IBM Watson Advertising จะทำงานร่วมกับนักวิจัยจากสถาบันวิจัยไอบีเอ็ม เพื่อทำการศึกษานี้ร่วมกับ Ad Council รวมถึงองค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษาต่างๆ โดยกรอบการศึกษาครอบคลุมถึง
• อัตราการเกิดอคติในโฆษณา– การศึกษาความแพร่หลายและความถี่ของอคติในแคมเปญโฆษณาต่างๆ ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลผลดำเนินการ ตัวอย่างเช่น การใช้ชุดเครื่องมือ AI Fairness 360 ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือ AI แบบโอเพนซอร์สที่พัฒนาโดยไอบีเอ็ม และได้บริจาคให้กับ Linux Foundation เพื่อศึกษาว่ากลุ่มที่ได้รับการสื่อสารแคมเปญในอดีตและแคมเปญปัจจุบัน ถูกกำหนดให้เป็นเป้าหมายของเนื้อหาโฆษณานั้นๆ ได้อย่างไร และมีอคติปรากฎอยู่หรือไม่
• บทบาทของสัญญาณต่อการเกิดอคติ– ความถี่ในการส่งสัญญาณ ซึ่งหมายถึงบริบทที่โฆษณานั้นๆ ได้รับการถ่ายทอด ส่งผลต่ออคติอย่างไร ตัวอย่างเช่น หากข้อความโฆษณาที่ได้รับการพิจารณาว่าไม่มีอคติ แต่ได้รับการส่งผ่านช่องทางดิจิทัลที่มีสัญญาณความเอนเอียงอยู่ โฆษณานั้นอาจถูกมองว่ามีอคติ
• ความสามารถของปัญญาประดิษฐ์อาจทำให้อคติลดลง–เอไอสามารถระบุการมีอคติได้มากแค่ไหน และต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถใช้ประโยชน์จากพลังของเอไอไดอย่างเต็มที่ เพื่อลดการเกิดอคติในงานโฆษณา
ข้อมูลจากโครงการศึกษาวัคซีนโควิด-19 ที่ชื่อ “It’s Up to You” ของ Ad Council จะถูกใช้ในการวิจัยเฟสแรก โดยจะใช้ชุดเครื่องมือ AI Fairness 360 เพื่อตรวจสอบข้อมูลและพิจารณาว่ามีวิธีใดบ้างที่เอไอจะช่วยลดการเลือกปฏิบัติและอคติ
“อคติแบบกลุ่มเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมของเราในวงกว้างมาเนิ่นนานเกินไปแล้ว และสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องศึกษาจุดกำเนิดและผลกระทบต่างๆ เพื่อให้เราสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำสู่ความก้าวหน้ายิ่งขึ้น” ลิซ่า เชอร์แมน ประธานและซีอีโอของ Ad Council กล่าว “Ad Council ภูมิใจที่ได้เป็นพันธมิตรภาคอุตสาหกรรมรายแรก จากอีกหลายๆ องค์กรที่กำลังทำงานร่วมกับไอบีเอ็ม เพื่อช่วยขับเคลื่อนภารกิจการวิจัยที่น่าสนใจนี้”
IBM Watson Advertising มีพันธกิจในการใช้เอไอเป็นตัวเร่งการพัฒนาโซลูชัน รวมถึงปรับปรุงบริการและความน่าเชื่อถือในอีโคซิสเต็มงานโฆษณา โดยต่อยอดจากความเป็นผู้นำของไอบีเอ็มในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วยเอไอ
IBM Watson Advertising วางแผนที่จะเผยแพร่ผลการวิจัยเบื้องต้นและข้อมูลอัพเดทหลังจากที่โครงการได้คืนหน้าไปแล้วในระดับหนึ่ง