Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

มหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 41 ปลื้มยอดขาย 4 วันโกยยอด 3,500 ล้านบาท หลังกำลังซื้อผู้บริโภคตัวจริงยังคงแข็งแกร่ง

มหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 41 ปลื้มยอดขาย 4 วันโกยยอด 3,500 ล้านบาท หลังกำลังซื้อผู้บริโภคตัวจริงยังคงแข็งแกร่ง

มหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 41 ปลื้มยอดขายหลังกำลังซื้อยังคงหนาแน่น ชี้ผู้บริโภคตัวจริงยังแข็งแกร่งดันยอดในงานโตกว่า 10% มูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท มั่นใจตลาดไตรมาส 3-4 ปรับตัวดีขึ้น หลังผลสำรวจพบผู้บริโภคยังต้องการที่อยู่อาศัยในช่วง 1-3 เดือนสูงสุด คาดยอดขายหลังงาน เพิ่มขี้นกว่าเท่าตัว

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล ประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 41 เปิดเผยถึง ความสำเร็จของการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 41 ระหว่าง 12-15 ก.ย.2562 ที่ผ่านมา ณ ห้องรอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Amazing Deals สุดยอดข้อเสนอสำหรับคนอยากมีบ้านและคอนโด” โดยตลอดการจัดงาน 4 วันการจัดงานได้รับผลตอบรับดีตามเป้าหมายที่คาดไว้ โดยมียอดผู้เข้าชมงานใกล้เคียง จากการจัดงานครั้งที่แล้ว ขณะที่ยอดจองซื้อภายในงานมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 10% คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 3,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์ 37% คอนโดมิเนียม 34% บ้านเดี่ยว 20% บ้านแฝด 6% และที่ดินเปล่ารวมถึงอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ อีก 3% ขณะที่ยอดขอสินเชื่อของสถาบันการเงินในช่วงการจัดงานก็มีสูงถึงกว่า 4,000 ล้านบาท

“ตัวเลขคนชมงานและยอดขายภายในงานถือเป็นที่น่าพอใจ ความต้องการที่แท้จริงของที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจากการตอบรับของตลาดแบบนี้น่าจะส่งผลดีโดยรวมต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 3-4 ที่ตลาดน่าจะปรับตัวดีขึ้น”

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล ประธานจัดงานฯ กล่าวเพิ่มเติม จากผลสำรวจของผู้เข้าชมงานครั้งนี้พบว่า อายุของกลุ่มที่เข้าชมงานอยู่ระหว่าง 21-30 ปี มากที่สุดที่ 39% รองลงมาจะมีอายุ 31-40 ปี จำนวน 31% และ 41-50 ปี อีก 16% โดยผู้เข้าชมงานจะมีช่วงรายได้ระหว่าง 30,000 – 50,000 บาท มากที่สุดคิดเป็น 28% รองลงมาจะมีรายได้ระหว่าง 10,000 – 30,000 บาทที่ 22% และ 50,000 – 70,000 บาท จำนวน16% ขณะที่ผู้เข้าชมงานในปีนี้พบว่า ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อจริงโดยกว่า 24% มีความต้องการที่จะซื้อที่อยู่อาศัยในระยะเวลา 1-3 เดือน รองลงมา 23% ต้องการจะซื้อที่อยู่อาศัยในระยะเวลา 1 ปี โดยที่อยู่อาศัยระดับราคา 2 – 2.99 ล้านบาท ยังคงเป็นที่สนใจของผู้เข้าชมงานมากที่สุด 29% รองลงมาเป็นที่อยู่อาศัยระดับราคา 1 – 1.99 ล้านบาท จำนวน 22% และระดับราคา 3-3.99 ล้านบาท จำนวน 18% ขณะที่ประเภทโครงการที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจะเป็นโครงการประเภทคอนโดมิเนียม จำนวน 40% รองลงมาคือโครงการประเภทบ้านเดี่ยวจำนวน 35% และโครงการทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 15%

สำหรับงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 41 จัดโดย 3 สมาคมหลักทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ประกอบไปด้วย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

มิชลินแจกหมวกนิรภัย 2,000 ใบ สานต่อโครงการ “มิชลินรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ใส่หมวกนิรภัย”

โครงการ “มิชลินรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ใส่หมวกนิรภัย” เป็นกิจกรรมเพื่อชุมชนที่บริษัท สยามมิชลิน จำกัด และ FIA (International Automobile Federation) จัดขึ้นเป็นประจำมาเป็นระยะเวลา 5 ปีแล้ว โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยที่ทางบริษัทฯ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 26 ปี ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของโครงการขับขี่ปลอดภัย ใส่หมวกนิรภัยนั้น ก็เพื่อส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนน และสร้างจิตสำนึก เกี่ยวกับการใช้รถ ใช้ถนน อย่างปลอดภัยในหมู่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยในปีนี้มุ่งเป้าไปที่เยาวชน ทั้งในระดับประถมศึกษา และอุดมศึกษา เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความจำเป็นในการใช้รถจักรยานยนต์ในชีวิตประจำวันมาก โดยตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน มิชลินได้มอบหมวกนิรภัยให้กับชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศไปแล้วกว่า 8,000 ใบ และได้ร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน และองค์กรอิสระอย่างมูลนิธิเมาไม่ขับ

ในปีนี้ ทางบริษัทฯ นำโดยนาย เสกสรรค์ ไตรอุโฆษ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามมิชลิน จำกัด เดินทางไปจัดกิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัยให้กับนักเรียนและนักศึกษาจากสถาบันศึกษาต่างๆ ณ โรงเรียนวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม ในวันที่ 5 กันยายน 2562 และมีการมอบหมวกนิรภัยจำนวน 2,000 ใบ ให้กับเยาวชนที่มาร่วมงานอีกด้วย โดยมีแขกผู้มีเกียรติ ให้การสนับสนุน และเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้เป็นจำนวนมาก อาทิ นายธนิศร์ วงศ์ปิยะสถิตย์ ปลัดจังหวัดนครปฐม รศ.น.สพ.ดร. อนุชัย ภิญโญภูมินทร์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกราชยานยนต์สมาคม แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬา นายสุรสิทธิ์ ศิลปะงาม ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ ฯลฯ นอกจากนี้ หลังจากงานเสร็จสิ้นลง ทางบริษัทฯ ยังจะได้รับความร่วมมือจากทางภาคส่วนต่างๆ ในจังหวัดนครปฐม ในการช่วยประสานกับเยาวชนและคนในชุมชนต่อไป เพื่อให้การรณรงค์เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม และส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างยั่งยืน


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

SmartHeart presents Thailand International Pet Variety Exhibition

“SmartHeart presents Thailand International Pet Variety Exhibition ครั้งที่ 9 ตอน Shopaholic”

มหรรมสัตว์เลี้ยงที่เฟี๊ยชที่สุด พร้อมสร้างสีสันและความสุขแบบส่งท้ายปี ด้วยสัตว์นานาชนิดที่ยกขบวนความน่ารักมาเรียกรอยยิ้ม ตื่นตาตื่นใจกับการประกวด และกิจกรรมสุดพิเศษของเหล่าสัตว์เลี้ยง อาทิ สุนัข แมว กระต่าย และผองเพื่อน ประชันความสามารถกันอย่างที่คุณคาดไม่ถึง! ช้อปกันให้เพลินกับสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงมากมายในราคาพิเศษ ที่ยกขบวนกันมาลดราคาแบบ End of Season Sale! ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เวชภัณฑ์ อาหารเสริมสำหรับสัตว์เลี้ยง ขนม แชมพู อุปกรณ์ตัดแต่งขน ที่นอน เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของเล่น รวมไปถึง สินค้าดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง ของสวยงาม จิวเวอรี่ เลอค่า

สำหรับสัตว์เลี้ยงผู้เลอโฉม แพ็คเกจตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยงฟรี และ ที่พักสัตว์เลี้ยงพักได้ ในราคาพิเศษ นอกจากนี้ยังมี มากกว่า 200 ร้านค้าที่มาออกงาน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 8,000 ตารางเมตร

คนรักสัตว์ห้ามพลาด หนึ่งปีมีครั้งเดียว ของแท้ต้องอิมแพ็คจัดเท่านั้น พบกัน วันที่ 3 – 6 ตุลาคม 2562 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ฮอลล์ 7- 8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

กดปุ่มเปิดงานใหญ่แห่งปี “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 41” กว่า 1,000 กว่าโครงการแข่งโปรโมชั่นสุดพิเศษ!!

กดปุ่มเปิดงานใหญ่แห่งปี “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 41”
กว่า 1,000 กว่าโครงการแข่งโปรโมชั่นสุดพิเศษ !!
กระตุ้นเศรษฐกิจ – เพิ่มโอกาสผู้บริโภคซื้อบ้าน – คอนโดฯ ระหว่าง 12-15 ก.ย.นี้ ชั้น 5 สยามพารากอน

เปิดแล้วงานแสดงที่อยู่อาศัยใหญ่แห่งปี “3 สมาคมอสังหาฯ” นำทัพสมาชิก ทั้งรายใหญ่ รายกลาง รายเล็ก ขนผลงานด้านที่อยู่อาศัยของโครงการต่างๆ มากกว่า 1,000 โครงการมาเสนอขายในงานเดียวภายใต้คอนเซ็ปต์ “Amazing Deals” เพื่อให้เรื่องที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องง่าย มาที่เดียวจบ ผู้ที่จองซื้อที่อยู่อาศัยภายในงาน ลุ้นรับฟรี !! 2 ต่อมูลค่ารวมกว่า 1.1 ล้านบาท พร้อมพบข้อเสนอสุดพิเศษ !! ทั้ง “ทำเล – โปรโมชั่น – ไฟแนนซ์เชียล” หวังช่วยเสริมสร้างบรรยากาศในการซื้อขาย เพิ่มโอกาสผู้บริโภคเลือกช็อปบ้าน – คอนโดฯ เพื่อเป็นแรงสนับสนุนสำคัญกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยก่อนเข้าโค้งสุดท้ายปี ระหว่างวันที่ 12 – 15 กันยายน 2562 นี้ ณ รอยัล พารากอน ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

วันนี้ (12 กันยายน 2562 ) ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 41 โดย 3 สมาคม ฯ ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ได้ร่วมกันจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้การจัดงานนี้เป็นกิจกรรมอันสำคัญของวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากมีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอื่นๆ เช่น การออกแบบด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรม การจัดสรร การตกแต่งภายใน การก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้างประเภทต่างๆ สถาบันการเงิน การโฆษณา ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล ประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 41 กล่าวว่า คณะกรรมการของทั้ง 3 สมาคมฯ จึงได้กำหนดนโยบายร่วมกันที่จะส่งเสริมให้มีการพัฒนาปรับปรุงรูปแบบและวิวัฒนาการของโครงการต่างๆ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ในมาตรฐานระดับสากล ซึ่งการจัดงานของ 3 สมาคมฯ เชื่อว่าจะเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศการซื้อขายให้มีความคึกคักและถือเป็นการส่งเสริมให้สมาชิกทั้งรายใหญ่ รายกลาง รายเล็ก ได้มีโอกาสนำผลงานด้านที่อยู่อาศัยของโครงการต่างๆ มากกว่า 1,000 โครงการมาเสนอขายในงานเดียว จากผู้ประกอบการที่ร่วมออกบูธกว่า 100 บูธ เพื่อให้เรื่องที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องง่าย มาที่เดียวจบ ครบทุกที่ ทุกราคา ทุกประเภท ทุกทำเล ตรงกับความต้องการเพื่อให้ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมีโอกาสเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่ต่างกันมากที่สุ

นอกจากนี้ภายในงานมีสถาบันการเงินชั้นนำต่างๆ ให้ความสนใจ และเสนอเงื่อนไขพิเศษด้านการให้สินเชื่อรายย่อยสำหรับผู้ที่จะซื้อที่อยู่อาศัยภายในงานอีกด้วยทางสมาคมฯ ผู้จัดงานยังได้จับมือกับทางธนาคารให้บริการผู้เข้าชมงานสามารถตรวจสอบวงเงินสินเชื่อเบื้องต้นก่อนตัดสินใจจองบ้านและคอนโดฯ ภายในงาน ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกที่อยู่อาศัยที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณที่มี หรือหากต้องการที่จะซื้อบ้านในอนาคตนั้นควรจะวางแผนการออมเงินอย่างไร

“งานมหกรรมบ้านและคอนโดเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นมีความสำคัญไม่ใช่เฉพาะแต่ธุรกิจอสังหาฯ แต่ยังมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยด้วย” นายชูรัชฏ์ กล่าวให้ความเห็น

ในปีนี้งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 41 ได้จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Amazing Deals” …. สุดยอดข้อเสนอสำหรับคนอยากมีบ้านและคอนโดฯ ระหว่างวันที่ 12 – 15 กันยายนนี้ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายในงานจะเป็นการรวบรวมโครงการที่อยู่อาศัย “ ครบทุกที่ – ทุกทำเล – ทุกราคา” รวมกว่า 1,000 โครงการ พร้อมด้วย “BEST PROMOTION” …โปรโมชั่นสุดพิเศษ !! ที่แต่ละโครงการต่างพร้อมกันมานำมาเสนอเฉพาะในงานเท่านั้น ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยระดับคุณภาพ ที่มีโอกาสเลือกจองซื้อบ้านและคอนโดฯ ในทำเลที่ดีที่สุด หรือ “BEST LOCATION” นอกจากนี้ยังมีสถาบันการเงินชั้นนำที่เข้ามาร่วมแสดงงานในครั้งนี้ที่พร้อมข้อเสนอ “BEST FINANCIAL”… ให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ!!

ทั้งนี้ “งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 41” มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 15 กันยายนนี้ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าผ่าน www.housecondoshow.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Line @housecondoshow หรือ www.facebook.com/housecondoshow สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือในการจัดงานร่วมกันโดย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

หัวเว่ยเผยแพร่รายงานเชิงลึกเรื่องการใช้งาน 5G ในงาน ITU Telecom World 2019

บูดาเปสต์ ประเทศฮังการี/ 11 กันยายน 2562 – ในงาน ITU Telecom World 2019 หัวเว่ยได้เปิดตัวรายงานเชิงลึก “การใช้งาน 5G” ในระหว่างงานฟอรั่ม “5G+Gigabit: Connecting an Intelligent Future” โดยมี มร. จ้าว โห้วหลิน เลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ และ มร. ลาสซโล พัลโควิคส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนวัตกรรมและเทคโนโลยีของฮังการี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน

รายงานเชิงลึกฉบับดังกล่าวคาดการณ์ถึงลักษณะการใช้งาน 5G ในด้านการขยายศักยภาพของบรอดแบนด์ มีเดีย เอ็นเตอร์เทนเมนต์ การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการขนส่งอัจฉริยะ ทั้งยังเรียกร้องให้องค์กรอุตสาหกรรมและหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกช่วยกันส่งเสริมให้เกิดการร่วมสร้างมาตรฐานและกำหนดคลื่นความถี่ ทรัพยากรที่เพียงพอ และสภาพแวดล้อมการทำธุรกิจที่ดีอย่างจริงจัง ให้พร้อมสำหรับการติดตั้งและการใช้งาน 5G เชิงพาณิชย์ในรูปแบบต่าง ๆ


มร. หยาง เชาปิน ประธานบริหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์ 5G ของหัวเว่ย เปิดตัวรายงานเชิงลึกเรื่อง “การใช้งาน 5G”

ที่งานฟอรั่ม ซึ่งหัวเว่ย เทคโนโลยี่ จัดขึ้นในระหว่างงานประชุม ITU Telecom ประจำปี ภายใต้ธีม “5G+Gigabit: Connecting an Intelligent Future” มร. จ้าว โห้วหลิน เลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ และ มร. ลาสซโล พัลโควิคส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนวัตกรรมและเทคโนโลยีของฮังการี ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของเน็ตเวิร์ก 5G

โลกกำลังเร่งนำเทคโนโลยี 5G มาใช้ การเปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่กำลังเกิดขึ้นในหลายประเทศ โอเปอเรเตอร์ 35 รายใน 20 ประเทศทั่วโลกได้เปิดให้บริการ 5G แล้ว และอีก 33 ประเทศได้มีการจัดสรรคลื่นความถี่ 5G เรากำลังเข้าสู่ยุคของ 5G อย่างแท้จริง

ในอนาคต 5G จะเปิดพื้นที่ตลาดและโอกาสการลงทุนมากมายเป็นล้านล้านรายการ ในปี 2578 เทคโนโลยี 5G จะสร้างผลิตผลทางเศรษฐกิจทั่วโลกเป็นมูลค่าถึง 12.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งร้อยละ 80 จะเกี่ยวเนื่องกับ 5G โดยเฉพาะ รายงานเชิงลึกฉบับนี้ได้พูด 5G ใน 4 แง่มุมด้วยกัน คือ การใช้งานใหม่ๆ มาตรฐาน คลื่นความถี่ และระบบนิเวศในอุตสาหกรรม

ด้วยความก้าวหน้าของการเปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ การใช้งาน 5G ในรูปแบบใหม่ ๆ จะเกิดขึ้นมากมาย รวมถึง Enhanced Mobile Broadband, เอ็นเตอร์เทนเมนต์บนสื่อ, การผลิตภาคอุตสาหกรรม, การขนส่งอัจฉริยะ เป็นต้น เครือข่าย 5G สามารถให้บริการเน็ตเวิร์กระดับกิกะบิตประสิทธิภาพสูงและประสบการณ์การใช้งานที่เยี่ยมยอดให้แก่ผู้ใช้ การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและความเป็นอัจฉริยะเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงยุค 5G ทั้งสองสิ่งเป็นตัวอย่างของประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ซึ่งก็คือ การเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมหลายพันรูปแบบ และการพัฒนาสังคมให้ดีขึ้น

การกำหนดมาตรฐานให้เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วโลกจะช่วยผลักดันให้การใช้งาน 5G เชิงพาณิชย์มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว โดยขณะนี้ 3GPP เป็นตัวช่วยกำหนดมาตรฐานหลักของ 5G และหลังจากที่มีการประกาศมาตรฐานฉบับแรก ๆ เราก็ได้เห็นผู้ประกอบการโทรคมนาคมเปิดให้บริการเครือข่ายเชิงพาณิชย์ และการใช้การบริการ eMBB ที่สมบูรณ์บนเครือข่าย 5G มาตรฐานอันเป็นหนึ่งเดียวทั่วโลกยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อาทิ มาตรฐานฉบับที่ 16 (ปี 2020) และฉบับที่ 17 (ปี 2021) เทคโนโลยี 5G ยังคงก้าวหน้าต่อไป อันจะนำไปสู่การพัฒนาอีโคซิสเต็มในอุตสาหกรรมและการใช้งาน 5G รูปแบบใหม่ ๆ ที่ครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้น

การจัดสรรคลื่นความถี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับหน่วยงานกำกับดูแล การผสานรวมคลื่นความถี่ทั่วโลกจะช่วยลดความซับซ้อนและต้นทุนในการดำเนินการ 5G สำหรับซัพพลายเออร์ ผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคม พันธมิตรในอุตสาหกรรม และแม้แต่ผู้ใช้เอง การกระจายคลื่นความถี่ให้ครอบคลุมทั่วประเทศยังคงเป็นรูปแบบที่หน่วยงานกำกับดูแลของหลายๆ ประเทศพยายามผลักดัน ในขณะเดียวกัน การซิงโครไนซ์เครือข่ายก็ควรจะได้รับการพิจารณาด้วย เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานคลื่นความถี่และลดการแทรกแซงของสัญญาณ

5G ต้องการอีโคซิสเต็มที่มั่นคงและโปร่งใสเพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ ความสำเร็จเชิงพาณิชย์และการเติบโตในด้านความคุ้มค่าในยุค 5G รวมไปถึงความเข้มแข็งของอีโคซิสเต็ม 5G ขึ้นอยู่กับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างโอเปอเรเตอร์ เวนเดอร์ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม และหน่วยงานกำกับดูแลที่สนับสนุนด้านนวัตกรรมการใช้งาน


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เปิดแล้ว ลอนดรี้บาร์ ร้านสะดวกซักแบรนด์อันดับ 1 ในอาเซียน พร้อมบุกไทย เล็งผุด 300 สาขา ใน 3 ปี มั่นใจตอบโจทย์ลูกค้าและนักลงทุน

บริษัท ลอนดรี้บาร์ ไทย จำกัด ผู้ร่วมทุนแบรนด์ ลอนดรี้บาร์ (LAUNDRYBAR) ร้านสะดวกซักครบวงจรแบบบริการตัวเอง 24 ชั่วโมง พร้อมให้บริการฟรี น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม และน้ำยาฆ่าเชื้อ แบรนด์อันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 520 สาขาทั่วโลก นำโดย นายชานนท โตวิกกัย กรรมการบริหาร และนางสาวพิมลวรรณ ชีวเกรียงไกร ผู้บริหารฝ่ายการตลาด พร้อมด้วย มิสเตอร์ พอล อัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางซานดร้า ฉั่ว ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท ลอนดรี้บาร์ จัดงานเปิดตัวมาสเตอร์แฟรนไชส์รายเดียวในประเทศไทย และร้านลอนดรี้บาร์แฟล็กชิพเมกาสโตร์ ณ ถนนศรีนครินทร์ ซอย 42 ตรงข้ามซีคอนสแควร์ เมื่อเร็วๆ นี้ โดยบริษัทฯ ได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 50 ล้านบาทในการรุกตลาด และมั่นใจว่าจะขยายแฟรนไชส์ได้กว่า 300 สาขาทั่วประเทศ ภายใน 3 ปี เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและกลุ่มนักลงทุน


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

TGGS จัดประชุม TGGS Advisory Board Meeting ประจำปี 2562

H.E. Mr. Georg Schmidt (เกออร์ก ชมิดท์) เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ประจำประเทศไทย เป็นประธานกิตติมศักดิ์ พร้อมด้วยประธานร่วม 2 ฝ่าย คือ ศ.ดร.สุชาติ เซี่ยงฉิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และProf. Dr. Edmund Haberstroh ตัวแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยอาเค่น ประชุม TGGS Advisory Board Meeting ประจำปี ในวันพุธที่11 กันยายน พ.ศ. 2562 ณ ห้องประชุม ราชพฤกษ์ อาคารนวมินทรราชินี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งมีตัวแทนเข้าร่วมประชุมจากอุตสาหกรรมที่สำคัญเช่น ปตท. บางจาก ปูนซีเมนต์ไทย Western Digital Siemens Covestro BMW BASF B.Grimm Robert Bosch Tuv Rheinland Schaeffler Energy Absolute สภาอุตสาหกรรมไทย หอการค้าเยอรมัน-ไทย เป็นต้น และตัวแทนจากภาครัฐ เช่น กระทรวงการต่างประเทศ สถานทูตเยอรมัน DAAD สถาบัน Goethe การไฟฟ้าทั้งสาม สอวช. เป็นต้น

สืบเนื่องจากบัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย–เยอรมัน (TGGS) จัดการเรียนการสอนหลักสูตรนานาชาติทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ตามรูปแบบของมหาวิทยาลัยอาเค่น (RWTH Aachen University) สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เพื่อผลิตมหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิตที่มีศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนา ที่สอดคล้องกับความต้องการจริงของภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับองค์กรอื่นๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยดำเนินการภายใต้สัญญาข้อตกลงความร่วมมือทางด้านวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และมหาวิทยาลัยอาเค่นมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2547

เพื่อการกำกับดูแลกิจการและการดำเนินงานของบัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย–เยอรมัน (TGGS) ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ จึงได้จัดการประชุม TGGS Advisory Board Meeting เป็นประจำปีทุกปี ในการประชุมดังกล่าวได้รายงานผลการดำเนินงาน การหารือเกี่ยวกับแนวทางการทำการศึกษาและวิจัยร่วมกับภาคอุตสาหกรรม วิสัยทัศน์และทิศทางการบริหารงานของบัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย–เยอรมัน (TGGS) นอกวาระปกติแล้วยังมีการหารือเตรียมความพร้อมกิจกรรมฉลองครบรอบการก่อตั้ง 15 ปี ของบัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย–เยอรมัน (TGGS) ซึ่งจะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2563 อีกด้วย

ขวัญฤทัย ข่าว-ภาพ

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

อินโนสเปซและหัวเว่ยลงนามในเอ็มโอยู ร่วมกันพัฒนาระบบอีโคซิสเต็ม สำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศไทย

กรุงเทพฯ ประเทศไทย/ 9 กันยายน 2562 – วันนี้ อินโนสเปซและหัวเว่ยลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรมและอีโคซิสเต็มสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศไทย

บันทึกความเข้าใจฉบับดังกล่าวลงนามโดยนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานที่ปรึกษา บริษัท อินโนสเปซ และมร. เติ้ง เฟิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หัวเว่ย ประเทศไทย บันทึกฉบับนี้มีระยะเวลาสองปีและมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการสนับสนุนการพัฒนาระบบอีโคซิสเต็มสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศไทย ผ่านการแบ่งปันความรู้ การฝึกอบรมด้านเทคโนโลยี และการจัดหาบริการและการสนับสนุนเพื่อการบ่มเพาะสตาร์ทอัพ

ในฐานะผู้จัดหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมไอซีทีชั้นนำระดับโลก หัวเว่ย ร่วมกับอินโนสเปซ จะช่วยกันสร้างโอกาสให้แก่สตาร์ทอัพไทยได้แลกเปลี่ยน พัฒนา และรวบรวมความรู้ ข้อมูล และประสบการณ์ต่าง ๆ เพื่อค้นหาความสามารถใหม่ ๆ ในด้านบิ๊กดาต้า, 5G, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT) และบริการคลาวด์ ผ่านแพลตฟอร์มที่มีอยู่ของหัวเว่ย

ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย มร. เจมส์ อู๋ ประธานบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ให้เกียรติมาเป็นสักขีพยานในการลงนามระหว่างอินโนสเปซและหัวเว่ย เพื่อฉลองความร่วมมือระหว่างสองบริษัทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย

“วันนี้ผมต้องขอขอบคุณหัวเว่ยอีกครั้งสำหรับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง หัวเว่ยมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะช่วยเหลือประเทศไทยในการทรานสฟอร์มสู่ยุคดิจิทัล พร้อมมอบแพลตฟอร์มเทคโนโลยีให้สตาร์ทอัพปัจจุบันและที่กำลังจะเกิดใหม่ในประเทศของเรา” ดร. สมคิด กล่าว ระหว่างพิธีลงนาม

มร. เติ้ง เฟิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หัวเว่ย ประเทศไทย กล่าวย้ำอีกครั้งว่า หัวเว่ยมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ผลักดันนโยบายประเทศไทย 4.0 ด้วยการเป็นพันธมิตรด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ดีที่สุด เป็นผู้ให้บริการด้านการทรานสฟอร์มอุตสาหกรรมต่าง ๆ สู่ดิจิทัลและความเป็นอัจฉริยะ เป็นผู้นำร่องด้านชีวิตแบบสมาร์ท รวมถึงมีความมุ่งมั่นในการฝึกอบรมบุคลากรด้านไอซีทีและสร้างระบบอีโคซิสเต็มในอุตสาหกรรมอีกด้วย

มร. เติ้ง กล่าวเสริมว่า “เรารู้สึกชื่นชมและยินดีให้การสนับสนุนวิสัยทัศน์และความทุ่มเทของอินโนสเปซ ทางด้านการบ่มเพาะสตาร์ทอัพและการสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกันในประเทศไทย จากการก่อตั้งธุรกิจของเราและสร้างระบบอีโคซิสเต็มด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เรามีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพและผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมของไทย เพื่อช่วยขยายธุรกิจของพวกเขาไปสู่ระดับโลกและแบ่งปันประโยชน์แก่กันและกัน”


นายเทวินทร์ วงศ์วานิช (แถวที่ 1 ซ้าย) ประธานที่ปรึกษา บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด มร. เติ้ง เฟิง (แถวที่ 1 ขวา) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ (แถวที่ 2 ซ้าย) รองนายกรัฐมนตรี และ มร. เจมส์ อู๋ (แถวที่ 2 ขวา) ประธานบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

หัวเว่ยเป็นผู้จัดหาโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีและสมาร์ทดีไวซ์ชั้นนำระดับโลก ที่มีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มอิสระในการใช้ชีวิต ทำให้ทุกครอบครัวสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และสร้างแรงบันดาลใจทางด้านนวัตกรรมให้แก่องค์กรทุกรูปแบบและทุกขนาดในประเทศไทยมาเป็นเวลาร่วม 20 ปี ผ่านความร่วมมือแบบเปิดกว้างกับพันธมิตรในระบบอีโคซิสเต็ม


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส จัดอบรมผู้ตรวจสอบการเชื่อมสากล

ฝ่ายเทคโนโลยีงานเชื่อม สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส จัดฝึกอบรมหลักสูตร “ผู้ตรวจสอบการเชื่อมสากล”รุ่นที่ 8/2562 (International Welding Inspection Personnel : IWI-C Class 8/2019) ภายใต้คณะอนุกรรมการบริหารโครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่เพื่อสร้างกำลังคนที่มีสมรรถนะสูงสำหรับอุตสาหกรรม New Growth Engineer ตามนโยบาย Thailand 4.0 และการปฏิรูปการอุดมศึกษาไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ โดยได้รับอนุมัติจากสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ในการเข้าร่วมโครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ ปีงบประมาณ 2561

มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างบุคลากรทางด้านงานเชื่อมในระดับผู้ตรวจสอบงานเชื่อมสากล สำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อให้ได้การรับรองมาตรฐานการผลิตที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลเป็นผู้นำด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ตามแผนยุทธศาสตร์ของสมาคมกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ โดยอบรมระหว่างวันที่ 9 กันยายน – 24 ธันวาคม 2562 ณ ห้องอบรม 704 ชั้น 7อาคารสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย–ฝรั่งเศส

ขวัญฤทัย ข่าว/อัชณี ถ่ายภาพ


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

“ดิ อัมรินทร์” งัดแลนด์แบงก์ออกพัฒนาเพิ่มค่า-ต่อยอดธุรกิจ ผุดคอนโดฯ แบรนด์ AROON เจาะแพทย์ พยาบาล รพ.ศิริราช และนักลงทุน เปิด Pre-Sale 14-15 ก.ย. นี้ Fully Furnished ราคาเริ่ม 2.5 ล้านบาท

“ดิ อัมรินทร์” งัดแลนด์แบงก์ออกพัฒนาเพิ่มค่า-ต่อยอดธุรกิจ ผุดคอนโดฯ แบรนด์ AROON เจาะแพทย์ พยาบาล รพ.ศิริราช และนักลงทุน
เปิด Pre-Sale 14-15 ก.ย. นี้ Fully Furnished ราคาเริ่ม 2.5 ล้านบาท

การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงหรือคอนโดมิเนียมนั้น นอกจากทำเลที่อยู่ชิดติดรถไฟฟ้าจะได้รับความนิยมแล้ว ทำเลโดยรอบมหาวิทยาลัยและรอบโรงพยาบาลก็ถือว่าเป็นทำเลทองที่ได้รับความนิยมจากฝั่งผู้ประกอบการที่ต้องการมองหาที่ดินเพื่อนำมาพัฒนาโครงการรองรับกับความต้องการ (Demand) ของผู้บริโภค พื้นที่โดยรอบโรงพยาบาลศิริราช แม้จะเป็นอีกทำเลศักยภาพแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ดีเวลลอปเปอร์จะหาที่ดินมาพัฒนา ด้วยเหตุนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ครอบครัว “ธรรมเจริญ” งัดเอาที่ดินเก่าในย่านนั้นออกมาพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มต่อยอดธุรกิจจากโครงการสู่อีกโครงการตามแผนการรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

นายอรรถวุฒิ ธรรมเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดิ อัมรินทร์ จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ ดิ อัมรินทร์ เรสสิเดนซ์ (The Amarin Residence) เซอร์วิส อพาร์ตเม้นท์ย่านโรงพยาบาลศิริราช เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้นำเอาที่ดินที่อยู่บริเวณถนนพรานนกเนื้อที่ 0-2-58 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “อรุณ” (AROON) จำนวน 1 อาคาร สูง 8 ชั้น จำนวนห้องชุด 61 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการประมาณ 280 ล้านบาท ขนาดห้องชุดมีพื้นที่ใช้สอย 25.07-49.30 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาขายเริ่ม 2.5-6.4 ล้านบาทหรือราคาขายเฉลี่ย 110,000 บาทต่อตร.ม. มีห้องให้เลือก 2 แบบ คือ

· ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 25.07-49.30 ตร.ม.

· ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 47.11-49.06 ตร.ม.

ทั้งนี้ โครงการ AROON พัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ “A LIFE WELL LIVED… ชีวิตดีๆ ที่ใครก็ต้องการ” เชื่อมโยงชีวิตยุคใหม่ และการอยู่อาศัยแนว Healthy Living เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน รักษาสมดุลชีวิตให้ลงตัวในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การดูแลตัวเอง ที่สำคัญ คือดีต่อจิตใจในทุกวัน โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือ บุคลากรไม่ว่าจะเป็น แพทย์ พยาบาลที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลศิริราช รวมถึงนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่า โดยคาดว่าจะปิดการขายได้ในระยะเวลาที่รวดเร็วเนื่องจากตลาดมีความต้องการสูงประกอบกับจำนวนยูนิตที่ขายมีไม่มาก ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 4/2562 กำหนดแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 1/2564

ส่วนเงินดาวน์ประมาณ 15% ค่าส่วนกลางอยู่ที่ 55 บาทต่อตร.ม.ต่อเดือน ขณะที่ค่ากองทุน หรือ ซิงกิ้งฟันด์ จ่ายครั้งเดียวในวันโอนกรรมสิทธิ์ที่อัตรา 550 บาทต่อตร.ม. จอดรถได้ 64 % พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ พื้นที่สีเขียว ระบบรักษความปลอดภัย 24 ชั่วโมง กล้องวงจรปิด CCTV และคีย์ การ์ดเข้า-ออกอาคาร ลิฟต์

ทั้งนี้การออกแบบพื้นที่ส่วนที่เป็น “ล็อบบี้” ชั้น 1ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่งสบายตา ด้วยดีไซน์เพดานสูงถึง 6 เมตร เพิ่มบรรยากาศในการต้อนรับได้อย่างอบอุ่นทันสมัย ส่วนล็อบบี้ที่ชั้น 2 ตกแต่งแนวโมเดิร์น ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สามารถใช้เป็นมุมสบายสำหรับรับแขก หรือใช้เป็นที่นัดประชุมแบบง่ายๆ ไม่เคร่งเครียด ขณะที่ “พื้นที่ส่วนกลาง” ชั้นที่ 7-8 ประกอบด้วย ฟิตเนส สระว่ายน้ำ Infinity Pool ที่เชื่อมต่อกับความสดชื่นสีเขียวของ Sky Garden โอบล้อมการพักผ่อนอันแสนสุขของคุณด้วย วิวแม่น้ำ สถาปัตยกรรมที่สวยงามที่สุดของกรุงเทพฯ ชั้นใน สนใจสอบถามข้อมูลโครงการ AROON ได้ที่เบอร์โทร.064-141-4414 หรือที่ www.TheAmarin.co.th โดยจะเปิด
Pre-Sale ในวันที่ 14-15 ก.ย.นี้ Fully Furnished ราคาเริ่ม 2.5 ล้านบาท พร้อมทั้งได้รับของแถมจากทางโครงการคือ Apple Watch ตามเงื่อนไขโครงการ

จากจุดเด่นการพัฒนาโครงการภายใต้แนวคิดหรือคอนเซ็ปต์ “A LIFE WELL LIVED ชีวิตดีๆ ที่ใครก็ต้องการ” แล้ว ด้วยเพราะโครงการเป็นคอนโดฯ Low Rise ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง (High Privacy Condo) ความสงบเงียบ งดงาม ในโลกส่วนตัว บนถนนพรานนกที่มีจุดเด่นในด้านทำเล ที่ตั้ง ซึ่งนั่นจึงเป็นที่มาของการออกแบบโครงการที่พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน ดังนี้คือ

WELL BEING คอนโดอยู่ใกล้ได้เวลาเพิ่มทุกวัน เพียง 280 เมตร จากโรงพยาบาลศิริราช ใช้เวลาเดินเพียงแค่ 3 นาที, ใกล้จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าและท่าเรือ เพียง 750 เมตร จากสถานีศิริราช และท่าเรือวังหลัง, ใกล้แหล่งอาหาร และจับจ่ายใช้สอย ที่มีให้เลือกทั้งย่านวังหลัง ตลาดพรานนก และอรุณอัมรินทร์ อีกทั้งยังใกล้แหล่งที่พักผ่อน และพื้นที่สีเขียว อาทิ สวนสราญรมย์ สวนรมณีนาถ สวนหลวงพระราม 8 และแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน

WELL DESIGNED งานดีไซน์ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ครบประโยชน์ใช้สอยแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์แบรนด์โมเดิร์นฟอร์ม ส่วนสุขภัณฑ์เลือกใช้แบรนด์ อเมริกันสแตนดาร์ด พื้นที่ส่วนกลาง ฟิตเนส และสระว่ายน้ำ จัดวางไว้ให้ที่ชั้นบนสุด สามารถมองเห็นวิว วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร และ กรุงเทพฯ ชั้นในโดยรอบได้แบบพาโนราม่า

WELL MANAGED จัดการเรื่องบ้านอย่างมืออาชีพ ประกอบด้วย Rental Management เพิ่มความสะดวกให้แก่นักลงทุนด้วยบริการรับฝากห้องเพื่อปล่อยเช่าทั้งสัญญาระยะสั้นและยาว พร้อมบริการจัดหาผู้เช่า และการจัดการแบบครบวงจร, ระบบ Security ระบบความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง Security Guard ประจำ Barrier Gate ที่จุดทางเข้า CCTV และระบบ Access Control ด้วย Key Card เข้า-ออกอาคาร

พร้อมกันนี้นายอรรถวุฒิ ยังกล่าวในตอนท้ายว่า บริษัทฯ มีที่ดินที่รอการพัฒนาอีกหลายแปลงทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด บางแปลงก็พร้อมที่จะนำเอาออกมาพัฒนา บางแปลงต้องรอเวลา เนื่องจากติดสัญญาเช่าจากผู้เช่า โดยในปี 2563 บริษัทฯ จะนำเอาที่ดินอีกแปลงที่อยู่ในย่านพรานนกออกพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม โครงการที่ 2 เป็นการสร้างแบรนด์ต่อเนื่องจากโครงการ AROON ซึ่งเป็นโครงการแรก จากนั้นก็จะพัฒนาที่ดินย่านแบริ่งเป็นลำดับต่อไป ส่วนที่ดินแปลงอื่นๆที่เหลือเช่น ย่านศรีสมาน 40 ไร่ และที่ จ.นครนายก 120 ไร่นั้นปัจจุบันมีคนเช่า ซึ่งบริษัทฯ ยังไม่มีแผนที่จะพัฒนา

******************************

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: คุณปรียา เทศนอก โทร. 099 465 -5945


 

Exit mobile version