สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) เผยงาน Thailand e-commerce Week 2019 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ 2562 ประสบความสำเร็จเกินคาด ทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้การตอบรับล้นหลาม มีผู้เข้าร่วมชมงานกว่าหมื่นคน มั่นใจแพ็ตฟอร์ม Young talent สามารถต่อยอดขยายความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาอื่นๆ เพื่อสร้าง Workforce รุ่นใหม่ รองรับ e-Commerce Park พร้อมตั้งเป้าผุด Silicon Valley ด้านอีคอมเมิร์ซอย่างครบวงจรของประเทศไทย
นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.)หรือ ETDA กล่าวว่าการจัดงาน Thailand e-commerce Week 2019 ภายใต้แนวคิด e-Commerce In The Park , e-Commerce is now #หาเงินก่อนไม่รอแล้วนะ ระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซและผู้สนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมากจนทำให้ในช่วง 3 วันมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 10,000 คน
การจัดงานในครั้งนี้ ยังได้มีการเปิดตัว “Young talent Platform” เพื่อรองรับ Workforce โดยระดมสมองจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ Start up ต่างๆ และจะเป็น Platform แรกของประเทศ ที่จะเป็นศูนย์กลางทางด้าน e-Commerce อย่างครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษาในการทำธุรกิจ e-Commerceหางาน หาเงินทุน จับคู่ธุรกิจ สื่อการเรียนรู้ออนไลน์ e-Leaning พร้อมกับเชื่อมต่อกับ e-Marketplace รวมทั้งให้บริการจดทะเบียนธุรกิจของภาครัฐ สร้าง Community ให้ Young Talent ได้มาแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ขณะเดียวกันก็ให้บริการด้าน e-Commerce เช่น Logistics, Payment, Online Marketing พร้อมตั้งเป้าให้เกิด Silicon Valley (ซิลิคอน วัลเล่ย์) ด้านอีคอมเมิร์ซอย่างครบวงจรของประเทศไทย และยังมีการมอบรางวัล “Thailand e-Commerce Awards: People’s Choice 2019” สำหรับสุดยอดธุรกิจออนไลน์ขวัญใจคนไทยแห่งปี ให้แก่ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ และพิเศษสุดของปีนี้ที่เปิดโอกาศให้กับนิสิตนักศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมในการประกวดผลิตสื่อสร้างสรรค์และแผนธุรกิจ เพื่อสนับสนุนอีคอมเมิร์ซไทยในกิจกรรม”รวมพลังยังทะเล้น (Young Talent)” 3 ด้าน ทั้ง Viral VDO, Jingle และBusiness Pitching มูลค่าเงินรางวัลกว่า 300,000 บาท อีกด้วย
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซ์ โดยการลงนามกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (มทร.พระนคร) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจในยุคดิจิทัลในการพัฒนาและส่งเสริมให้เกิดบุคลากร (Workforce) ที่มีความรู้และทักษะที่ทันสมัยในยุคดิจิทัล เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และ Enterprise รวมทั้งการลงนามความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)เพื่อร่วมกันพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนการคุ้มครองผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Consumer Protection) ให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาปัจจุบันและการรับมือกับสถานการณ์ที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเป็นดิจิทัลมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังก่อให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจของผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าผู้ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์และโลจิสติกส์ ที่จะสามารถพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ และยังเป็นการจุดประกายให้เกิดผู้ประกอบการออนไลน์หน้าใหม่ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ไทยสามารถรักษาอันดับ 1 ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซของอาเซียนได้ โดยในปี 2561 มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซพุ่งสูงถึง 3.2 ล้านล้านบาท และปี 2562 คาดว่าเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของ B2C (Business to Consumer) รวมทั้งจำนวนผู้ค้าออนไลน์ และนักช้อปออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นด้วย
การเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามยุค รวมทั้งการพัฒนาของเครื่องมือสื่อสารการทำตลาด และจำนวนคนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในอัตราเพิ่มขึ้นต่อเนื่องด้วยราคาการใช้งานที่ถูกลง ล้วนส่งผลให้ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยยังมีโอกาสเติบโต ทั้งจำนวนผู้ซื้อและผู้ขายผ่านออนไลน์เพิ่มมากขึ้น
“เทรนด์การทำตลาดอีคอมเมิร์ซหลังจากนี้ จะเป็นการนำข้อมูล หรือ Big Data มาพัฒนาธุรกิจอีคอมเมิร์ซมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเอ็นเตอร์ไพรส์ ที่พบว่าใช้บิ๊กดาต้าวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อนำเสนอสินค้าใหม่ๆ 100% , ใช้เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคอย่างแม่นยำและการวางแผนด้านการตลาด 92.85% และใช้วิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อม กำหนดยุทธศาสตร์การจำหน่ายสินค้า 85.71% รวมทั้งธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์มีการใช้ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) มาช่วยดำเนินธุรกิจด้านการบริหารและจัดการบริหารลูกค้าแล้ว 76.93% และกลุ่มที่ยังไม่มีการพัฒนาด้าน AI 23.07%” นางสุรางคณา กล่าว
ทั้งนี้ ETDA ยังเตรียมต่อยอดความสำเร็จจากการจัดงานในครั้งนี้ สำหรับพัฒนาการจัดงาน Thailand e-Commerce Week 2020 เพื่อรองรับนักธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่จะขยายตลาดเพิ่มมากขึ้นเพื่อรองรับ e-Commerce Park ที่จะเป็นศูนย์กลางด้านอีคอมเมิร์ซอย่างครบวงจรแห่งแรกในไทยต่อไป