Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว EcoStruxure Micro Data Center C-Series 43U

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นด้านการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชั่นเปิดตัว EcoStruxure™ Micro Data Center  C Series ขนาดใหม่ ให้ความจุถึง 43U โดดเด่นด้วยความจุสูงสุดในสายไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค สำหรับตลาดคอมเมอร์เชียลและสำนักงาน โดยมาพร้อมเทคโนโลยีทำความเย็นอัจฉริยะเพื่อการปกป้องที่เหนือชั้นและให้ประสิทธิภาพด้านพลังงานที่ดียิ่งขึ้น โดย C-Series รุ่นใหม่ ขนาด 43U เป็นโซลูชันเดียวในตลาดที่สลับโหมดทำความเย็นได้โดยอัตโนมัติใน 3 โหมด ตามความต้องการใช้งานระบบได้แบบเรียลไทม์

โซลูชันใหม่นี้ ช่วยให้ลูกค้าประยุกต์ใช้ไอทีในสภาพแวดล้อมเอดจ์คอมพิวติ้ง หรือคอมเมอร์เชียลได้ง่าย ปลอดภัย และให้ความเสถียร โดยเป็นโซลูชันที่มีขนาดใหญ่สุด เป็นโมเดลที่ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ไม่จำเป็นต้องสร้างห้องไอที ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงทุนถึง 48 เปอร์เซ็นต์ ใช้เวลาน้อยลง 20 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านวิศวกรรมได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และช่วยลดค่าซ่อมบำรุงได้ 7 เปอร์เซ็นต์

EcoStruxure Micro Data Centers ของเรา ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความปลอดภัยด้วยระบบโครงสร้างทางกายภาพที่เชื่อมต่อกัน ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน ด้วยแพลตฟอร์มด้านการบริหารจัดการบนคลาวด์ อีกทั้งช่วยลดความซับซ้อนในการออกแบบและนำมาปรับใช้งาน โดย EcoStruxure Micro Data Center C-Series 43U เป็นโซลูชันล่าสุดที่เข้ามาเสริมทัพ โดยให้ความจุแร็คเพิ่มมากขึ้น ประหยัดขึ้น และมีฟีเจอร์ที่บิวด์-อินมาเยอะขึ้น ช่วยตอบโจทย์ความท้าทายด้านสภาพแวดล้อมการใช้งานในส่วนคอมเมอร์เชียล” นายฌอง เบพติสต์ ปลานย์ รองประธาน ฝ่ายบริหารจัดการในการนำเสนอผลิตภัณฑ์แร็คและระบบเอดจ์ ด้านการบริหารจัดการพลังงาน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค “EcoStruxure Micro Data Center C-Series 43U ช่วยเติมเต็มช่องว่างในตลาด ด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงมืออาชีพด้านไอทีและผู้ให้บริการโซลูชันไอที เพื่อช่วยให้มั่นใจได้ว่าสภาพแวดล้อมทางดิจิทัลจะยังคงรองรับการใช้งานได้ตลอดเวลา”

โซลูชันการบริหารจัดการเอดจ์ที่ครบวงจร

MDC C-Series ขนาด 43U เป็นโซลูชันบริหารจัดการเอดจ์ที่สมบูรณ์แบบ โดยสามารถตรวจสอบการทำงานได้จากระยะไกล ด้วยซอฟต์แวร์ EcoStruxure IT และบริการด้านดิจิทัล ซึ่งสายผลิตภัณฑ์ด้านซอฟต์แวร์และการบริการด้านดิจิทัลของชไนเดอร์ อิเล็คทริค มอบขุมพลังและความยืดหยุ่นให้ลูกค้าในการบริหารจัดการอุปกรณ์สำคัญในระบบโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างราบรื่นด้วยตัวเอง ร่วมกับคู่ค้า หรือใช้บริการวิศวกรผู้เชี่ยวชาญของชไนเดอร์ อิเล็คทริค มาช่วยบริหารจัดการให้

MDC C-Series ขนาด 43U ออกแบบมาเพื่อผู้ให้บริการโซลูชันไอที ตัวแทนจำหน่าย และพันธมิตร ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีในภาคส่วนต่างๆ อาทิ ธนาคาร การบริการด้านการเงิน ค้าปลีก เฮลธ์แคร์ ภาครัฐฯ และสถาบันการศึกษา ซึ่ง MDC C-Series ขนาด 43U เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมและการดำเนินงานที่มีความหนาแน่นอยู่ในระดับต่ำจนถึงปานกลาง และเหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่ไม่มีการควบคุมความเย็นและความชื้นตลอด 24 ชั่วโมง แต่มีระบบไอทีที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น ห้องซัพพลาย ตู้สำหรับใส่อุปกรณ์ไอที และพื้นที่สำนักงาน

ประโยชน์ของ 43U C-Series ใหม่

  • เทคโนโลยีการทำความเย็นเปี่ยมประสิทธิภาพด้านพลังงาน สามารถสลับโหมดทำความเย็นได้โดยอัตโนมัติถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมดแอคทีฟ โหมด Eco และในโหมดฉุกเฉิน ได้ตามความต้องการใช้งานระบบนั้นๆ ได้แบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน และเสริมการป้องกันจากการสะสมของไฟฟ้าสถิต และความร้อนสูงที่เกินไป
  • ให้พื้นที่ในตู้มากขึ้น ให้ความจุภายในสูงสุดในสายผลิตภัณฑ์ EcoStruxure Micro Data Center รุ่น C-Series สำหรับคอมเมอร์เชียล โดยมีพื้นที่ใช้สอยสูงสุด 36U
  • เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมด้านคอมเมอร์เชียล และการใช้งานภายในอาคาร เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายเรื่องปัญหาฝุ่น ความผันผวนของพลังงาน การควบคุมอุณหภูมิที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ฉับพลัน และสถานที่ตั้งที่ไม่ปลอดภัยซึ่งไม่ได้สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ไอทีที่มีความละเอียดอ่อน

EcoStruxure Micro Data Center ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดมาตรฐานการออกแบบในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและสั่งซื้อได้ทั้งที่เป็นโซลูชันเดี่ยว และแบบออล-อิน–วัน ช่วยให้นำมาปรับใช้งานได้โดยง่ายและบำรุงรักษาได้ง่ายขึ้นเช่นกัน ซึ่งชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้มอบทั้งเครื่องมือในการออกแบบที่ดีที่สุด รวมถึง Local Edge Configurator และจัดจำหน่ายระดับโลก ระบบนิเวศด้านคู่ค้าและพันธมิตรไอที ตลอดจนการรับรองมาตรฐานระดับโลกและการดำเนินงานที่สอดคล้องตามกฎระเบียบข้อบังคับ #EcoStruxure #LifeIsOn #IoT #EdgeComputing

สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของ EcoStruxure Micro Data Center C-Series 43U ใหม่ล่าสุดได้ที่ https://bit.ly/3viDOEP


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ร่วมรณรงค์ ในกิจกรรม Earth Hour ปิดไฟให้โลกยั่งยืน พร้อมส่งวีดีโอไวรัล ปลุกกระแสรักษ์โลก

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ด้านการบริหารจัดการพลังงานและระบบออโตเมชั่น โดยล่าสุดได้รับรางวัล องค์กรที่ยั่งยืนที่สุดในโลก ประจำปี 2021 ซึ่งวันนี้เดินหน้าสานต่อสนับสนุนกิจกรรมลดการใช้พลังงาน เอิร์ธอาวเออร์ 2021 (Earth Hour 2021) ซึ่งเป็นแนวคิดของกองทุนสัตว์ป่าโลก (World Wildlife Fund หรือใช้ชื่อย่อว่า WWF) เพื่อลดการใช้พลังงานในช่วงเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม 2564 เวลา 20.30 – 21.30 น.

สเตฟาน นูสส์ ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ดูแลประเทศไทย ลาว และเมียนมา ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เผยว่า ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ขอร่วมสนับสนุน Global Campaign Earth Hour 2021 ในปีนี้ ซึ่งนับว่าเป็นโครงการที่เราจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนในชั้นบรรยากาศของโลกเราได้อย่างง่ายๆ  เพียงการปิดไฟ 1 ชั่วโมง เราทุกคนควรร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อปกป้องอนาคตของเรา และเพื่ออนาคตของโลก ด้วยมือของเรา”

กิจกรรมเอิร์ธอาวเออร์ เป็นกิจกรรมหนึ่งเสมือนเป็นจิ๊กซอว์ในการลดการใช้พลังงานเพื่อสร้างความยั่งยืนให้โลกของเรา แม้จะเป็นเวลาเพียง 1 ชั่วโมงก็ตาม แต่ถ้าทุกคนช่วยกัน จะสามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้จำนวนมหาศาล

นอกจากนี้ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังได้จัดทำวีดีโอไวรัล ร่วมรณรงค์ ปิดไฟเพื่อให้โลกยั่งยืน ช่วยปลุกกระแสให้คนไทยตระหนักถึงการมีส่วนร่วมให้โลกเย็นลง ด้วยการปิดไฟทุกครัวเรือน โดยวีดีโอ ได้เผยแพร่ทาง https://www.youtube.com/watch?v=J6Pe2GQov-M โดยผู้จิตอาสาหัวใจสีเขียว สามารถส่งต่อเพื่อร่วมรณรงค์ให้คนไทยช่วยกันดับไฟเพื่อโลกของเรา


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ควบ 2 รางวัล ในการนำพาอุตสาหกรรมมุ่งหน้าไปสู่นวัตกรรมเพื่อสร้างความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน

เมื่อเร็วๆ นี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชัน ได้รับรางวัลผู้จำหน่ายระบบโครงสร้างสำคัญด้านพลังงานในเอเชียแปซิฟิกแห่งปี 2020 (2020 Asia-Pacific Critical Power Infrastructure Vendor of the Year) ควบรางวัลบริษัท UPS ในเอเชียแปซิฟิกแห่งปี 2020 (2020 Asia Pacific UPS Company of the Year) ที่มอบโดย Frost & Sullivan ทั้งนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้ชนะเลิศรางวัลในสาขาดังกล่าวมาโดยต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2012 และยังคงเสริมความแข็งแกร่งต่อไปอีกด้วยการเป็นผู้นำตลาดระดับโลกในเรื่องของโซลูชันดาต้าเซ็นเตอร์

ในการชนะเลิศรางวัลจาก Frost & Sullivan เมื่อเร็วๆ นี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้รับเกียรติยศจากการพัฒนาสองสายผลิตภัณฑ์ นั่นคือ Galaxy ที่มุ่งเน้นที่ความน่าเชื่อถือของพลังงานกับเรื่องประสิทธิภาพด้านพลังงาน และ Easy UPS ที่พรั่งพร้อมไปด้วยคุณค่าและฟีเจอร์ที่มุ่งเน้นการใช้งานของลูกค้าเป็นหลัก ทั้งนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้มีการออกนวัตกรรมสำคัญอีกหลายอย่างสำหรับทั้งสองสายผลิตภัณฑ์ในปี 2019 โดย Galazy V-Series (VX, VM, VS) UPS เป็นโหมดปฏิบัติการแบบ ECOnversion ซึ่งให้ประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงถึง 99 เปอร์เซ็นต์ อย่างที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยหนึ่งในประโยชน์หลักคืออินเวอร์เตอร์ ที่สามารถรองรับโหลดได้อย่างไร้รอยต่อในกรณีที่ระบบ utility bypass ล้มเหลว นอกจากนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังช่วยเพิ่มอายุการใช้งานให้กับระบบ UPS ถึงสามเท่าของอายุการใช้งานที่คาดการณ์ในส่วนทางเลือกที่เป็นแบตเตอรี่ VRLA ดังนั้นจึงช่วยลดค่าใช้จ่ายสุทธิในการเป็นเจ้าของได้สูงถึง 30-50 เปอร์เซ็นต์

“ลูกค้าของเราเป็นแรงบันดาลใจให้เราในทุกวัน ในการสร้างนวัตกรรมและเพิ่มศักยภาพให้กับทุกคนในการทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นโดยใช้ทรัพยากรน้อยลง เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลกในความมุ่งมั่นพยายามของเราในเรื่องของประสิทธิภาพ ความยั่งยืน ความสามารถในการเชื่อมต่อ และความปลอดภัย โดยในการบรรลุการเติบโตอย่างยั่งยืนท่ามกลางการแข่งขันดุเดือดในตลาด เรามุ่งเน้นที่คุณภาพ และการสร้างความมั่นใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการมองการณ์ไกลเพื่อสร้างความสำเร็จในยุคหลังการแพร่ระบาด” เบอนัวต์ ดูบาร์เลอ รองประธานอาวุโส ภาคพื้นเอเชียตะวันออกและญี่ปุ่น ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าว “ความยืดหยุ่นในการดำเนินงานและความพยายามในการเปลี่ยนระบบสู่ดิจิทัล ได้กลายเป็นแรงผลักให้เกิดวาระการประชุมขององค์กรเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ด้วยสถานภาพที่มั่นคงของเราในเรื่องเหล่านี้ เรามีความพร้อม รวมถึงกระตือรือร้นและมุ่งมั่นที่จะสร้างการเดินทางในเรื่องเหล่านี้ให้กับทั้งลูกค้าและคู่ค้าของเราในการก้าวสู่เน็กซ์นอร์มัล (Next Normal)” เบอร์นัวต์ กล่าวเสริม


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว Uniflair Ceiling Mounted Split แอร์สำหรับห้องดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดเล็ก ประหยัดพลังงาน เย็นต่อเนื่องสำหรับอุปกรณ์ไอทีโดยเฉพาะ

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว Uniflair Ceiling Mounted Split แอร์สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดเล็กโดยเฉพาะ ได้รับการออกแบบสำหรับการทำความเย็นในห้องดาต้าเซ็นเตอร์ หรือห้องไอทีขนาดเล็ก ที่มีการติดตั้งตู้แร็ค 2 ตู้ขึ้นไป ทนทาน ทำความเย็นได้ต่อเนื่อง 24×7 โดยไม่ต้องพักเครื่อง ให้ความแม่นยำในการควบคุมและตรวจจับอุณหภูมิได้ละเอียดกว่าแอร์ทั่วไป มาพร้อมแผงคอยล์เย็นและพัดลมขนาดใหญ่กว่าแอร์ทั่วไปถึง 1.5 เท่า ให้สามารถจัดการกับความร้อนที่เพิ่มขึ้นแบบฉับพลันและความร้อนที่มีความหนาแน่นสูงในตู้แร็ค จากอุปกรณ์ไอทีเช่น เซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ อุปกรณ์เครือข่าย ช่วยคงอุณหภูมิของอุปกรณ์ไอทีไม่ให้ร้อนเกินขีดจำกัดที่ตั้งไว้ ทั้งยังลดการเกิดการควบแน่นโดยไม่จำเป็น อันเป็นสาเหตุของความชื้น และยังช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ด้วยการทำความเย็นแบบเฉพาะ ที่สามารถแยกแยะความชื้นสัมพัทธ์หรือมวลไอน้ำในอากาศ เมื่อความชื้นอยู่ในจุดที่เหมาะสม แอร์จะไม่ดูดความชื้น แต่จะให้ประสิทธิภาพในการทำความเย็นเพียงอย่างเดียว ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากว่าแอร์ทั่วไป

นอกจากนี้ Uniflair Ceiling Mounted Split ยังมาพร้อมเทคโนโลยีการมอนิเตอร์อัจฉริยะ สามารถดูสถานะค่าต่างๆ เฉพาะตัว ผ่านเว็บเบส เมื่อเกิดปัญหา แอร์จะส่งข้อความแจ้งเตือนเข้าอีเมล หรือข้อความบนสมาร์ทโฟน เช่น เมื่อเกิดความร้อนสูงผิดปกติภายในห้อง หรือแอร์มีปัญหา เช่น คอมเพลสเซอร์หรือพัดลมทำงานผิดปกติ กระแสไฟเกิน ฯลฯ ช่วยให้ง่ายในการแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที สำหรับฝ่ายซ่อมบำรุง นอกจากนี้เมื่อแอร์เกิดขัดข้อง ระบบอัจฉริยะจะสลับเปิดเครื่องแอร์สำรองโดยอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยีสมาร์ทคอนโทรลของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ทำให้มั่นใจได้ว่า อุปกรณ์ไอทีจะมีความเย็นหล่อเลี้ยงอยู่เสมอ มีให้เลือกทั้งขนาด 7KW (24000 BTU) และ 14 KW (48000 BTU) ในราคาสุดคุ้ม

Uniflair Ceiling Mounted Split ยังใช้งานรองรับการใช้งานร่วมกับ EcoStruxure IT จากชไนเดอร์ อิเล็คทริคได้ หากต้องการมอนิเตอร์ และรีโมทควบคุมระยะไกลโดยไม่ต้องเข้าไปที่ไซต์งาน ให้ความสะดวกและลดระยะเวลาในการดำเนินงานได้ตามแบบฉบับยุค Next normal


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัวโซลูชั่นดาต้าเซ็นเตอร์พร้อมใช้

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) เปิดตัว APC EDGE MicroDC 42U ไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ ขนาด 42 U รับตลาดการใช้งานแบบ เอดจ์ (EDGE) ที่โตขึ้น พร้อมไฮไลท์ “ความพร้อมใช้งานได้ทันที” สำหรับธุรกิจโรงงาน สถาบันการศึกษา ไซต์งานอุตสาหกรรม อาคาร โรงพยาบาล ฯลฯ มาครบ 3 โซลูชั่น Standard Solution สำหรับการใช้งานแบบทั่วไป Self-Contained Solution สำหรับอาคารที่ไม่สามารถเดินท่อ หรือติดตั้ง Outdoor unit ได้ High density solution สำหรับใช้งานในพื้นที่หรือไซต์งานที่ต้องการรองรับโหลดจำนวนมาก ทั้ง 3 โซลูชั่น ที่มุ่งตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่าง และช่วยทำลายข้อจำกัดในการติดตั้งในแต่ละพื้นที่ โดดเด่นด้วยขุมพลังที่จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ครบครันภายในตู้แร็ค เพียงติดตั้งเซิร์ฟเวอร์หรือสตอเรจก็ใช้งานได้ทันที มั่นใจได้เรื่องประสิทธิภาพในการใช้งาน เพราะประกอบและติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญจากชไนเดอร์ อิเล็คทริค ซึ่งในโซลูชั่นประกอบไปด้วย ตู้แร็ค ที่ให้ความแข็งแกร่ง คงทน มาพร้อมระบบ คอนเทนเม้นต์ โซลูชั่น ภายในมีระบบสำรองไฟ(UPS) ระบบออนไลน์ แบบเข้าตู้แร็คกว้าง 19 นิ้ว สูงเพียง 2U ล้ำหน้าด้วยความสามารถในการรีโมทมอนิเตอร์ได้และสามารถติดตั้งแบตเตอรี่เพิ่มเติมได้ถึง 10 แพค ภายนอก เพื่อการสำรองไฟที่ยาวนาน ระบบทำความเย็นอัจฉริยะของชไนเดอร์ อิเล็คทริค สามารถมอนิเตอร์และแจ้งเตือนสถานะได้ สามารถทำงานคู่กับพัดลมระบบอากาศอัจฉริยะแบบ 4 ใบพัด เมื่อแอร์หยุดทำงาน หรือไฟตก ไฟดับ หรือขณะซ่อมบำรุง นอกจากนี้ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังจัดเซตภายตู้แร็คทุกโซลูชั่น ด้วย NetBotz โซลูชั่น เพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจในการใช้งาน ด้วยไฟแจ้งเตือนเมื่อเกิดปัญหาต่างๆ รวมถึงระบบเซ็นเซอร์ ตรวจจับอุณหภูมิ ความชื้น หยดน้ำ ตรวจจับควันไฟ การเปิด-ปิดประตู และเหนือชั้นกว่าใครด้วยการเชื่อมต่อกับพลังงานได้ง่ายด้วยปลั๊กรางอัจฉริยะ Intelligent Rack PDU แบบมิเตอร์ ให้ความสามารถการมอนิเตอร์ และวัดค่าพลังงาน ผ่านทางเว็บเบสท์ โดยไม่เปลืองพื้นที่ในแร็ค เพราะเป็นแบบ Zero U นอกจากนี้ยังมีแบลงกิ้งพาแนล (Blanking panel) ช่วยให้บริหารจัดการการไหลเวียนของอากาศภายในตู้แร็ค เพื่อได้รับอากาศเย็นได้ทั่วถึงอุปกรณ์ภายในตู้ ที่สำคัญโซลูชั่นนี้มาพร้อม EcoStruxure IT เทคโนโลยียอดนิยมของชไนเดอร์ อิเล็คทริค แห่งยุคนี้ สามารถมอนิเตอร์ อุปกรณ์อัจฉริยะภายในได้ในแอปพลิเคชั่นเดียวบนสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นพลังงาน ระบบทำความเย็น และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในตู้แร็ค ช่วยลดความยุ่งยากและเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงเอจด์ไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ได้ทุกที่ทุกเวลา ทำลายข้อจำกัดต่างๆ ที่เคยมี นับเป็นโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ ยุค Next Normal ได้อย่างแท้จริง โซลูชั่น EDGE MDC 42U ยังมาพร้อมการรับประกันยาวนานถึง 3 ปี ในแบบออนไซต์เซอร์วิส

EDGE MicroDC 42U มีให้เลือก 3 โซลูชั่น แต่ละโซลูชั่นให้ความแตกต่างตามการใช้งาน และสามารถทำงานร่วมกับ EcoStruxure IT ได้ สะดวกในการรีโมทมอนิเตอร์ระยะไกล และการแจ้งเตือนเมื่อเกิดปัญหาในอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่

Standard Solution โซลูชั่นมาตรฐานครบจบในหนึ่งเดียว เหลือพื้นที่หลังจากติดตั้งอุปกรณ์ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ให้ใช้งานถึง 33 U โซลูชั่นนี้โดดเด่นด้วยระบบทำความเย็นภายในตู้แร็ค Uniflair™ RM ให้ความเย็นได้สูงถึง 3.5 kW ให้ความเย็นไหลเวียนภายในทั่วทั้งแร็ค ช่วยประหยัดพลังงาน มาพร้อมระบบสำรองไฟหรือ UPS ขนาด 2.7 กิโลวัตต์ สำรองไฟให้เซิร์ฟเวอร์ สตอเรจได้ราว 4 นาที สามารถติดตั้งแบตเตอรี่เพิ่มเติมได้ถึง 10 แพค ภายนอก เพื่อระยะเวลาการสำรองไฟได้ยาวนานขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานอาทิ สำนักงานสาขา โรงแรม หรือไซต์งานที่มีพื้นที่จำกัด

Self-Contained Solution เป็น EDGE MicroDC 42U ที่มีความโดดเด่นในการติดตั้งที่ใดก็ได้ จบในจุดเดียวโดยไม่ต้องเดินท่อน้ำยาแอร์ ไม่ต้องติดตั้ง outdoor unit สำหรับอาคารที่มีข้อจำกัดในการต่อเติม หรือเดินท่อต่างๆ ซึ่งโซลูชั่นนี้โดดเด่นด้วยระบบแอร์แบบ InRow SC ขนาดตู้หน้ากว้างเพียง 300 มิลลิเมตร ระบายความร้อนออกสู่ด้านบน ทำให้ภายในตู้แร็คเย็นครบทุกอุปกรณ์ หรือสามารถต่อท่อเพื่อระบายความร้อนออกไปนอกอาคารได้ (กรณีพื้นที่ติดตั้งมีเพดานไม่สูงมาก) ให้ความเรียบง่ายในการดูแลรักษา และประหยัดพื้นที่ เหมาะสำหรับเป็นตู้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมหุ่นยนต์ หรืออยู่บนอาคารสูง เนื่องจากเป็นโซลูชั่นที่กระจายความเย็นจากด้านข้าง ทำให้ไม่เสียพื้นที่ในตู้แร็ค ทำให้มีพื้นที่เหลือจากจากติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ถึง 38 U มาพร้อม UPS ขนาด 4.5 กิโลวัตต์ สำรองไฟได้ราว 4 นาที สามารถติดตั้งแบตเตอรี่เพิ่มเติมได้ถึง 10 แพคภายนอก และมาพร้อมอุปกรณ์อื่นๆ ครบชุด

High density solution มาพร้อมระบบทำงานเย็นเหนือชั้น InRow RD ขนาดตู้หน้ากว้างเพียง 300 มิลลิเมตร สามารถทำความเย็นให้กับอุปกรณ์ไอทีได้ถึง 10 กิโลวัตต์ InRow RD เป็นโซลูชั่นแบบประกบข้างตู้ ทำให้ประหยัดพื้นที่ในตู้แร็ค ทำให้เหลือพื้นที่ใช้งานภายในตู้ในการใส่เซิร์ฟเวอร์ หรือสตอเรจ ได้เต็มที่ถึง 38 U เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการรับส่งข้อมูลที่มีโหลดสูงๆ เป็นประจำ มาพร้อม UPS ขนาด 4.5 KW สามารถติดตั้งแบตเตอรี่เพิ่มเติมได้ถึง 10 แพคภายนอก สำหรับการสำรองไฟที่ยาวนาน ทางผู้ใช้งานยังสามารถเพิ่มเครื่องสำรองไฟฟ้า เพิ่มเติมได้ด้วย รวมทั้งหมดไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ ในชุดมาพร้อม อุปกรณ์ต่างๆ ที่มีมาให้ครบชุด เรียกได้ว่าโซลูชั่นนี้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพเหมือนดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่

โซลูชั่นเอดจ์ ไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ 42 U ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ใช้งานง่าย จัดเต็มขุมพลังเทคโนโลยีการควบคุมระยะทั้ง UPS ระบบทำความเย็น และยังมาพร้อม EcoStruxure IT ที่ช่วยให้สามารถมอนิเตอร์การทำงานได้ทั้งระบบ นับเป็นนวัตกรรมดาต้าเซ็นเตอร์แบบย่อส่วนสำหรับทุกธุรกิจที่ต้องการในราคาที่ไม่สูง ไม่ต้องกั้นห้อง ไม่ต้องลงทุนสร้างห้องดาต้าเซ็นเตอร์เอาไว้ ด้วยนวัตกรรม EcoStruxure ทำให้ โซลูชั่นเอดจ์ ไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ 42 U ช่วยลดค่าใช้จ่ายทั้ง CapEx และ OpEx ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

รายงานวิจัยล่าสุดจาก 451 Research แจงผลกระทบด้านประสิทธิภาพและความยั่งยืนในตลาดผู้ให้บริการคลาวด์ โคโลเคชั่น และดาต้าเซ็นเตอร์

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงาน และออโตเมชั่น เผยผลการศึกษาชิ้นใหม่จาก 451 Research ที่เป็นงานวิจัยส่วนหนึ่งของ S&P Global Market Intelligence เพื่อหาผลกระทบของประสิทธิภาพและความยั่งยืนต่อแวดวงธุรกิจผู้ให้บริการคลาวด์ โคโลเคชั่น และดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งในรายงานที่ออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ ครอบคลุมข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการสำรวจผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกมากกว่า 800 ราย เกี่ยวกับมุมมองด้านความยั่งยืนและความคิดริเริ่มเชิงกลยุทธ์ ที่กำลังนำมาปรับใช้หรือจะมีการใช้ในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงสิ่งจำเป็นเพื่อให้บรรลุมาตรการด้านความยั่งยืนสำหรับผู้ให้บริการโคโลเคชั่น

“รายงานจาก 451 Research นำเสนอภาพรวมของประสิทธิภาพและความยั่งยืนที่มีอิทธิพลต่อตลาดโคโลเคชั่น” มาร์ค ไบดินเกอร์ ประธานภาคธุรกิจคลาวด์และผู้ให้บริการ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าว “ผู้ประกอบการดาต้าเซ็นเตอร์สำหรับผู้เช่าหลายราย (Multi-tenant data center) สามารถนำข้อมูลจากรายงานไปใช้เป็นตัวช่วยในการประเมินช่องว่างในการปรับใช้งานและการใช้ทรัพยากร ตลอดจนความเสี่ยงที่จะเกิดหากไม่ได้ดำเนินการในเรื่องนี้”

ในการจัดทำรายงาน Multi-tenant data centers and sustainability: ambitions and reality นั้น 451 Research ได้จัดทำสำรวจผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอที ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบต่อกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของดาต้าเซ็นเตอร์ ทั้งโคโลเคชั่น (Colocation) และดาต้าเซ็นเตอร์ในแบบ wholesale โดยผู้ตอบแบบสอบถามดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา จีน อินเดีย ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เม็กซิโก บราซิล ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ซาอุดิอาราเบีย สวีเดน เดนมาร์ก ฯลฯ โดยเป็นบริษัทที่มีจำนวนพนักงานตั้งแต่ 10 จนถึงมากกว่าหมื่นคน และมีขนาดดาต้าเซ็นเตอร์ตั้งแต่ไม่ถึง 1 เมกะวัตต์ จนถึงมากกว่า 150 เมกะวัตต์

“ทั้งประสิทธิภาพและความยั่งยืนของดาต้าเซ็นเตอร์ ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับภาคธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์อยู่แล้ว และการสำรวจของเราแสดงให้เห็นว่าผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์สำหรับผู้เช่าหลายราย (Multi-tenant data center) ทั่วโลกต่างจัดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่มีลำดับความสำคัญสูง” แดเนียล บิโซ นักวิเคราะห์งานวิจัยอาวุโส ของ 451 Research ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ S&P Global Market Intelligence กล่าว “สุดท้าย ความคาดหวังจากลูกค้า ผู้กำกับดูแล และสาธารณชน ในภาคใหญ่จะยิ่งกลายเป็นความกดดันมากขึ้นเนื่องจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศชัดเจนมากขึ้น และเมื่อระบบโครงสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกเติบโตขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการใช้บริการระบบดิจิทัลมากขึ้น ความสนใจเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน”

Portrait of African American woman working as IT engineer and standing among server racks in data center room

ประเด็นสำคัญของรายงานเกี่ยวกับความยั่งยืน
รายงานได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับระดับความพร้อมของผู้ให้บริการโคโลเคชั่นทั่วโลกพร้อมกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน และประเด็นสำคัญมีดังต่อไปนี้

• ผู้ตอบสำรวจส่วนใหญ่ (57 เปอร์เซ็นต์) เชื่อว่าประสิทธิภาพและความยั่งยืนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความแตกต่างอย่างมากในเวลา 3 ปี ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่อยู่ที่ 26 เปอร์เซ็นต์

• มีผู้ตอบสำรวจเพียง 43 เปอร์เซ็นต์ ที่กล่าวว่าตัวเองมีโครงการริเริ่มเชิงกลยุทธ์เรื่องความยั่งยืน และทำให้ระบบโครงสร้างขององค์กรมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

• ปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนโปรแกรมด้านประสิทธิภาพและความยั่งยืนได้แก่

o ความคาดหวังของลูกค้า (50 เปอร์เซ็นต์)

o ความยืดหยุ่นในการดำเนินงานในระยะยาว (40 เปอร์เซ็นต์)

o แนวทางในการกำกับดูแล (36 เปอร์เซ็นต์)

• 97 เปอร์เซ็นต์ของผู้ให้บริการมีลูกค้าระหว่างไม่กี่ราย หรือมีลูกค้าทั้งหมด ที่กำลังมองหาข้อผูกพันตามสัญญาเรื่องแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืน

• มีเพียง 56 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เข้าร่วมสำรวจกล่าวว่าได้มีการตรวจสอบระบบปฏิบัติการ และที่เหลือกล่าวว่าไม่ได้ออกรายงานเพื่อติดตามมาตรการเหล่านี้ (การใช้งานเต็มประสิทธิภาพ การใช้พลังงาน ค่า PUE ฯลฯ) นอกจากนี้ ราวหนึ่งในสามได้มีการติดตามความเข้มของคาร์บอนในทุกไซต์งาน

พลังงานและระบบทำความเย็นในดาต้าเซ็นเตอร์ ถูกหยิบยกว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยปรับปรุงเรื่องความยั่งยืน
เมื่อเป็นเรื่องของความยังยืน รายงานพบว่าผู้ประกอบการดาต้าเซ็นเตอร์แบบมีผู้เช่าหลายราย มีบางอย่างที่เหมือนกัน โดยในสองประเด็นหลักมีดังต่อไปนี้

• ส่วนการดำเนินงานหลักที่ต้องปรับปรุงเรื่องความยั่งยืน ได้แก่

o กระจายพลังงานในดาต้าเซ็นเตอร์ได้อย่างเหมาะสมเต็มประสิทธิภาพ

o การอัพเกรดระบบโครงสร้างด้านการกระจายพลังงานในดาต้าเซ็นเตอร์

o การให้ประสิทธิภาพด้านการทำความเย็นในดาต้าเซ็นเตอร์ได้อย่างเหมาะสม

o การอัพเกรดระบบโครงสร้างด้านการทำความเย็นในดาต้าเซ็นเตอร์

• มาตรวัดเพื่อแจ้งเรื่องความยืดหยุ่น เป็นองค์ประกอบสำคัญของแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืนโดยมุ่งเน้นในการที่สิ่งอำนวยความสะดวกในดาต้าเซ็นเตอร์ใช้พลังงาน น้ำและทรัพยากรอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ การซ่อมบำรุงผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการปรับปรุงการทำงานให้มีความทันสมัยนับเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยขยายการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในดาต้าเซ็นเตอร์ได้อย่างเหมาะสมเต็มประสิทธิภาพตลอดช่วงอายุการทำงาน ควบคู่ไปกับการใช้ DCIM และซอฟต์แวร์เพื่อคาดการณ์และตรวจสอบการทำงานของระบบรวมถึงประสิทธิภาพของทรัพยากร

ดาวน์โหลดรายงานได้ฟรี เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
ดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มของ 451 Research ได้ที่ Multi-tenant data centers and sustainability: ambitions and reality.

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มุ่งมั่นในการนำแนวทางแบบบรูณาการมาช่วยสร้างความยั่งยืนครอบคลุมการดำเนินงาน ศักยภาพ การตัดสินใจ และกลยุทธ์ของเรา คลิก ที่นี่ เพื่อศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนในการดำเนินงาน


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แต่งตั้ง สเตฟาน นูสส์ เป็นประธานกลุ่มคลัสเตอร์คนใหม่ ดูแลประเทศไทย ลาว และเมียนมา

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชัน ประกาศแต่งตั้งนายสเตฟาน นูสส์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มคลัสเตอร์ คนใหม่ ของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ดูแลประเทศไทย ลาว และเมียนมา โดยสเตฟาน พร้อมนำพาประสบการณ์กว่า 17 ปีในสายพลังงาน วิศวกรรมและเทคโนโลยี มาช่วยนำพากลุ่มคลัสเตอร์ ที่ประกอบไปด้วยพนักงานกว่า 1,600 คน ไปสู่การดำเนินงานที่เป็นเลิศ ด้วยความรู้ ความเชี่ยวชาญทั้งในเรื่องของการบริหารจัดการ การวางกลยุทธ์ การขายและการตลาด

สเตฟาน เป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับในการดำเนินธุรกิจระดับนานาชาติที่มุ่งเน้นเรื่องนวัตกรรมและการคิดในเชิงกลยุทธ์ และกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อนำไปสู่สิ่งที่ดียิ่งขึ้น โดยร่วมงานกับ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นเวลา 13 ปี ในบทบาทผู้นำที่หลากหลาย ทั้งบริหารจัดการ วางกลยุทธ์ ดูแลฝ่ายขายและการตลาดให้กับประเทศฝรั่งเศส ตะวันออกกลาง และเอเชีย

เขาเริ่มต้นสายอาชีพด้านพลังงาน วิศวกรรม และเทคโนโลยี ในปี พ.ศ. 2546 ด้วยการทำงานให้กับกลุ่มบริษัท Alten Group และ Airwell Group นับเป็นการสั่งสมประสบการณ์ครั้งสำคัญก่อนที่จะเข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่ บริษัท Gunsan Electric บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสวิตช์และอุปกรณ์ไฟฟ้าของประเทศตุรกี ซึ่งปัจจุบันอยู่ในเครือของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค

โดยในปี พ.ศ. 2561 สเตฟาน ดำรงตำแหน่งรองประธาน ฝ่ายการตลาดและการพัฒนาธุรกิจ ดูแลธุรกิจของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริคในโซนเอเชียตะวันออกและญี่ปุ่น ก่อนขึ้นแท่นรับตำแหน่ง ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ดูแลประเทศไทย ลาว และเมียนมา

สเตฟาน จบการศึกษาปริญญาโทสาขาวิศวกรรมศาสตร์ จาก INSA Engineering School และปริญญาโทสาขา MSc Marketing จาก HEC School of Management ประเทศฝรั่งเศส


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

APC NetShelter™ WX ตู้แร็คแบบติดผนัง พร้อมโปรแรง!!! จัดเซ็ตคู่ APC Easy UPS สุดคุ้ม

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) เปิดตัว ตู้แร็คติดผนัง APC NetShelter WX สำหรับจัดเก็บอุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์ มาพร้อมฝาหน้าแบบรวงผึ้ง แข็งแกร่งทนทาน โปร่ง ช่วยในการระบายความร้อนได้ดี รูปทรงกะทัดรัด เรียบสวย ยึดติดกับผนังได้ง่าย รองรับอุปกรณ์เครือข่ายต่างๆ อาทิ สวิตช์ ปลั๊ก เร้าเตอร์ยูพีเอส มีให้เลือกหลายขนาด 6U, 9U, 12U ทุกรุ่นรองรับน้ำหนักได้สูงถึง 91 กิโลกรัม เหมาะสำหรับสำนักงานทั่วไป สำนักงานสาขา ที่มีพื้นที่จำกัด
พิเศษซื้อเป็นเซต Edge WallBox  ซึ่งประกอบไปด้วย APC NetShelter WX 6U หรือ 9U พร้อมกับเครื่องสำรองไฟ ตั้งแต่วันนี้ถึง 18 ธันวาคม 2563 รับโปรโมชั่นพิเศษที่จะช่วยประหยัดงบประมาณได้กว่า 50%
         • APC NetShelter WX 6U กับ APC Easy UPS รุ่น BV 1000VA ราคาพิเศษ 5,200 บาท จาก 11,350 บาท
• APC NetShelter WX 9U กับ APC Easy UPS รุ่น BV 1000VA ราคาพิเศษ 7,000 บาท จาก 13,600 บาท
พร้อมรับสิทธิพิเศษเพิ่มอีก 1 ต่อ สามารถซื้อปลั๊กราง APC Easy PDU รุ่น EPDU1016B ในราคาพิเศษเพียง 1,200 บาท จาก 2,030 บาท หรือ Cisco Network Switch รุ่นที่ร่วมรายการในราคาพิเศษ!!!
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Edge WallBox : https://bit.ly/3cfhOC7
Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จัดกิจกรรมเอาใจคู่ค้า แจกจริง! “รักร้าน ลุ้นล้าน” ของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท

สิ้นสุดไปอย่างสวยงาม เมื่อเร็วๆ นี้กับ กิจกรรมสุดอลังฯ เอาใจร้านไฟฟ้า “รักร้าน ลุ้นล้าน” มอบความรัก 2 ต่อ จากชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) รวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท

ต่อแรกจัดหนักไม่ต้องลุ้น เพียงซื้อผลิตภัณฑ์กลุ่มสวิตช์-เต้ารับ ผลิตภัณฑ์กลุ่มสแควร์ดี ผลิตภัณฑ์กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วไป และมียอดซื้อสะสมตรงตามเงื่อนไข รับทันที เครื่องฟอกอากาศ เสี่ยวหมี่ หรือ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซี-ไลค์  (ของสมนาคุณตามกติกายอดการสั่งซื้อ)

ต่อที่สองลุ้นรางวัลใหญ่ จัดทัพมาทั้งรถกระบะ โตโยต้า รีโว 1 รางวัล  รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ 10 รางวัล  ทองคำหนัก 1 บาท อีก 15 รางวัล มูลค่ากว่า 1,500,000 บาท

งานนี้นำทีมนำโชคโดย นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย ประธานบริษัท ดูแลกลุ่มคลัสเตอร์ ประเทศไทย ลาวและเมียนมาร์ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค โดยได้มีการมอบของรางวัลและของสมนาคุณไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยแคมเปญนี้เป็นหนึ่งในเจตนารมณ์ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่จะเติบโตไปด้วยกันกับร้านไฟฟ้า ในการฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน และเพื่อเป็นการขอบคุณร้านไฟฟ้าที่ให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์มาตรฐานระดับโลกจากชไนเดอร์ อิเล็คทริค อีกด้วย


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เตรียมจัดสัมมนาออนไลน์ การปรับตัวสู่การเปลี่ยนแปลงด้วยไอทีโซลูชั่น

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ยกระดับงานประชุมและการจัดแสดงด้านนวัตกรรมด้านไอที สู่รูปแบบเวอร์ชวลอีเว้นท์ (Virtual Event) และเวอร์ชวลทัวร์ (Virtual Tour) ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ยังคงความยิ่งใหญ่ในการเป็นผู้นำด้านความคิด และนวัตกรรม ในงาน Innovation Day: Resilient Digital Transformation ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมได้ทุกที่ แค่มีคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต งานนี้ระดมผู้เชี่ยวชาญระดับแม่ทัพจากชไนเดอร์ อิเล็คทริค ตลอดจนผู้มีอิทธิพลทางความคิดในโลกไอที และอุตสาหกรรม พร้อมด้วยผู้นำจากหลายแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากทั่วทุกมุมโลก อาทิ Canalys, IDC, Stratus Technologies, AVEVA, Dell Technologies, HP Enterprise, STL Partners ฯลฯ เพื่อร่วมกันแชร์มุมมองเชิงลึกและแนวคิดใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม สามารถใช้ไอทีในการ ‘ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อความสำเร็จในยุคดิจิทัล’  ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบคลาวด์ ตลอดจนบทบาทของ เอดจ์ คอมพิวติ้งในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล รวมไปถึงเคล็ดไม่ลับการเชื่อมระหว่างระบบไอทีระบบเก่าและระบบใหม่ หรือ Hybrid IT ให้มีประสิทธิภาพและความเสถียรสูงสุด อย่างยั่งยืนอีกด้วย

นอกจากนี้ยังจะได้พบกับมุมมองใหม่ๆ ในด้าน Industry 4.0 กับคลื่นลูกใหม่ของระบบอัตโนมัติที่ต้องการการเชื่อมต่อระหว่าง IT และ OT ในยุค 5G จากผู้เชี่ยวชาญของชไนเดอร์ อิเล็คทริค และผู้บริหารด้านเทคโนโลยีจากบริษัทชั้นนำ พร้อมกับกลวิธีการยกระดับประสิทธิภาพของโรงพยาบาลในปัจจุบันอีกด้วย

งาน Innovation Day: Resilient Digital Transformation ในประเทศไทย มีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2020 เวลา 09.00 – 15.30 น. ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนได้วันนี้ https://seinnovationday-th.vfairs.com/

#InnovationDay


Exit mobile version