแกนเนีย เปิดตัวรถรุ่นพิเศษ “Yak Edition”

ร่วมฉลอง​ 35 ปี สแกนเนีย​ สยาม​บริษัทแห่งการมุ่งมั่นพัฒนาการขนส่งที่ยั่งยืนในวันนี้ สู่อนาคตธุรกิจที่เหนือกว่า (Sustainable Transport – Now and Beyond) พร้อมเปิดตัวรถรุ่นพิเศษ “Yak Edition” ฉลองความสำเร็จระยะยาวคู่คนไทย แถมข้อเสนอสุดพิเศษหลังการขาย

นายอรรถพล ชูศรี ผู้จัดการฝ่ายสื่อสาร และการตลาด บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด​ เปิดเผยว่า​บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด​ผู้นำการขนส่งระดับโลกจากสวีเดนได้อยู่เคียงข้างการขนส่งในประเทศไทยมาครบ 35 ปี พัฒนางานบริการคู่ลูกค้าคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังลงทุนขยายสาขาและงานบริการที่ครอบคลุมมากขึ้น ด้วยความตั้งใจที่จะตอบโจทย์ลูกค้าชาวไทยได้ดียิ่งขึ้นในระยะยาวต่อไป และเนื่องในโอกาสฉลองการดำเนินงานในประเทศไทยครบรอบ 35 ปี สแกนเนีย สยาม จึงได้นำเสนอรถรุ่นพิเศษที่เหนือกว่าทั้งเรื่องสมรรถนะและภาพลักษณ์ กับรถรุ่นพิเศษที่มีชื่อว่า Yak Edition ซึ่งเป็นความลงตัวจากการผสมผสานงานศิลปวัฒนธรรมไทย กับสุดยอดงานวิศวกรรมของสแกนเนี

“รถรุ่นพิเศษ Yak Edition นี้จะแสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงประสิทธิภาพของสแกนเนียที่สามารถไปได้เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็นงานดีไซน์ ด้วยหัวเก๋งขนาดใหญ่ มาพร้อมกับสีมุกเงินอาร์คติก ตกแต่งลวดลายยักษ์ไทยสีทองที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ มีอำนาจและทรงพลัง และสีทองยังหมายถึงการเฉลิมฉลอง ความมั่งคั่ง เงินทอง อีกทั้งยักษ์ไทยถือเป็นเอกลักษณ์เป็นที่รู้จักทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เห็นได้จากสนามบินสุวรรณภูมิที่มียักษ์ไทยยืนประดับเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมไทย และยังเห็นได้ในวัดไทยหลาย ๆ แห่ง จึงแสดงถึงชื่อเสียงที่โด่งดังระดับชาติ และแน่นอนว่ายังคงความยอดเยี่ยมในเรื่องการประหยัดน้ำมัน พร้อมกับประสิทธิภาพการขนส่งที่สุดยอด ขับเคลื่อนผลกำไรธุรกิจให้ลูกค้าคนไทยได้อย่างมีคุณภาพ”

ด้านนายณรงค์ฤทธิ์ อิทธิสารรณชัย ผู้จัดการฝ่ายสนับสนุนการขาย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัดกล่าวถึงรายละเอียดของรถรุ่น Yak Edition หรือ R410A6x2NA ว่า เป็นหัวเก๋งขนาดใหญ่ (R-series) ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ขุมกำลัง 410 แรงม้า ขับเคลื่อน 6×2 เกียร์ออพติครูส ระบบช่วงล่างถุงลมให้สัมผัสนุ่มสบายแต่มั่นใจ มาพร้อมระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม กับถุงลมนิรภัยผู้ขับขี่ ดิสก์เบรกพร้อมเบรกเสริม สำหรับทางลาดชันรีทาร์เดอร์ ระบบรักษาเสถียรภาพ (ESP) เบรกอัตโนมัติ (AEB) ระบบเตือนออกนอกเลน (LDW) มอบความปลอดภัยที่เหนือกว่าใครให้ทั้งผู้ขับขี่ เพื่อนร่วมทางบนท้องถนน และสินค้ามูลค่าสูงที่ขนส่ง พิเศษสุดกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันตามความเร็วคันหน้า (ACC) ที่มอบทั้งความสะดวกสบายในการขับขี่ ความปลอดภัย และเทคโนโลยีอัจฉริยะนี้ ยังทำให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นด้วย มั่นใจได้กับทุกงานในการขนส่ง

นอกจากนั้นยังยกระดับความเป็นอยู่ในห้องโดยสารด้วยเบาะที่นั่งคู่หน้าหุ้มหนังคุณภาพดี พร้อมลายนูนโลโก้สแกนเนีย วิทยุจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ หน้าปัดเรือนไมล์แสดงผลขนาดใหญ่ขึ้น พวงมาลัย D-shape หุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชั่น แถมยังเสริมความสะดวกสบายเอาใจนักขับคนไทยด้วยม่านบังแดด ช่องเก็บของขนาดใหญ่ เตียงนอนขนาด 800 มิลลิเมตร ช่องบนหลังคาปรับไฟฟ้า และช่องแช่เย็นอเนกประสงค์ที่ให้ความเย็นเทียบเท่าตู้เย็น ทั้งหมดถูกจัดวางและสร้างในตำแหน่งตามหลักสรีรวิทยา จึงทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสะดวกสบายตลอดทาง

นอกจากเรื่องสมรรถนะของรถรุ่นพิเศษ Yak Edition ที่เหนือกว่าแล้ว ยังคุ้มค่ายิ่งขึ้นเมื่อสั่งจองรถรุ่นพิเศษ Yak Edition รับเงื่อนไขสุดพิเศษที่สอดคล้องไปกับเลข 35 ปี สแกนเนียในประเทศไทย โดยฟรีค่าซ่อม 3 ปี* และฟรีค่าบำรุงรักษา 5 ปี* ลูกค้ามั่นใจได้ในการใช้รถขับเคลื่อนธุรกิจ สร้างงาน สร้างกำไร สร้างชื่อเสียงได้อย่างคุ้มค่าแน่นอน”  นายอรรถพล ชูศรี กล่าวทิ้งท้าย

 

สนใจติดต่อตัวแทนจำหน่ายใกล้ท่านและสอบถามข้อมูลรถเพิ่มเติมที่  

www.scania.com/th/th/home/products-and-services/trucks/trucks_showroom.html  

หมายเหตุ ปี หรือ 360,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน

หมายเหตุ 5 ปี หรือ 600,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

สแกนเนีย เปิดศูนย์บริการสระบุรี ใหม่ รองรับการเติบโตธุรกิจระยะยาว

สแกนเนีย สยาม ครบรอบ 35 ปี มุ่งมั่นพัฒนาการขนส่งที่ยั่งยืนในวันนี้ สู่อนาคตธุรกิจที่เหนือกว่า เปิดศูนย์บริการสระบุรีใหม่อย่างเป็นทางการ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้า พร้อมจัดโปรโมชันต้อนรับมากมาย อาทิของที่ระลึก เปิดให้บริการรอบกลางคืนเมื่อโทรจอง ส่วนลดค่าแรง 15% ตรวจเช็คฟรี 11 รายการ ใช้บริการครบ 30,000 บาทขึ้นไป รับบัตรกำนัล 500 บาท รวมถึงล้างแอร์ และตั้งศูนย์ถ่วงล้อฟรี

นายสถิตย์ ริยะตานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการหลังการขาย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 35 ปี บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด พร้อมให้บริการลูกค้าคนไทยระยะยาวอย่างยั่งยืน ด้วยการเปิดศูนย์บริการสระบุรีแห่งใหม่ ที่มีศักยภาพให้บริการได้มากขึ้น มีมาตรฐานเดียวกันกับสแกนเนียทั่วโลก บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ มีช่องซ่อมจำนวน 6 ช่อง รวมทั้งมีเครื่องมือพิเศษ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถให้บริการได้รวดเร็วขึ้น

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ในส่วนของออฟฟิศ และห้องพักสำหรับรับรองลูกค้า ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 30 กว่าล้านบาท โดยการเปิดศูนย์บริการแห่งนี้ทางบริษัทมองถึงลูกค้าเป็นหลัก เนื่องจากจำนวนรถของลูกค้าในพื้นที่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วมีราว 100 คัน แต่ปัจจุบัน พื้นที่สระบุรีมีลูกค้าผ่านเข้าใช้บริการรวมกว่า 1,000 คัน ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เป็น Captive Dealer ถือเป็นสาขาที่สแกนเนียลงทุน และบริหารจัดการทั้งหมดด้วยตัวเอง แม้ช่วงนี้เป็นช่วงของการระบาดโควิด-19 การลงทุนบางอย่างเป็นไปได้ยาก แต่ทางสแกนเนียสำนักงานใหญ่ เห็นถึงความจำเป็นอยากให้ลูกค้าได้ประโยชน์ และต้องการดูแลลูกค้าแบบพรีเมียม รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในประเทศไทยด้วยการลงทุนต่อเนื่องในระยะยาว

“ศูนย์บริการสระบุรีของสแกนเนีย จะเป็นประตูไปสู่ภาคอีสาน และเชื่อมต่อกับภาคกลาง เราเน้นนโยบายสร้างศูนย์ใหม่ขึ้นมาเพื่อซัพพอร์ตลูกค้า และดูแลคนขับเป็นอย่างดีด้วยห้องพักที่ได้มาตราฐาน และมองว่าในโซนสระบุรีจะมีกลุ่มผู้ประกอบการด้านการขนส่ง (โลจิสติกส์) เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่วังน้อยที่จะมีศูนย์กระจายสินค้า อาทิ DHL, TESCO หรือโรงปูน SCG รวมถึงกลุ่มธุรกิจของผู้ประกอบการต่างๆ มากมาย ยังไม่รวมรถบรรทุกทางผ่านตลอดเวลา” นายสถิตย์ กล่าว

นายสถิตย์ กล่าวต่อว่า เนื่องในโอกาสเปิดศูนย์บริการแห่งใหม่ในเดือนมิถุนายนนี้ ทางศูนย์จะมีของที่ระลึกแจก เปิดให้บริการรอบดึกเมื่อลูกค้านัดหมายล่วงหน้าก่อน 15.00 น. ส่วนลดค่าแรง 15% ตรวจเช็คฟรี 11 รายการ และหากใช้บริการกับทางศูนย์บริการครบ 30,000 บาทขึ้นไป รับบัตรกำนัล ราคา 500 บาท สามารถนำมาใช้ได้ในครั้งถัดไป และในช่วงที่อากาศร้อนแบบนี้ก็ยังมีบริการล้างแอร์ฟรี รวมถึงตั้งศูนย์ถ่วงล้อฟรีอีกด้วย ในส่วนของสัญญาบริการ หากลูกค้าตัดสินใจซื้อภายในเดือนนี้จะมีบัตรกำนัลให้ในราคา 6,000 บาทต่อคัน โดยสามารถนำมาใช้ได้ในครั้งถัดไป

นายสถิตย์ กล่าวย้ำว่า “ทุกศูนย์บริการสแกนเนียในประเทศไทย เป็นมาตรฐานเดียวกับสแกนเนียทั่วโลก ลูกค้าจึงมั่นใจเข้าใช้บริการได้ในทุกสาขา สแกนเนียมีระบบนัดหมายที่ทำให้ทีมงานรู้ถึงกำหนดการซ่อมบำรุงของรถแต่ละคัน และมีการติดตามนัดหมายลูกค้าให้เข้าบำรุงรักษารถอย่างเหมาะสม รถจะสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่จอดเสียกลางทาง ธุรกิจก็จะเติบโตขึ้น ถ้าหากมองครึ่งปีหลัง ในปี 2564 ของศูนย์บริการสระบุรี น่าจะโตกว่าครึ่งปีแรก10 – 20% แต่ถ้ามองภาพรวมของศูนย์บริการ

ทั่วประเทศจะโตกว่าครึ่งปีแรกประมาณ 5 – 8% เนื่องจากปัญหาของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นช่วงปี 2020 ทำให้ผู้ประกอบการสามารถรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ได้ในระดับหนึ่งแล้ว ทำให้ครึ่งปีหลังทุกอย่างจึงมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว”


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

สแกนเนีย สยาม พัฒนา เร่งฟื้นตลาดรถบรรทุก – รถบัส ปี 2021

สแกนเนีย สยาม ผู้ผลิตรถบรรทุกและรถบัสสำหรับงานหนักระดับพรีเมียมวางเป้าหมายปี 2564 เป็นปีแห่งการฟื้นตัวและพัฒนาศักยภาพ ช่วยผู้ประกอบการในประเทศไทยต่อสู้สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้น

นางสตีน่า เฟเกอร์แมน กรรมการผู้จัดการบริษัทสแกนเนีย สยาม จำกัด เปิดเผยว่า สแกนเนียยังคงวางแผนลงทุนในการเพิ่มศักยภาพทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์และงานบริการอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทยในปี 2564 จะเป็นปีแห่งการพัฒนาเพื่อช่วยให้ลูกค้าฟื้นตัวได้เร็วที่สุดจากสถานการณ์ยากลำบากหลังจากการระบาดของโควิด -19 อย่างไรก็ตาม ในปี 2563 ที่ผ่านมา สแกนเนียมีส่วนแบ่งการตลาดประเภทรถบรรทุกในประเทศไทยประมาณร้อยละ 2.5 และส่วนแบ่งตลาดรถบัสโดยสารในประเทศไทยถึงประมาณร้อยละ 20 ซึ่งตัวเลขทั้งสองตลาดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตโดยมียอดขายรถบรรทุกสแกนเนียที่จดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก 297 คัน และรถบัส 96 คัน ทำให้เห็นว่าสแกนเนียได้ทำตลาดให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยสแกนเนียเน้นตอบโจทย์การขนส่งทุกรูปแบบให้กับลูกค้ารถบรรทุก และยังรักษาความเป็นพันธมิตรธุรกิจเคียงข้างลูกค้ารถโดยสาร เพื่อที่จะรักษายอดขายและได้ขยายส่วนแบ่งการตลาดและเป็นแบรนด์อันดับ 1 ของยอดขายในประเทศไทยต่อไปอย่างต่อเนื่อง

นางสตีน่ากล่าวว่า สำหรับงานด้านบริการ สแกนเนียพร้อมกับการเปิดศูนย์บริการแห่งใหม่ที่จังหวัดสระบุรีที่จะเปิดให้บริการในไตรมาสที่2 ของปีนี้ ซึ่งศูนย์บริการแห่งนี้เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีลูกค้านิยมใช้บริการเป็นจำนวนมากซึ่งห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 100 กิโลเมตรเท่านั้น ด้วยสระบุรีเป็นเหมือนประตูสู่ภาคอีสาน และธุรกิจขนส่งของลูกค้าเรามากมายผ่านเส้นทางนี้ ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะลงทุนเพิ่ม โดยสแกนเนียเป็นผู้บริหารจัดการด้วยตัวเราเอง (Captive Dealer) เพื่อมอบบริการที่ดีขึ้นให้กับกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการอยู่ปัจจุบัน และเรายังมองศูนย์ฯ สระบุรีใหม่นี้ให้สามารถรองรับการเติบโตในอนาคตได้อีกด้วย” นอกจากนั้น สแกนเนียยังมองการขยายให้สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาล กับโครงสร้างพื้นฐานมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-นครราชสีมา คาดการณ์ว่าหลังวิกฤตโควิด จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“การระบาดของโรคไวรัสโคโรน่าได้ส่งกระทบกับทุกคนในทุกอุตสาหกรรมอย่างหนัก แม้แต่สแกนเนียสยามก็ไม่มีข้อยกเว้นโดยบริษัทฯได้หยุดดำเนินการผลิตที่โรงงานประกอบรถบรรทุกในเขตชานเมืองฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ เมื่อปีที่แล้วและปรับกลยุทธ์ใหม่และเริ่มนำเข้ารถบรรทุก ส่งตรงจากระบบการผลิตในสวีเดน ก่อนที่จะนำเข้ามาในประเทศไทย ด้วยระบบการผลิตทั่วโลกของสแกนเนีย ทำให้มั่นใจได้ว่ารถของเราจะมีคุณภาพเหมือนกัน ไม่ว่าเราจะสร้างมาจากที่ไหนก็ตาม”นางสตีน่ากล่าวและว่าที่สำคัญที่สุดคือรถที่ผลิตในสวีเดน จะมีราคาจำหน่ายเทียบเท่ากับการผลิตในประเทศไทย ไม่กระทบต่อการให้บริการลูกค้าแต่อย่างใด
ทั้งนี้สแกนเนีย สยามก่อตั้งในปี 1986 และครบรอบ 35 ปีในการทำตลาดในประเทศไทยในปีนี้สแกนเนียสยามยังคงวางแผนที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีความมุ่งมั่นในระยะยาวต่อตลาดในประเทศไทย พร้อมมุ่งมั่นพัฒนางานบริการให้ดีขึ้น ให้รถลูกค้าพร้อมใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพิ่มผลกำไรธุรกิจขนส่ง ขับเคลื่อนสู่ระบบขนส่งที่ยั่งยืน “เพราะธุรกิจคุณ สำคัญที่สุด”

นางสตีน่า กล่าวต่อว่า ลูกค้าของสแกนเนีย ทุกรายจะได้รับข้อเสนอสเปครถ และงานบริการหลังการขายที่เหมาะกับธุรกิจของลูกค้า ทำให้ไม่ต้องกังวลกับปัญหาค่าซ่อมที่ไม่คาดคิด และให้รถของลูกค้ารับงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสแกนเนียยังได้ปรับงานบริการให้โดนใจลูกค้ามากขึ้นโดยการขยายเวลาเปิดศูนย์บริการถึง 22.00 น. (4 ทุ่ม) เพื่อรองรับการใช้บริการหลังเวลาปกติ (จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 17.00 น.)โดยเริ่มต้นจากที่ศูนย์บริการสาขาบางนา กม.19 (สำนักงานใหญ่) เป็นแห่งแรก ทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสทางธุรกิจ และทางเลือกที่มากขึ้น นอกจากนี้ สแกนเนียยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ที่พร้อมให้คำปรึกษา หรือออกให้บริการซ่อมนอกสถานที่ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน

ในปี 2564 สแกนเนียสยาม ยังคงทำงานร่วมกับลูกค้าในการร่วมเปลี่ยนแปลงสู่ระบบการขนส่งที่ยั่งยืนการขนส่งที่ยั่งยืน (Driving the shift towards a Sustainable transport system) เช่น การฝึกสอนนักขับรถบรรทุกและรถบัส เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และมุ่งมั่นสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน รวมถึงพยายามผลักดันเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยสแกนเนียมีความรู้ และความพร้อมเกี่ยวกับระบบการขนส่งที่ยั่งยืนหลากหลายรูปแบบ บนพื้นฐาน หลัก 3 ประการ ได้แก่ 1.การใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ 2.ระบบขนส่งอัจฉริยะและปลอดภัย 3.รถพลังงานทางเลือกและพลังงานไฟฟ้า
“เราต้องการที่จะมั่นใจว่า ลูกค้าเข้าใจในเรื่องการใช้สแกนเนียแล้วสามารถลดมลพิษได้อย่างไร แน่นอนว่าการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ หรือ ความประหยัดน้ำมันของรถสแกนเนียคือหนึ่งในสิ่งที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ตั้งแต่ตอนนี้ นอกจากนี้ สแกนเนียยังพร้อมที่จะเปลี่ยนสู่พลังงานเชื้อเพลิงทางเลือกในรูปแบบต่างๆ ถ้าหากมีความต้องการจากตลาดประเทศไทยในอนาคต ซึ่งเราภูมิใจที่จะบอกว่ามันจะช่วยให้ลูกค้าได้กำไรไปพร้อมกับความยั่งยืน” นางสตีน่า กล่าว


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

สแกนเนีย พลิกดิน ปลูกสร้าง ยกศักยภาพศูนย์บริการสระบุรีใหม่ ยืนยันทำตลาดในประเทศไทยระยะยาว

สแกนเนีย เริ่มแผนลงทุนสร้างศูนย์บริการสาขาสระบุรีใหม่ ขยายกำลังรองรับการขนส่งที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต เส้นทางภาคกลาง-อีสาน สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-นครราชสีมา โดยทีมผู้บริหารสแกนเนียย้ำหนักแน่นในการทำตลาดรถขนาดใหญ่เพื่อการพาณิชย์ระยะยาวต่อในประเทศไทย เตรียมพร้อมสนับสนุนลูกค้าให้ผ่านวิกฤต และฟื้นตัวได้อย่างมั่นคงจากสถานการณ์โควิด-19

นางสตีน่า เฟเกอร์แมน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด แสดงออกถึงทิศทางที่ชัดเจนให้ลูกค้าในประเทศไทยมั่นใจว่า สแกนเนีย ยังคงวางแผนลงทุนเพิ่มศักยภาพทั้งผลิตภัณฑ์และงานบริการอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนผลกำไรให้ลูกค้า (Driving Profitability) ควบคู่กับการขับเคลื่อน เพื่อเปลี่ยนแปลงสู่ระบบการขนส่งที่ยั่งยืน (Driving the shift towards a sustainable transport) ซึ่งสแกนเนียได้ทำธุรกิจในประเทศไทยมายาวนาน ย่างเข้าสู่ปีที่ 35 ในปี พ.ศ.2564 นี้ มั่นใจได้กับความเป็นมืออาชีพ ประสบการณ์และความรู้ที่นำมาพัฒนา เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจขนส่งให้ดียิ่งขึ้นต่อไปในระยะยาว

ด้าน นาย สถิตย์   ริยะตานนท์ ผู้อำนวยการบริการหลังการขาย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวว่า “ศูนย์บริการสแกนเนีย สาขาสระบุรี เป็นหนึ่งในพื้นที่ยุทธศาสตร์ ที่มีลูกค้านิยมใช้บริการเป็นจำนวนมาก ด้วยสระบุรีเป็นเหมือนประตูสู่ภาคอีสาน และธุรกิจขนส่งของลูกค้าเรามากมายผ่านเส้นทางนี้ ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะลงทุนเพิ่ม โดยสแกนเนียเป็นผู้บริหารจัดการด้วยตัวเราเอง (Captive Dealer) เพื่อมอบบริการที่ดีขึ้นให้กับกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการอยู่ปัจจุบัน และเรายังมองศูนย์ฯ สระบุรีใหม่นี้ให้สามารถรองรับการเติบโตในอนาคตได้อีกด้วย” นอกจากนั้น สแกนเนียยังมองการขยายให้สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาล กับโครงสร้างพื้นฐานมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-นครราชสีมา คาดการณ์ว่าหลังวิกฤตโควิด จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สแกนเนียเลือกบริษัท จีซีเอส กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างเหล็กที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานสากล อีกทั้งมีประสบการณ์สร้างโรงซ่อมตามมาตรฐานสแกนเนียมาแล้วในหลายประเทศทั่วโลก มาเป็นผู้สร้างศูนย์บริการสแกนเนีย สาขาสระบุรีใหม่ โดยทีมผู้บริหารทั้งสองฝ่ายได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมและติดตามแผนดำเนินงานอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ก่อนเริ่มปลูกสร้าง

ศูนย์บริการสแกนเนีย สาขาสระบุรี ใหม่ ออกแบบและควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานการสร้างของสแกนเนียทั่วโลก สร้างบนพื้นที่ 4 ไร่ มีความพร้อมทั้งในส่วนของพื้นที่รับส่งรถ สำนักงาน ต้อนรับลูกค้า ห้องพักนักขับ ห้องเก็บอะไหล่ และโรงซ่อมถึง 6 ช่องบริการ ดูแลโดยพนักงานและช่างสแกนเนียที่มีประสบการณ์มืออาชีพ ลูกค้าจึงมั่นใจได้กับคุณภาพงานบริการ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาสที่สอง ปี พ..2564

สแกนเนียแสดงถึงความยึดมั่น และตั้งใจต่อตลาดในประเทศไทยระยะยาว เคียงข้างสนับสนุนลูกค้าอย่างเต็มกำลังให้ผ่านวิกฤตไปด้วยกัน ฟื้นฟูสภาพธุรกิจกลับมาให้ได้เร็วที่สุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายสื่อสารและการตลาด บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด 0 2017 9200 หรือเข้าเยี่ยมชมได้ที่ www.scania.co.th หรือ www.facebook.com/scaniathailandgroup


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

สแกนเนียจับมือพนัส แอสแซมบลีย์ ขยายตลาดธุรกิจให้บริการมาครบจบที่เดียว

สแกนเนีย ยืนหยัด เคียงข้างลูกค้าฝ่าวิกฤตโควิด ด้วยการนำเสนอบริการใหม่ เปิดซ่อมบำรุงรักษาหางพ่วง โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญอย่างพนัส แอสแซมบลีย์ ให้ลูกค้าชาวไทย สะดวกและคุ้มค่ายิ่งขึ้น เมื่อนำรถเข้ารับบริการที่สแกนเนียทุกสาขาทั่วประเทศ

นายสถิตย์ ริยะตานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการหลังการขาย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวว่า สแกนเนีย ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจขนส่งให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการบริการหลังการขายที่เน้นสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าโดยการร่วมมือกับบริษัทพนัส แอสแซมบลีย์ จำกัดเปิดให้บริการซ่อมและบำรุงรักษาหางพร้อมกับตัวรถ ซึ่งลูกค้าจะได้รับความคุ้มค่ามากขึ้นในหลายด้าน ด้วยการรับบริการจบทั้งคันในที่เดียว ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่ารถของลูกค้าจะมีความพร้อมทั้งคัน สามารถนำกลับไปปฏิบัติงานบนท้องถนนได้เร็วและมีประสิทธิภาพ

“เป้าหมายของความร่วมมือกันในครั้งนี้ของทั้งสองบริษัท เพื่อขยายงานธุรกิจด้านการบริการ ซึ่งสแกนเนียมีความเชี่ยวชาญในการซ่อมบำรุงรักษาส่วนหัวรถทรัค อยู่แล้ว ดังนั้นส่วนหางพ่วง ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบหลักที่สำคัญสำหรับธุรกิจขนส่งสินค้า สแกนเนียจึงเห็นความสำคัญที่จะให้บริการลูกค้าได้มากขึ้น คือการเปิดให้บริการซ่อมและบำรุงรักษาหางพร้อมกับตัวรถ ซึ่งลูกค้าจะได้รับความคุ้มค่ามากขึ้นในหลายด้าน ทั้งทางด้านประสิทธิภาพ และมั่นใจในงานบริการ ด้วยช่างที่ได้รับการอบรมตามมาตรฐาน และเครื่องมือช่างที่มีคุณภาพ ทำให้สแกนเนียมีความพร้อมในการจัดการทุกปัญหาของลูกค้าได้อย่างลงตัว” นายสถิตย์กล่าวและว่า ศูนย์บริการมาตรฐานเป็นหัวใจของการบริหารงานในเชิงธุรกิจ ที่ต้องการความสะดวกในการเข้าถึงในตำแหน่งที่ตั้งที่ลูกค้าสามารถค้นหาและเข้าถึงศูนย์บริการได้ ซึ่งลูกค้าสามารถทำการนัดหมาย หรือโทรศัพท์เข้ามาปรึกษาก่อนการนำรถเข้าซ่อมใช้บริการได้ โดยสแกนเนียได้เตรียมเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการด้วยงานคุณภาพ และจัดเตรียมคุณภาพอะไหล่แท้ ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าอะไหล่ที่เราเปลี่ยนให้ เป็นของแท้ พร้อมการรับประกันคุณภาพ เพื่อให้ลูกค้าคนไทยมั่นใจกับบริการใหม่นี้มากยิ่งขึ้น

ด้านนางสาวณัชชา วงศ์คำภู ผู้จัดการฝ่ายการตลาดการขายและการบริการหลังการขาย บริษัทพนัส แอสแซมบลีย์ จำกัดกล่าวว่า “เราเรียกโครงการนี้ว่า พนัส เอส+พลัส (Panus S + Plus) เป็นการร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อขยายงานบริการซ่อมและบำรุงรักษาหางของเรา ส่งมอบประโยชน์ที่คุ้มค่าสูงสุดให้ลูกค้า ซึ่งในความร่วมมือนี้พนัส ได้จัดฝึกอบรมแบบมืออาชีพ พร้อมชุดเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับซ่อมบำรุงหางให้กับพันธมิตร โดยครั้งนี้เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้จับมือกับพันธมิตรอย่างสแกนเนีย”

นายสถิตย์ ริยะตานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการหลังการขาย บริษัทสแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวทิ้งท้ายว่า “เราคิดและพัฒนางานบริการของเราอย่างต่อเนื่อง เราอยากให้ลูกค้ามีความคุ้มค่ามากขึ้น ในทุก ๆ ครั้งที่เข้ามารับบริการกับศูนย์บริการสแกนเนียแบบ มาครบ จบทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตโควิดแบบนี้ เราอยากเคียงคู่ สนับสนุนลูกค้า ฝ่าวิกฤตไปพร้อมกัน … ขอบคุณพันธมิตร พนัส แอสแซมบลีย์ ที่ร่วมมือกัน ให้งานบริการเราตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น”

สามารถเข้ารับบริการซ่อมบำรุงรักษาหาง ได้ที่ศูนย์บริการสแกนเนียทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-017 9200


 

Exit mobile version