Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

PouchNATION เปิดตัวสายรัดข้อมือตรวจวัดอุณหภูมิสำหรับภาคธุรกิจและครัวเรือนเพื่อช่วยบรรเทาการระบาดของ COVID-19

ประเทศสิงคโปร์ (24 มิถุนายน 2563) – ในฐานะผู้นำเทคโนโลยีด้านการบริหารจัดการมวลชน ระบบชำระเงินแบบไร้การสัมผัส และการวิเคราะห์พฤติกรรม PouchNATION ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้น ซึ่งเกิดจากการต่อยอดเพิ่มเติมจากผลิตภัณฑ์สำหรับสวมใส่ดั้งเดิมของบริษัท PouchPASS เป็นนวัตกรรมใหม่ของสายสายรัดข้อมือในการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายอย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้เทคโนโลยีบลูทูธ (Bluetooth) เพื่อบันทึกและซิงค์ข้อมูลอุณหภูมิของร่างกายผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือหรือผ่านแดชบอร์ดเมื่อมีจำนวนผู้ใช้งานจำนวนมาก ฟีเจอร์สำคัญของ PouchPASS คือสามารถใช้เครื่องมือในการติดตามตัว (Contact tracing) และคัดกรองระยะเริ่มต้นของผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งภาคธุรกิจและครัวเรือนสามารถตรวจสุขภาพด้วยตนเองได้ เพื่อช่วยบรรเทาและลดการแพร่กระจายของ COVID-19

สายรัดข้อมือ PouchPASS และแอปพลิเคชัน
อิลยา คราฟซอพ ซีอีโอ PouchNATION กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเราสร้างธุรกิจเพื่อเป็นผู้นำด้านการใช้เทคโนโลยีสายรัดข้อมือในการบริหารจัดการมวลชนสำหรับงานอีเวนต์และสถานที่จัดงานและให้บริการด้านต่างๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในทุกๆ ปีเราดำเนินงานอีเวนต์หลายร้อยงาน โดยใช้เทคโนโลยีของเราในการบริหารจัดการผู้เข้าร่วมงานหลายล้านคนทั่วทั้งภูมิภาค ซึ่งให้ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคเชิงลึก ระบบจำหน่ายตั๋วและการบริหารจัดการมวลชน การระบาดของไวรัส COVID-19 นับเป็นเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตการทำงานของเรา เมื่อเราเข้าใจถึงความรุนแรงของสถานการณ์ เราจึงตัดสินใจปรับเปลี่ยนความรู้และทรัพยากรของเราไปทิศทางที่จะเป็นการปกป้องชีวิตและสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้นสำหรับอนาคต

คูณ แวน กีน ผู้อำนวยการหน่วยปฏิบัติการผลิตภัณฑ์ใหม่ กล่าวว่า PouchNATION เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคมาโดยตลอด และการใช้ RFID เป็นการเปิดใช้งานระบบชำระเงินแบบไร้เงินสด การระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ (Geolocation) การจำหน่ายตั๋ว การพัฒนาระบบ POS ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเทคโนโลยีดั้งเดิมของเราซึ่งสามารถรายงานข้อมูลการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างละเอียด สำหรับคนที่รู้จักเราบวกกับสปิริต “เราทำได้” ก็คงไม่แปลกใจที่เราสามารถนำความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ การปฏิบัติได้งานจริงและข้อมูลเชิงลึก พร้อมด้วยประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการมวลชน งานอีเวนต์ สถานที่และการทำงานร่วมกับผู้จัดงานในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มาพัฒนาให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของเรา

กรณีศึกษาขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในประเทศจีนและยุโรประบุว่าอาการบ่งชี้หลักของผู้ป่วย COVID-19 คือ มีอาการไข้ถึง 89.1% ดังนั้นการเพิ่มเครื่องมือในการวัดอุณหภูมิร่างกายเข้าไปในสายรัดข้อมือของเราจึงเป็นการเพิ่มความมั่นใจในอีกระดับให้กับผู้ร่วมงานและผู้จัดงานเมื่อกิจกรรมและธุรกิจกลับมาเปิดตัวอีกครั้ง เทคโนโลยีนี้สามารถใช้งานได้อย่างไม่จำกัด อาทิ ในการกีฬา ภายในอาคารสถานที่ กิจกรรม โรงงาน โรงเรียน โรงพยาบาล เรือนจำ ระบบขนส่งสาธารณะ นอกจากนี้เราต้องการให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงการใช้งานผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ ดังนั้นการกำหนดราคาจึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเราในการเปิดตัว PouchPASS

ฟีเจอร์บน PocuhPASS แอปพลิเคชั่น
สร้างด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงแต่ง่ายในการใช้งาน


แอปพลิเคชัน PouchPASS ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบอุณหภูมิของร่างกายได้อย่างต่อเนื่องในระยะไกลโดยไม่ต้องมีการสัมผัสระหว่างบุคคล ข้อมูลอุณหภูมิร่างกายที่วัดได้จากเซ็นเซอร์บนสายรัดข้อมือจะถูกซิงค์โดยอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ผ่านเทคโนโลยีบลูทูธที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือและเครือข่ายบลูทูธในพื้นที่ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกจัดเก็บบนคลาวด์ซึ่งสามารถเรียกดูข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน PouchPASS บนมือถือและแดชบอร์ดได้ เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ที่หลากหลายตั้งแต่การใช้งานส่วนบุคคล ไปจนถึงพื้นที่ขนาดใหญ่ อาทิ โรงเรียน โรงงาน ห้างสรรพสินค้า สนามบิน สถาบันและองค์กรต่างๆ ที่ต้องการตรวจสอบความปลอดภัยด้านสุขภาพของพนักงานและเพื่อให้การเปิดธุรกิจเปิดดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง และการใช้ PouchPASS จะช่วยให้องค์กรลดชั่วโมงการทำงานในการวัดและบันทึกอุณหภูมิในหลายๆครั้งต่อวันซึ่งเป็นมาตรฐานที่รัฐบาลหลายแห่งตั้งข้อกำหนดไว้

ฟีเจอร์บน PocuhPASS แดชบอร์ด

เต็มเปี่ยมด้วยข้อมูลแต่มีความเป็นส่วนตัว 100%

ผู้ใช้งานสามรถเปิดใช้งานบริการพิกัดข้อมูลสถานที่ (Location service) บนโทรศัพท์มือถือเพื่อแชร์ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ (Geolocation) ให้กับสมาชิกครอบครัวและเพื่อนร่วมงานได้ และเมื่อมีการเชื่อมต่อระหว่างสายรัดข้อมือ แอปพลิเคชันและเครือข่ายบลูทูธในพื้นที่ ข้อมูลอุณหภูมิจะถูกจัดเก็บผ่านการเชื่อมต่อทั้งหมดและสามารถดูข้อมูลผ่านออนไลน์แดชบอร์ด นอกจากนี้ผู้ใช้งานจะเป็นผู้กำหนดเองว่าข้อมูลไหนที่ต้องการจะแชร์ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้ตลอดเวลา

คูณ แวน กีน กล่าวเพิ่มเติมว่า มีข้อกังวลเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลจากการใช้งานระบบต่างๆ จำนวนมากในตลาด เช่น ระบบจดจำใบหน้า การเช็คอินตำแหน่งด้วย QR แอปพลิเคชันใช้ติดตามตัว ฯลฯ PouchPASS จึงให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของคุณ และคุณเท่านั้นที่จะเป็นคนควบคุมและกำหนดว่าข้อมูลส่วนบุคคลส่วนใดที่คุณอยากจะแชร์

คงทนและทนทานด้วยราคาที่คุ้มค่า
ด้วยอัลกอริทึมที่มีความอัจฉริยะในการเปรียบเทียบค่าที่ได้จากเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิกับค่ามาตรฐาน จึงทำให้ผลการวัดอุณหภูมิมีความแม่นยำสูง ซึ่งการให้ข้อมูลการวัดอุณหภูมิที่มีความน่าเชื่อถือนั้นคือหัวใจสำคัญในระบบของแอปพลิเคชัน PouchPASS
ปลอกของสายรัดข้อมือผลิตจากซิลิโคนและโพลีคาร์บอเนต (PC) ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ทางผิวหนัง และยังมีผิวสัมผัสที่นุ่มลื่น มีความยืนหยุ่นจึงทำให้รู้สึกสบายเมื่อสวมใส่ และส่วนประกอบอีกหนึ่งชิ้นที่สามารถถอดออกจากสายได้คือ บลูทูธบีคอน (BLE 5.0) ที่มาพร้อมกับเซ็นซอร์วัดอุณหภูมิแบบดิจิทัลซึ่งมีการรับรองตามมาตรฐานอุปกรณ์การแพทย์และมาตรฐาน CE

สายรัดข้อมือ PouchBAND และสายรัดข้อมือ PouchBAND พลัส
สายรัดข้อมือ PouchBAND ทั้ง 2 รุ่นมีทั้งหมด 3 ขนาด คือ ขนาดเล็ก (11-16 ซม.) ขนาดกลาง (15-20 ซม.) และขนาดใหญ่ (18-23 ซม.) ลูกค้าสามารถเลือกสีที่หลากหลายจากสต็อกของเราได้เมื่อสั่งซื้อผลิตภัณฑ์จำนวนต่ำกว่า 1,000 ชิ้น แต่หากสั่งผลิตจำนวนมากกว่า 1,000 ชิ้นลูกค้าจะสามารถกำหนดสีและออกแบบการพิมพ์โลโก้ได้ตามความต้องการ นอกจากนี้สายรัดข้อมือ PouchBAND มีคุณสมบัติในการป้องกันฝุ่น 100% และป้องกันการซึมเข้าของน้ำได้ จึงทำให้สามารถสวมใส่ขณะล้างจานหรือแม้กระทั้งขณะอาบน้ำ อีกทั้งยังลดความยุ่งยากในการชาร์จไฟด้วยเพราะสายรัดข้อมือ PouchBAND ใช้พลังงานจากถ่านกระดุมลิเธียมรุ่น CR2032 ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนเองได้และสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องนานหลายเดือน

บรรจุภัณฑ์ของ PouchPASS
สายรัดข้อมือ PouchBAND รุ่นพลัสจะมี RFID ไมโครชิปซึ่งเป็นการรวมคุณลักษณะ NFC ฟีเจอร์ดั้งเดิมของ PouchNATION ใช้งานในส่วนของการควบคุมการเข้าออก การบันทึกเข้างานของผู้ร่วมกิจกรรม ระบบชำระเงินแบบไร้เงินสด การทำงานเชื่อมต่อในการเปิดปิดล๊อคของประตู และเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ โดยแนะนำให้อัพเกรดการใช้งานเป็นรุ่นนี้สำหรับการจัดกิจกรรม งานอีเวนต์ โรงเรียน และองค์กรที่มีการใช้งานร่วมกันระหว่างการเข้าออก การซื้ออาหาร และการจำหน่ายตั๋วของงานอีเวนต์

ราคาแพ๊คเกจสมาชิกใช้งานสายรัดข้อมือ PouchBAND และสายรัดข้อมือ PouchBAND พลัส มีราคาเพียงไม่กี่ดอลลาร์ต่อเดือน หากท่านสนใจที่จะเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการใช้งานโซลูชั่นแนวหน้านี้ โปรดกรอกอีเมล์ของท่านบนเว็บไซต์ www.pouchpass.com เพื่อดูส่วนลดราคาพิเศษซึ่งมีจำนวนจำกัดเฉพาะผู้ซื้อกลุ่มแรกเท่านั้น

###################

PouchNATION เป็นบริษัทชั้นนำผู้ให้บริการเทคโนโลยีด้านการบริหารจัดการมวลชน ระบบชำระเงินแบบไร้การสัมผัส และการวิเคราะห์พฤติกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีเครือข่ายสำนักงานอยู่ใน 6 ประเทศทั่วภูมิภาค PouchNATION ประสบความสำเร็จในการใช้งานโซลูชั่นด้านการจำหน่ายตั๋ว การลงทะเบียน การควบคุมการเข้าออก กิจกรรมของแบรนด์ สำหรับงานอีเวนต์และสถานที่ที่มีคนจำนวนมากในธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่การกีฬา งานดนตรีไปจนถึงธุรกิจด้านการบริการ การจัดประชุมสัมมนา และการจัดนิทรรศการ


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

วาปีปทุม เจ๋งผุดนวัตกรรม “ตู้ต้านโควิด”

สส.กำชับเครือข่ายตำบลสุขภาวะเข้มมาตรการชุมชนป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ทต.วาปีปทุม เจ๋งผุดนวัตกรรม “ตู้ต้านโควิด” ฆ่าเชื้อ ลดภาระหมอ-พยาบาล ด้านทต.ไทรย้อย ห่วงใย อสม.จัดซื้อเครื่องวัดอุณภูมิ-เจลแอลกกอฮอล์ อุปกรณ์ป้องกันตัวก่อนปฏิบัติงาน

น.ส.ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส.สนับสนุนท้องถิ่นดำเนินโครงการเฝ้าระวังโรคติดต่อและโรคอุบัติใหม่ โดยจัดสรรงบประมาณให้แก่ตำบลสุขภาวะ 54 แห่ง และเครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)/คณะกรรมการพัฒนาตำบลอีก 424 ตำบล รวม 478 ตำบลเพื่อทำแนวทางเฝ้าระวัง ควบคุม และกำหนดมาตรการชุมชนป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด–19 พร้อมกำชับให้ภาคีเครือข่ายตำบลสุขภาวะทั้ง 2,979 ตำบล เข้มงวดมาตรการชุมชนด้วย ซึ่งหลายพื้นที่ตื่นตัวป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเทศบาลตำบล(ทต.) วาปีปทุม อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม พัฒนานวัตกรรม “ตู้ต้านโควิด” เป็นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมาช่วยแก้ปัญหาสังคม โดยใช้น้ำอิเล็กโทรไลซ์ ค่า PH 5.5-6.5 ชนิดกรดอ่อนใกล้เคียงกับสภาวะผิวหนังคน ไม่ทำให้กัดกร่อน ซึ่งเป็นกรดไฮโปคลอรัส ความเข้มข้น 20-30 PPm มีประสิทธิภาพฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ในกลุ่มแบคทีเรียและไวรัสได้มากกว่า 99% ทดแทนแอลกอฮอล์ ซึ่งเทศบาลได้ทำประดิษฐ์ตู้ต้านโควิค-19 ครั้งแรกจำนวน 3 ตู้

       “ทต.วาปีปทุม ให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการปฏิบัติตัวทั้งกลุ่มเสี่ยงและไม่เสี่ยงอย่างเข้มข้น และใช้ประโยชน์จากข้อมูลตำบล (TCNAP) ติดตั้ง “ตู้ต้านโควิด” ไว้ที่สถานนีขนส่ง 1 จุด ตลาดสด 1 จุด เทศบาล 1 จุด เพราะเป็นจุดเสี่ยงที่มีผู้คนเข้าออก ยากต่อการควบคุมและคัดกรอง สำหรับตู้ต้านโควิด เป็นการคัดกรองเบื้องต้น ช่วยลดภาระการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ มีการกำหนดจุดให้ผู้เดินทางมีระยะห่างทางสังคม ยืนตามจุดที่กำหนดห่างกัน 1 เมตร ล้างมือที่อ่างล้างมือก่อน เช็ดมือให้แห้ง ก่อนเข้าตู้ต้านโควิด -19 เพื่อฆ่าเชื้อโรค 10 วินาที/คน นอกจากนี้ยังทำอ่างล้างมือเคลื่อนที่ โดยใช้วัสดุอุปกรณ์จากขยะรีไซเคิลโดยนำมาดัดแปลงเป็นอ่างล้างมือเอนกประสงค์ เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงล้างมือทำความสะอาดฆ่าเชื้อคลอบคลุมทุกพื้นที่”น.ส.ดวงพร กล่าว

        นายสมเกียรติ เกรียงไกรอนันต์ นายกเทศมนตรีตำบลไทรย้อย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ศูนย์ประสานงานลดโลกร้อน (ศปง.) ภายใต้การสนับสนุนของ สสส. กล่าวว่า ทางเทศบาลฯ ได้ประสานความร่วมมือกันทั้ง 4 องค์กรหลัก ทั้งเทศบาล กำนันผู้ใหญ่บ้าน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) และภาคประชาชน อย่างใกล้ชิด มีการประชุมรายงานสถานการณ์เป็นระยะ จนถึงวันนี้สถานการณ์ในพื้นที่ยังปกติ ประชาชนไม่ตื่นตระหนกเพราะทุกคนดูแลตัวเองเป็นอย่างดี มีการใช้เสียงตามสายไปยัง 17 หมู่บ้าน สร้างความรู้ความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่เข้าสู่พื้นที่ต้องผ่านจุดคัดกรองที่ รพ.สต.ทั้ง 2 แห่ง ซึ่งกลไกที่ช่วยให้เทศบาลตำบลไทรย้อยทำงานอย่างมั่นใจคือมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.)ที่เข้มแข็ง คอยออกตรวจ คัดกรองตามชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ และต่างประเทศ

        “ขณะนี้เทศบาลเร่งจัดซื้อเครื่องวัดอุณหภูมิแบบเลเซอร์ด้วยงบของเทศบาลเองให้ทั้ง 17 หมู่บ้าน พร้อมมอบเจลแอลกอฮอล์ จัดหาอุปกรณ์ทำหน้ากาก เพื่อให้ทีม อสม.ทำงานอย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ” นายสมเกียรติกล่าว


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ใส่หน้ากากอย่างไร ให้ถูกหลักอนามัย และปลอดภัยจากโควิด-19

ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกเข้าสู่ภาวะวิกฤตจากการติดเชื้อโควิด-19( COVID -19 ) ถือเป็นโรคติดต่ออันตราย ซึ่งประชาชนทุกคนต่างต้องระมัดระวังตนเองเป็นอย่างมาก เพื่อป้องกันมิให้ได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ทั้งทางเดินหายใจ หรือ จากการสัมผัสถูกสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย การป้องกันตนเองประกอบไปด้วยการล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจล และการใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งในเวลานี้ประชาชนต่างดูแลตนเองอย่างระมัดระวัง แต่หากการป้องกันตัวเองแบบผิดวิธี นอกจากจะไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อได้แล้ว ยังส่งผลให้เกิดผลเสียข้างเคียงได้อีก บทความจากสมาคมโรคผิวหนังแห่งประเทศไทยนี้ จะแนะนำวิธีการใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี โดยไม่ให้เกิดผลข้างต่อผิวหนัง

หลักการใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีคำนึงดังนี้

1.ความสะอาดของหน้ากากอนามัย  เนื่องจากหน้ากากอนามัยมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้เชื้อจากผู้ป่วยติดต่อสู่ผู้อื่น และยังป้องกันมิให้มีการรับเชื้อจากผู้ป่วยเข้าสู่ร่างกายเราเช่นกัน ดังนั้น หน้ากากอนามัยที่ดีจะต้องมีความสะอาด ได้มาตรฐาน สามารถป้องกันเชื้อโรคจากสารคัดหลั่งจากผู้ป่วยได้ การซื้อหน้ากากอนามัยจะต้องหาซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ถูกหลักการป้องกันโรค  และเมื่อมีการสัมผัสถูกสารคัดหลั่งจากผู้ป่วยแล้ว ไม่ควรนำกลับมาใช้อีก ควรเปลี่ยนเป็นอันใหม่ที่สะอาดเพื่อความปลอดภัย ทุกครั้งที่ทิ้งหน้ากากอนามัย ควรทิ้งในอุปกรณ์ที่ปิดมิดชิด เพื่อป้องกันผู้อื่นมาสัมผัสและได้รับเชื้อนั้นไป  การซักหน้ากากอนามัย ควรทราบว่าหน้ากากชนิดไหน ซักได้ หรือ ซักไม่ได้ เช่น หน้ากากที่ตัดเย็บมาจากผ้าสามารถนำมาซักได้ ควรใส่ วันต่อวัน ซักและตากแดดทุกวัน ต่างจากหน้ากากอนามัยที่เป็นหน้ากากทางการแพทย์ (Surgical mask ) การซักจะทำให้ความสามารถในการป้องกันเชื้อ ลดลงอย่างมาก ส่วนหน้ากากทางการแพทย์ชนิดอื่นเช่น N95 ยังแนะนำให้ใช้ในกรณีป้องกันเชื้อที่ติดต่อทางอากาศเท่านั้น ซึ่งจากข้อมูลขณะนี้โควิด-19 ยังเป็นเชื้อที่ติดต่อกันทางสารคัดหลั่งซึ่งหน้ากากอนามัยสามารถป้องกันได้

2.ใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง : การใส่หน้าการจำเป็นต้องใส่ให้ถูกวิธี ถูกด้าน ถูกฝั่ง ดังรูปที่แสดง
หน้ากากอนามัยต้องปิดคลุมทั้งจมูกและปาก ครอบคลุมตั้งแต่สันจมูกคนถึงคาง เพื่อป้องกันสารคัดหลั่งติดสู่ผู้อื่น เวลาสวมหน้ากากสัมผัสแต่หูเกี่ยวเท่านั้น พยายามไม่สัมผัสถูกด้านในที่ติดกับจมูกและปาก นอกจากจะต้องใส่หน้ากากอนามัย ให้ถูกต้องแล้วยังต้องเลือกขนาดหน้ากากให้ถูกกับขนาดของหน้าผู้ใส่  การใส่หน้ากากอนามัยจะต้องไม่แน่นอึดอัดจนเกินไป  จนทำให้หายใจไม่สะดวกหรือเกิดรอยกดทับบนใบหน้า และจะต้องไม่หลวมจนหลุดออกจากจมูกทำให้การป้องกันไม่มีประสิทธิภาพ การใช้มือจับหน้ากากหรือขยับหน้ากากบนหน้าบ่อย ๆ ไม่เป็นการส่งผลดีต่อผู้ใส่ และยังทำให้ง่ายต่อการปนเปื้อนของเชื้อเข้าสู่ผู้ใส่เอง

3.ระยะเวลาของการใส่หน้ากาก ปกติแล้วเราไม่สามารถใส่หน้ากากอนามัยได้ตลอด 24 ชั่วโมง การใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน ๆ อาจก่อให้เกิดอาการผื่นแพ้คัน จากการสัมผัสถูกเหงื่อ คราบสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ภายใต้หน้ากากอนามัยหรือผิวหนังที่ต้องอยู่ภายใต้ความร้อน ความอับชื้น อาจก่อให้เกิดสิวหรือการติดเชื้อของผิวหนังบริเวณที่ใส่หน้ากาก ดังนั้นหากไม่จำเป็นสมควรใส่หน้ากากอนามัยเฉพาะในช่วงเวลาที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเท่านั้น เช่น การเข้าใกล้ผู้ที่ติดเชื้อ หรือ เข้าไปในที่ชุมชนแออัด หรือที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก การล้างหน้าหรือเช็ดทำความสะอาดบริเวณที่สัมผัสหน้ากากเพื่อให้ผิวหนังสะอาดอยู่เสมอ อาจไม่ใช่ทางแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง เพราะการสัมผัสถูกน้ำ หรือ น้ำยาทำความสะอาดบ่อย ๆอาจเกิดผลเสียและระคายเคืองต่อผิวหนังบริเวณนั้นได้

ทางสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย มีความเป็นห่วงประชาชนที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งยังคงต้องเผชิญกันต่อไปอีก  การรับมือกับภาวะวิกฤตครั้งนี้ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนไทยและทั่วโลกทุกคน การป้องกันตัวเองอย่างมีสติจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก

โดย พญ.สุพิชญา ไทยวัฒน์


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เรียนรู้สู้โควิด

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีความเป็นห่วงผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิดไปทั่วทุกภูมิภาคของโลกในเวลาอันสั้น ด้วยความเข้มแข็งของพลังภาครัฐและพลังภาคประชาชนในเกือบตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ประเทศไทยสามารถชะลอการระบาดของเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีการสูญเสียน้อย เมื่อเทียบกับอีกหลายประเทศที่มีทรัพยากรสุขภาพสมบูรณ์กว่าเราเป็นอันมาก แม้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะมียอดผู้ป่วยคนไทยรายใหม่เพิ่มขึ้นเร็ว จนหลายคนตระหนกว่าหน่วยงานการแพทย์ของภาครัฐและเอกชนจะเอาอยู่หรือไม่ ขอเรียนให้สบายใจ ณ ที่นี้ว่า ในนามของสมาชิกแห่งวิชาชีพนี้ซึ่งเปรียบเสมือนสถาบันหนึ่งที่ยืนเคียงคู่กับสังคมไทยมานาน นับแต่ก่อกำเนิดการแพทย์แผนใหม่ในแผ่นดินนี้โดยเจ้าฟ้ามหิดล เราจะไม่ยอมให้ศัตรูหน้าไหนมาคุกคามสุขภาพคนไทยในความรับผิดชอบของพวกเราได้โดยง่าย

เป็นธรรมดาของการออกศึกที่เราหวังผู้นำที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวและอาวุธที่มีประสิทธิภาพ เรายังต้องการกองหลังและกองหนุนที่มีวินัยในการควบคุมหมู่คณะ ไม่ให้เสียขวัญและไม่ให้เกิดช่องโหว่สำหรับศัตรูเข้ามาโจมตีได้ง่าย คำแนะนำสำหรับประชาชนเพื่อเรียนรู้จะอยู่กับโควิดและพิชิตมันในที่สุด มีดังนี้

• เชื้อนี้ไม่ชอบอากาศที่ร้อนและแสงแดด ถ้าเราสามารถยันมันไว้ได้ตลอดหน้าร้อน เมื่อเข้าฤดูฝนโอกาสที่โรคระบาดหนักจะลดลง

• ประชาชนต้องปรับกิจวัตรประจำวันให้ใช้บ้านและที่พักเป็นตำแหน่งอยู่หลัก ลดการออกนอกที่พัก ไม่ว่าจะเป็นการงาน การเรียน การสังสรรค์ หรือการชุมนุมของผู้คนทุกประเภท

• รักษาสุขภาพให้แข็งแรง กินอาหารถูกสุขลักษณะ ออกกำลังกายและนอนหลับให้เพียงพอ ล้างมือบ่อยๆ ทำจิตใจให้ผ่องแผ้วคิดดีทำดี ถ้าไม่สบายโดยเฉพาะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ ไข้ ไอ เจ็บคอ หรือมีน้ำมูก ให้โทรศัพท์ปรึกษาโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อพิจารณาไปทำการตรวจรักษา และเมื่อถึงโรงพยาบาลให้ข้อมูลโอกาสเสี่ยงติดเชื้อโควิดของท่านโดยละเอียด

• สอดส่องดูแลสมาชิกครอบครัวหรือสมาชิกร่วมที่พัก ที่มีปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อโควิดแล้วอาการรุนแรงง่าย ได้แก่ โรคปอด โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต ผู้สูงอายุ คนที่อ้วนมาก และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันผิดปกติ หากเจ็บป่วยโดยเฉพาะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ให้รีบปรึกษาแพทย์

• ถ้าจำเป็นต้องออกนอกที่พักไปในที่สาธารณะ จัดเตรียมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า สวมใส่และถอดทิ้งให้ถูกวิธี หลีกเลี่ยงการสัมผัสวัตถุและวัสดุทุกชนิด ถ้าหลีกเลี่ยงการสัมผัสไม่ได้ให้ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลหรือสบู่ทุกครั้ง ไม่สัมผัสถูกต้องตัวผู้อื่น ถ้าเป็นได้พยายามให้อยู่ห่างกันแต่ละคนราว 1 เมตร ไม่ใช้สิ่งของทุกชนิดร่วมกับผู้อื่น และหลีกเลี่ยงสถานที่แออัดและมีระบบระบายอากาศที่ไม่ดี

• ติดตามข่าวสารจากแหล่งต่าง ๆ อย่างมีสติ ไม่ส่งต่อข้อมูลที่ไม่มีแหล่งยืนยันชัดเจน ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของหน่วยงานด้านสุขภาพโดยเคร่งครัด

• ใส่ใจดูแลผู้คนใกล้ตัวหรือเพื่อนบ้าน ที่มีประวัติเสี่ยงหรือมีความเสี่ยงหรือติดเชื้อโควิดแล้วอาการไม่รุนแรงแพทย์อนุญาตให้มาสังเกตอาการต่อที่บ้าน โดยช่วยเหลือเกื้อกูลเท่าที่ทำได้และหลีกเลี่ยงการเลือกปฏิบัติที่ทำให้สังคมรังเกียจ เราจะต้องนำพาสมาชิกในชาติทุกคนให้ผ่านจุดวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกันให้มากที่สุด

• สนับสนุนกิจกรรมจิตอาสาที่ทำได้ในที่พัก เช่น การจัดหาและจัดทำหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากแจกจ่ายให้ประชาชนที่ขาดแคลน สนับสนุนกิจกรรมการจัดเตรียมทรัพยากรสุขภาพของโรงพยาบาล
ผู้ที่แข็งแรงดีต้องช่วยกันไปบริจาคเลือดให้โรงพยาบาลมีใช้เพียงพอ

• ดูแลสุขภาพตัวเองและคนรอบข้างให้ดี หากมีโรคเรื้อรังแต่อาการคงที่ดีให้ติดต่อโรงพยาบาลเพื่อขอรับยาและเลื่อนนัดโดยตัวผู้ป่วยไม่ต้องไปโรงพยาบาล หากเจ็บป่วยเฉียบพลันเล็กน้อยให้รักษาตัวตามคำแนะนำสุขภาพที่หาได้ในสื่อต่าง ๆ หรือโทร.ปรึกษาโรงพยาบาลใกล้บ้านก่อน การไปใช้บริการที่โรงพยาบาลในช่วงนี้ นอกจากเพิ่มความเสี่ยงการรับเชื้อของตัวท่านแล้ว จะทำให้ระบบการรับมือเชื้อโควิดของโรงพยาบาลทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ


 

Exit mobile version